ก่อน 7 หลัง 7

wangstation profile image wangstation
ก่อนอื่นคงต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า "ประจำเดือน" ชื่อก็บอกแล้วว่า มาประจำทุกเดือน นั่นก็หมายความว่า โดยประมาณ หนึ่งเดือน ก็จะมาที บางคนมาแน่นอน 30 วันก็มาทีทุกครั้ง บาง คน 28 วันมาทีทุกครั้ง แต่บางคนก็เอาแน่ไม่ได้ บางที 25 วันก็มา พอเดือนถัดมา 29 วันจึงจะมา แต่ละรอบยาวไม่เท่ากัน แล้วจะนับกันอย่างไร


"วันที่ของรอบเดือน" (Cycle day)ให้นับวันแรกที่ประจำเดือนเป็นวันที่ 1 แล้วนับไปเรื่อยๆ จนถึงวันสุดท้ายก่อนรอบเดือนครั้งต่อไปจะมา เรียกว่า วันที่ของรอบเดือน เช่น รอบเดือนมาวันที่ 5 6 7 8 9 เมษายน วันที่ 5 เมษายนก็เป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน วันที่ 12 เมษายน ก็เป็นวันที่ 8 ของรอบเดือน เป็นต้น

"1 cycle" หรือ "1 รอบเดือน" คือ จำนวนวันในแต่ละรอบ ให้นับจากวันแรกที่รอบเดือนมา เป็นวันที่ 1 แล้วนับไปเรื่อยๆ จนถึงวันสุดท้าย ก่อนวันรอบเดือนรอบใหม่จะมา ถ้านับได้ 30 วัน ก็เรียกว่า 1 รอบ (1 cycle) มี 30 วัน ถ้านับได้ 26 วัน ก็เรียกว่า 1 รอบ (1 cycle) มี 26 วัน เป็นต้น

ถ้า รอบเดือนของคุณ8คือ 1 รอบ (1 cycle) มีจำนวนเท่ากันทุกครั้ง เรียกว่า รอบเดือนมา "แน่นอน" แต่ถ้าแต่ละรอบมีจำนวนวันไม่เท่ากัน เช่น รอบก่อนโน้น มี 28 วัน รอบที่แล้วมี 23 วัน (23วันก็มาแล้ว) แต่พอมาเดือนนี้ มี 30 วัน (ตั้ง30วัน จึงจะมา) อย่างนี้เรียกว่า รอบเดือนมา "ไม่แน่นอน"

ถามว่า ถ้ารอบเดือนของคุณมา วันที่ 15 ทุกเดือน ไม่ว่าเดือนนั้นจะมีกี่วัน ก็จะมาวันที่ 15 เสมอ เช่น เดือนมกราคม เลือดมาวันที่ 15 เดือนกุมภาพันธ์เลือดก็มา 15 เดือนมีนาคม รอบเดือนก็มาวันที่ 15 คุณก็บอกว่ารอบเดือนมาตรงทุกเดือน (คือมาตรง วันที่ 15 ทุกครั้ง) แต่อย่างนี้ถือว่า รอบเดือนมาไม่แน่นอนนะครับ เพราะแต่ละรอบ มีจำนวนวันไม่เท่ากัน ลองนับดูซิครับ ตรงนี้มีความสำคัญในการนับวันไข่สุก

ตัวอย่าง รอบเดือนของผู้หญิงมาดังนี้

14 15 16 17 18
12 13 14 15 16
13 14 15 16 17
11 12 13 14 15
9 10 11 12 13 มกราคม 2543
กุมภาพันธ์ 2543
มีนาคม 2543
เมษายน 2543
พฤษภาคม 2543


ช่วงมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ มี 29 วันต่อรอบ
ช่วงกุมภาพันธ์ ถึง มีนาคม มี 30 วันต่อรอบ
ช่วงมีนาคมถึง เมษายน มี 30 วันต่อรอบ
ช่วงเมษายน ถึง พฤษภาคม มี 29 วันต่อรอบ

จะเห็นว่า รอบเดือนของคนนี้ มาค่อนข้างสม่ำเสมอ คือ 29 หรือ 30 วัน ดังนั้นจึงสามารถที่จะนับวันปลอดภัยได้

สิ่งที่จำเป็นต้องรู้
 

1. ในช่วงระหว่างรอบเดือน เราจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ ช่วงก่อนไข่ตกกับช่วงหลังไข่ ตกช่วงหลังไข่ตกจะมีระยะแน่นอนคือประมาณ 14 วัน ส่วนช่วงก่อนไข่ตก ระยะเวลาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้แต่ละคนมีวันรอบเดือนไม่เท่ากัน

2. เมื่อไรก็ตามที่มีไข่ตก ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ อีก 14 วันรอบเดือนก็จะมา


ทีนี้คุณคงพอคำนวณวันไข่ตกได้แล้วใช่ไหมครับ เดือนมกราคม ไข่ตกวันที่ 28 มกราคม ใช่ไหมครับ (นับถอยหลังจากวันที่ 12 กุมภาพันธ์มา 14 วัน) เดือนกุมภาพันธ์ ไข่ตกวันที่ 28 ใช่ไหมครับ (นับถอยหลังจาก 13 มีนามา 14 วัน กุมภามี 29 วัน )

ดังนั้นถ้าคุณนับวันปลอดภัย 7 หน้า 7 หลัง วันปลอดภัยคือ 14 15 16 17 18 19 20 มกราคม และ 5 6 7 8 9 10 11 กุมภาพันธ์
ไข่ตกวันที่ 28 มกราคม มีชีวิตถึง 29 มกราคม อสุจิมีชีวิต 2 วัน 26 -27 มกราคม
ดังนั้นวันไม่ปลอดภัยจริงๆคือ 26 27 28 29 มกราคม เท่านั้น ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ วันที่ 21 22 หรือ 23 มกราคม ซึ่งเลย 7 วันแรกไปแล้ว ก็ยังปลอดภัยหรือมีเพศสัมพันธ์ ตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ เช่นวันที่ 1 - 2 - 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งยังไม่ถึง 7 วันก่อน ก็ไม่ท้องใช่ไหมครับ

(ย้ำอีกครั้งว่ากำลังพูดถึงคนที่มีรอบเดือนมาตรงแน่นอน เช่น 28 วันมาครั้งทุกเดือน หรือ 24 วันมาครั้ง ทุกเดือน หรือ 30วันมาครั้งทุกเดือน)

กรณีถ้ารอบเดือนคุณมาสั้น เช่น 21 วันมาครั้ง จะเป็นอย่างไร

ในกรณีที่รอบเดือนสั้นแค่ 21 วัน

14 15 16 17 18 มกราคม 2543 มีรอบเดือน
4 5 6 7 8 กุมภาพันธ์ มีรอบเดือน (21 วันก็มาแล้ว)
ถ้าเป็นกรณีนี้ ถ้านับวันปลอดภัย 7หน้า 7 หลัง
วันปลอดภัยคือ 14 15 16 17 18 19 20 มกราคม 28 29 30 31 มกราคม และ 1 2 3 กุมภาพันธ์ วันไข่ตกคือ 21 มีนาคม (นับถอยหลังมา 14 วัน) จะเห็นว่า ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ วันที่ 20 มกราคม เชื้ออสุจิยังมีฤทธิ์ที่จะสืบพันธุ์ได้ถึงวันที่ 21
ดังนั้น 7 วันแรกที่ว่าปลอดภัยจึงไม่จริงซะแล้ว ถ้าวันรอบเดือนคุณสั้น !!!

แล้วถ้ารอบเดือน 25วัน มาครั้งล่ะ (ยาวขึ้นอีกหน่อย) ก็แปลว่า

14 15 16 17 18 มกราคม 2543 มีรอบเดือน
8 9 10 11 12 กุมภาพันธ์ มีรอบเดือน (ครบ25 วันก็มาแล้ว)
วันไข่ตกคือ 25 มีนาคม (นับถอยหลังมา 14 วัน)
ถ้าเป็นกรณีนี้ ถ้านับวันปลอดภัย 7 หน้า 7 หลัง วันปลอดภัยคือ 14 15 16 17 18 19 20 มกราคม และ 1 2 3 4 5 6 7 กุมภาพันธ์ ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ วันที่ 21 หรือ 22 ซึ่งเลย 7 วันแรกไปแล้วก็ยังสบายใจได้ (แต่ก็เฉียดฉิว)

แล้วถ้ารอบเดือนมายาวๆ เช่น 34 วันมาครั้งล่ะ (ต้อง 34 วันมาครั้ง ทุกๆ เดือนนะครับ) ก็แปลว่า

14 15 16 17 18 มกราคม 2543 มีรอบเดือน
17 18 19 20 21 กุมภาพันธ์ มีรอบเดือน (ครบ34 วันจึงจะ)
วันไข่ตกคือ 3 กุมภาพันธ์ (นับถอยหลังมา 14 วัน)
กรณีนี้ ถ้านับวันปลอดภัย 7 หน้า 7 หลัง วันปลอดภัยคือ 14 15 16 17 18 19 20 มกราคมและ 10 11 12 13 14 15 16 กุมภาพันธ์ ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ หลังวันที่ 20 มกราคมไปอีกหลายๆวันจนสิ้นเดือนมกราคม ก็ยังสบายใจได้

เห็นไหมครับ ว่าถ้ารอบเดือนคุณยิ่งยาว ระยะปลอดภัย 7 วันแรก ก็จะยาวออกไปได้อีกหลายวัน แต่ถ้ารอบเดือนคุณสั้น ยิ่งสั้นก็ยิ่งไม่ปลอดภัย ใน 7 วันแรก แล้วถ้าคุณไปนับ 7วันหลังหมดประจำเดือน อะไรจะเกิดขึ้น พอนึกออกนะครับ

แล้วถ้ารอบเดือนคุณมาสะเปะสะปะล่ะ เดี๋ยวมาช้าเดี๋ยวมาเร็ว เอาแน่นอนไม่ได้ จะทำยังไงดี

ถ้ารอบเดือนของคุณมาสะเปะสะปะ ก็แปลว่าการตกไข่ของคุณ เอาแน่นอนไม่ได้ คุณไม่สามารถกะวันตกไข่ได้เลย จะมานับวันแบบข้างต้นไม่ได้ คุณต้องใช้สูตรนี้หาช่วงไม่ปลอดภัย (Unsafe period) ครับ (ช่วงอันตราย)

First fertile (unsafe) day = Shortest cycle - 18 ( = วันแรกที่เริ่มไม่ปลอดภัย )
Last fertile (unsafe) day = Longest cycle - 11 ( = วันสุดท้ายที่ไม่ปลอดภัย )

แล้ว Shortest day กับ Longest day คืออะไร
 

คือ วันของรอบเดือนที่สั้นที่สุดและยาวที่สุดใน 12 รอบสุดท้าย
12 รอบมาจากไหน ก็มาจากที่คุณได้บันทึกวันรอบเดือนไว้ย้อนหลัง
ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำ คือ บันทึกรอบเดือน 12 เดือน เป็นอย่างน้อยเพื่อมาคำนวณ ยกตัวอย่างเช่น

วันที่เริ่มมีรอบเดือน ระยะรอบเดือน
1 มกราคม 2543
1 กุมภาพันธ์
29 กุมภาพันธ์
28 มีนาคม
27 เมษายน
26 พฤษภาคม
22 มิถุนายน
19 กรกฎาคม
15 สิงหาคม
12 กันยายน
10 ตุลาคม
8 พฤศจิกายน
5 ธันวาคม -
31
28
28
30
29
27
27
27
27
27
29
27


Shortest cycle = 27 days : Longest cycle = 31 days
First fertile day = 27 - 18 = 9 th ( วันที่ 9 นับจากวันแรกที่รอบเดือนมา)
Last fertile day = 31 - 11 = 20 th ( วันที่ 20 นับจากวันแรกที่รอบเดือนมา)
โปรดดูปฏิทินเดือนธันวาคม 2543

5 = First mens day วันแรกที่รอบเดือนมา
13 = First fertile day ( 9 th 9วัน นับจากวันที่ 5 )
24 = Last fertile day ( 20 th 20 วันนับจากวันที่ 5 )


ดังนั้นวันไม่ปลอดภัย (Fertile or unsafe period) คือ 9th - 20th cycle day ซึ่งก็คือวันที่ 13 ธันวาคม - 24 ธันวาคม วันอันตราย
การบันทึกรอบเดือน 12 เดือนนี้ต้องเป็น 12 เดือนสุดท้ายเสมอ
ดังนั้น พอขึ้น เดือนมกราคม 2544 คุณก็ต้องตัดของ มกราคม 2543 ออก เอา เดือนมกราคม 2544 มาเป็นเดือนสุดท้าย รวมแล้วก็ยังเป็น 12 เดือนเหมือนเดิม แล้วเอามาคำนวณตามสูตร
ดังนั้นถ้าคุณจะใช้สูตรนี้ คุณต้องมีการจดบันทึกรอบเดือนไว้ก่อนแล้ว แล้วจะมีหญิงไทยสักกี่คนที่ได้บันทึกไว้ คุณจึงต้องเตรียมไว้อีก 1 ปี จึงจะใช้ได้

แล้วสูตรนี้มาจากไหน



ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เพิ่มเติม ก็คือ

3. ไข่เมื่อตกออกมาแล้ว ความสามารถที่จะปฏิสนธิ มีระยะเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง
4. เชื้ออสุจิเมื่อปล่อยออกมาแล้ว ความสามารถที่จะปฏิสนธิ มีระยะเวลาประมาณ 48 ชั่วโมง
5. วันที่ไข่ตก อาจคลาดเคลื่อนได้ ก่อน หรือหลัง 2 วัน (บวกลบสองวัน)


สรุปวันไม่ปลอดภัย หรือวันมหาภัย มี 8 วัน

อสุจิมีอายุ 2 วัน เผื่อตกก่อน 2 วัน วันไข่ตก เผื่อตกช้าไป 2 วัน
2 วัน 2 วัน 1 วัน 2 วัน 1 วัน ที่ไข่ยังผสมได้


หรือถ้าจะเขียน เป็นตัวเลข วันนับถอยหลังจากก่อนที่รอบเดือนจะมาครั้งต่อไป

วันก่อนรอบเดือน 18 17 16 15 14 13 12 11
ครั้งต่อไปจะมา sperm survival ovulation can occur oval survival


ดังนั้นวันอันตราย หรือ Fertile period จึงอยู่ระหว่าง 18 - 11 วัน ก่อนวันแรกของรอบเดือนครั้งต่อไป จากหลักการนี้ จะเห็นว่า ระยะไม่ปลอดภัย (Fertile period) ในรอบประจำเดือนที่สั้น และในรอบประจำเดือนที่ยาว จะไม่ตรงกัน

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง Fertile period ในสตรีที่มีรอบประจำเดือนสั้นที่สุด 26 วัน และยาวที่สุด 30 วัน
mens cycle
26
30 first fertile day
26-18 = 8
30-18 = 12 last fertile day
26-11 = 15
30-11 = 19


ในรอบประจำเดือนสั้น จะถึงช่วงไม่ปลอดภัย (Fertile period) ก่อนรอบประจำเดือนยาว



เราไม่สามารถบอกได้ว่า ในเดือนต่อไปรอบประจำเดือนจะสั้นหรือยาว Possible fertile period หรือวันมหาภัย จึงต้องคิดดังนี้
First fertile day = shortest cycle - 18
Lasts fertile day = longest cycle – 11

ไข่ตกวันไหน รู้ไหมเอ่ย

เรามีหลายวิธีที่จะรู้วันไข่ตกแน่นอน
1. วัดอุณหภูมิวันไข่ตก
2. ตรวจฮอร์โมน LH

วัดอุณหภูมิวันไข่ตก การหาวันไข่ตก โดยการวัดอุณหภูมิ ( Basal body temperature หรือ BBT) จะต้องใช้ Women's thermometer (มีขายพร้อมแผ่นจดบันทึก ตามร้านขายยาใหญ่ๆ ราคาราว 100 - 200 บาท) ให้วัดตอนตื่นนอนทุกเช้าก่อนลุกจากเตียง โดยอมไว้ใต้ลิ้น 5 นาที บางแห่งนิยมวัดทางช่องคลอด แต่ไม่สะดวกในทางปฏิบัติ และผลก็ไม่แตกต่างกันนัก จะวัดทางใดก็ได้ แต่จะต้องใช้ทางเดียวเสมอ และเมื่อใช้แล้วจะต้องล้างทำความสะอาด สลัดปรอทเพื่อพร้อมใช้ในครั้งต่อไปเสมอ ถ้ามีเหตุพิเศษเช่น มีไข้ ไม่สบาย จะต้องบันทึกหมายเหตุไว้ด้วย
อุณหภูมิจะต่ำในช่วงก่อนไข่ตก (ผลจากฮอร์โมนเอสโตรเจน) และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ในช่วงหลังไข่ตก (ผลจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน)
ก่อนที่อุณหภูมิที่ต่ำในช่วงแรก จะเปลี่ยนเป็นระดับสูงขึ้นนั้น จะมีช่วงหนึ่งที่มันตกต่ำลงไปอีก (Drop) ประมาณ 24 - 48 ชั่วโมง (แต่บางรายอาจไม่พบ เพราะเราวัดเพียงวันละครั้งเท่านั้น) และไข่จะตก ก่อนที่อุณหภูมิ drop หรือระหว่างอุณหภูมิเปลี่ยนจากต่ำไปสูง

ตรวจฮอร์โมน LH ปัจจุบันมีแผ่นตรวจหาฮอร์โมน LH ขาย ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาใหญ่ๆ ถ้าตรวจแล้วให้ผลบวก ก็แปลว่า อีก 36 ชั่วโมงจะมีไข่ตก

สรุป

การนับวันปลอดภัย ถ้าคุณจะใช้จริงๆ ก็ใช้ได้ แต่ต้องใช้อย่างรู้จริง ใช้ร่วมกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น เช่นถุงยางอนามัย และที่สำคัญ แต่ละรอบเดือนคุณต้องมาแบบ "แน่นอน" เท่านั้น

ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

9 ปีที่ผ่านมา
wangstation Icon 49 52 ความสำคัญที่บางคนก็ลืม อ่าน 3,450 12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
wangstation Icon ท่วงท่าเพิ่มรสลีลารัก อ่าน 5,114 12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
wangstation Icon เตรียมตัว 5 นาทีก่อนมีเซ็กส์ อ่าน 5,797 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
wangstation Icon Quick SEX (มีเซ็กส์แบบฟาสฟู๊ด) อ่าน 2,287 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
wangstation Icon การทำหมันชาย อ่าน 3,206 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
wangstation Icon ข้อดีของการมีเซ็กส์ อ่าน 4,097 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
wangstation Icon จูบ การใช้มือ และไคลแมกส์ อ่าน 3,549 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา