สะพายกระเป๋าเที่ยวฮ่องกง วันที่ 3 [Mong Kok + บันไดเลื่อนยาว + ทาร์ทไข่ต้นตำรับ + Man Mo Temple + ชมการแสดง Symphony of Light]

วันนี้เราตั้งใจจะไปกินร้านชื่อดังที่เป็นเชฟจากโรงแรมมาเปิดเอง ร้านนี้หนังสือเที่ยงฮ่องกงทุกเล่มจะมีต้องมีแนะนำครับ แต่พอไปถึงร้าน ราวๆ 9 โมงกว่า ปรากฏว่าคนเยอะมาก ด้วยความที่หิวจะแย่แล้วก็เลยรอไม่ไหวครับ ขอไปทานร้านอื่นแล้วกัน

เดินต่อขึ้นไป (ทางด้านทิศเหนือ) เรื่อยๆผ่านโซนที่เป็นตลาดสดมาอีก

ก็จะพบกับร้านนี้ครับ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นร้านดังหรือปล่าว แต่ด้วยความหิวเลยต้องเอาร้านนี้แล้วล่ะ

ร้านนี้คิวไม่เยอะเลยครับ ไปถึงก็เข้าไปนั่งได้เลย เป็นร้านอาหารฮ่องกงแบบต้นตำรับเลย พนักงานพูดไทยไม่ได้นะ ภาษาอังกฤษพอได้

สั่งอาหารไม่ยากครับ เมนูแนะนำจะมีรูปให้ดูก็ชี้ๆเอาได้เลย หรือจะเอาเมนูภาษาอังกฤษก็ได้

มื้อนี้ผมสั่งบะหมี่น้ำ กับข้าวผัด

คือจำไม่ได้เหมือนกันว่าเค้าเรียกว่าอะไร แต่มันจะไม่เหมือนกันบะหมี่น้ำของบ้านเรานะ น้ำซุปจะออกข้นๆมันๆกว่า ถ้ามากินช่วงอากาศหนาวๆจะดีเลย

พร้อมกับสั่งของกลางมาอีกอย่าง เหมือนจะเป็นฮะเก๋านะ แต่จะผัดกับซอสพริกเผา ออกมันๆนิดหน่อย แต่อร่อยดีครับ ที่ฮ่องกงนี้ อาหารจีนเค้าจะออกมันๆเลี่ยนๆทุกร้านเหมือนกันหมดครับ สาวๆไม่ต้องกลัวอ้วนเลย เพราะเดี๋ยวออกไปเดินช้อปปิ้งทั้งวันก็เบิรน์หมดแล้วครับ

แต่ผมว่าทีเด็ดอยู่ที่ชามะนาวแก้วนี้ล่ะ หอมอร่อยสดชื่นแก้เลี่ยนได้ดีเลยครับ

อิ่มแล้วก็ออกมาเดินกันต่อ

ภาพนี้เป็นร้านข้างๆของร้านอาหารเมื่อกี้ครับ เผื่อใครไปไม่ถูกก็เอารูปไปถามทางคนแถวๆนั้นได้

ร้านขายเครื่องสำอางค์เยอะมากๆ ราคาก็ไม่แพงครับ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ของฮ่องกงเอง

ถ้าคุณไปเดินย่าน Mong kok หรือแถวๆ Tim Sha Shui คุณจะเห็นร้านขายน้ำผลไม้ พวกมะม่วงปั่น กีวี่ปั่น เยอะมากๆ ประมาณร้านชานมไข่มุกหรือร้านกาแฟสดแถวถนนนิมมานเหมมิน

ด้วยความที่อยากลองว่าจะรสชาติจะเป็นยังไง ก็เลยต้องลองครับ

จัดไปคนละ 1 แก้วครับ ชี้ๆจากรูปหน้าร้านได้เลย

ปรากฏว่าผมเฉยๆครับ มันไม่ได้อร่อยอะไรมากมาย มันจะออกข้นๆมันๆครับเหมือนใส่กะทิเข้าไป

ถ้าอยากได้แบบน้ำผลไม้ปั่นเพียวๆเหมือนบ้านเรา รู้สึกจะไม่มีนะครับ

กินเสร็จแล้วก็ทิ้งขยะให้ถูกถังด้วยนะครับ บ้านเมืองเค้าสะอาดดีมากๆ

หลังจากเดินเล่นย่าน Mong kok เสร็จแล้ว เดี๋ยวเราจะมุ่งหน้าไปยังบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดครับ ที่นี่เค้าจะเรียกว่า Central Mid Escalator ครับ (คนละอันกับบันไดเลื่อนที่ตึก Langham นะ)

นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Central ก่อนเลย

ถ้านั่งมากจากฝั่งเกาลูน ก็จะมาลงที่สถานี Central ได้เลย แค่ 3-4 สถานีเองครับ ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนนะ

ออกจากสถานี Central แล้วให้เดินออกมาทางถนน Pedder Street แล้วเข้าถนนหลัก Queen Road Central หรือคุณจะเดินไปถนนอื่นก่อนก็ได้ แต่ให้อิงถนนใหญ่ Queens Road Central ไว้นะครับ มันจะมีรถรางวิ่งอยู่กลางถนน เดินมาสักพักจะเจอธนาคารกรุงเทพด้วย เป็นธนาคารแรกที่มาเปิดสาขาในฮ่องกงครับ

เดินเส้นเลียบรถรางมาก็ได้ครับ หรือจะไปเดินถนนที่มันขนานไปกับเส้นนี้ก็ได้ พวกร้านใหญ่ๆ ร้านแบรนด์เนม ส่วนมากจะอยู่ถนน Queens แต่พวกร้านอาหารเล็ก ร้านขายของจุกจิกต่าง จะอยู่ในซอยย่อยอีกที

เดินมาเรื่อยๆตามทางจะมีป้ายคอยบอกว่าเจ้า Central Mid Escalator ไปทางใหน ประมาณสักไม่ถึงกิโลนะครับ

ตอนนี้เราขึ้นมาบนบันไดเลื่อนแล้ว บันไดเลื่อนอันนี้เค้าจะแบ่งเป็นช่วงๆนะครับ ไม่ได้เป็นอันเดียวยาวๆ

ตอนนี้เราขึ้นมาบนบันไดเลื่อนแล้ว บันไดเลื่อนอันนี้เค้าจะแบ่งเป็นช่วงๆนะครับ ไม่ได้เป็นอันเดียวยาวๆ

ขออนุญาตินำภาพจากที่อื่นมาให้ดูกันนะครับ พอดีไม่มีรูปที่เห็นตัวบันไดเลื่อนเต็มๆ

จริงๆแล้วตัวบันไดเลื่อนเองมันไม่ค่อยจะน่าสนใจหรอกครับ แต่ที่เด่นกว่าคือบรรยากาศรอบๆ กับที่ร้านค้าต่างๆมากกว่า

ปล. บันไดเลื่อนที่นี่เค้าจะเดินทางเดียวนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะสลับกันเช้า-เย็นหรือปล่าว อย่างตอนผมไป เค้าจะเลื่อนขึ้นอย่างเดียว เวลาลงต้องเดินลงเอง แต่ในรูปบางเว็บ จะเห็นเป็นเลื่อนลง แล้วเดินขึ้น

แถวนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเดินแถวดิโอลด์สยาม วังบูรพา เยาวราชทำนองนี้ มีพวกร้านขายของเก่า ของ classic ของหายากเยอะแยะเลย

ทีเด็ดของย่าน Central Mid Escalator อยู่ที่นี่เลยครับ ร้านทาร์ตไข่ต้นตำรับ ผมว่าที่นี่อร่อยกว่าที่มาเก๊าอีกนะ ร้านจะห่างจากแนวบันไดเลื่อนไม่ไกลครับ แค่ 100 เมตรกว่าๆเท่านั้น บางเวลาอาจจะเห็นคิวหน้าร้านเยอะหน่อย ใครที่เคยกินทาร์ตไข่ของ KFC แล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าอร่อยต่างกันฟ้ากะเหวเลยครับ ของที่นี่จะหวานๆนุ่มลิ้น เนื้อละเอียดกว่าเยอะ

ซื้อทาร์ตไข่เสร็จแล้วก็เดินกลับมายังถนน Queens Road Centrl กันต่อ ย่าน Central นี้จะมีพวกตึกสูงๆ Office สำนักงานเต็มไปหมด รวมทั้งตึก IFC ที่สูงที่สุดด้วย (แต่น่าจะโดนตึก ICC ทำลายสถิติไปแล้วมั้ง)

ถ้าใครมาฮ่องกงครั้งแรก จะไปเดินเล่นที่ตึก IFC ก็ได้นะครับ เค้าจะมี Shopping Mall ด้านล่างใหญ่มากๆ แต่พอดีผมเคยไปแล้วก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ก็เลยไม่ได้ไปครับ

มุมถ่ายรูปสวยๆ

เดี๋ยวเราจะเดินไปยังวัด Man Mo Temple กันครับ อยู่ในย่าน Central นี่ล่ะ ถ้าใครตั้งจะมาแค่วัด Man Mo อย่างเดียวก็นั่งรถไฟฟ้ามาลง Central Station จากนั้นก็ออกมาที่ Exit C หรือ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสีแดงไปลงที่ Sheung Wan MTR Exit A2 จากนั้นก็เดินไปถนน Ladder Street จนถึง Hollywood Road ก็ได้ครับ

หาป้ายที่เขียน Hollywood Rd. (Antique Street) ไว้นะครับ แล้วถ้ามองเห็นตึกสูงๆลายๆตึกนี้ก็แสดงว่าถึงแล้วจ้า (ถ้าขึ้นบันไดเลื่อน Central Mid ก็จะมองเห็นตึกนี้เลยครับ)

แวะเข้าไปสักการะแล้วก็ถ่ายรูปเลยครับ

ประตูทางเข้าอลังการมาก

ข้างในวัดเค้าจะแขวนธูปลอยไว้ จริงๆเค้ามีชื่อเรียกนะ แต่ผมจำไม่ได้ แสงจะส่องลอดผ่านหลังคาลงมาสวยมากๆครับ แต่กลิ่นควันธูปจะเยอะนิดนึง ใครเป็นภูมิแพ้อาจจะอยู่นานไม่ไหว

ข้างในวัดเค้าจะแขวนธูปลอยไว้ จริงๆเค้ามีชื่อเรียกนะ แต่ผมจำไม่ได้ แสงจะส่องลอดผ่านหลังคาลงมาสวยมากๆครับ แต่กลิ่นควันธูปจะเยอะนิดนึง ใครเป็นภูมิแพ้อาจจะอยู่นานไม่ไหว

เดินเข้าไปข้างในวัด Man Mo Temple

พวกรูปปั้นต่างๆจะเป็นทองทั้งหมด ไม่แน่ใจว่าเป็นทองสัมฤทธิ์หรือปล่าว แต่สวยมากๆครับ

เดินออกมารอบๆวัด Man Mo จะมีร้านขายของเก่าเต็มไปหมด พวกนี้ราคาแพงนะครับ มีตั้งแต่แพงนิดๆ ไปยันโคตรแพงเลยครับ

อย่างร้านนี้แบบนี้จะแพงมากๆ ใครสนใจซื้อชิ้นใหญ่ๆเค้าก็มีบริการส่งกลับประเทศให้ด้วยนะ

เดินกลับไปยัง Central ครับ เดี๋ยวเราจะข้ามกลับไปยังฝั่งเกาลูนอีกครั้ง เพื่อไปหาอะไรกินแล้วก็รอชมการแสดง Symphony of Light ตอน 2 ทุ่มคร้บ

ผมนั่งรถไฟมาเดินย่าน Tim Sha Tsui แถวๆโรงแรม The Mira ครับ

อ่อ..ลืมบอกไปครับ ที่ฮ่องกงถ้านอกๆเมืองจะหาห้องน้ำเข้ายากหน่อยครับ แต่ถ้าในเมืองแถวๆ Tim Sha Tsui เราเดินไปแอบเข้าตามโรงแรมต่างๆได้เลยครับ

หรือจะมาเข้าห้องน้ำตามพวก Shopping Mall ก็ได้ครับ แต่ห้องน้ำตามห้างจะอยู่ลึกแล้วก็หายากมาก บางห้างต้องเดินไปอีก 3-4 ชั้น ไม่เหมือนห้องน้ำตามห้างบ้านเรา 

อย่างรูปนี้ผมจำได้ว่าถ่ายระหว่างนั่งรอแฟนไปเข้าห้องน้ำ เกือบ 20 นาทีแนะ นึกว่าหลงกันซะแล้ว

ระหว่างเดินเล่นรอชม Symphony of Light ก็แวะทานข้าวเย็นกันก่อนครับ (จริงๆน่าจะเรียกว่ามื้อเที่ยงมากกว่า) ร้านติ่มซำนี้ผมจำชื่อไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ถ่ายหน้าร้านมาด้วยครับ ด้วยความที่หิวจัด แต่ร้านจะเป็นร้านสีแดงๆทั้งร้านเลย ขนาดประมาณห้องแถวเดียว ถามจาก bell boy หน้าโรงแรม Mira เอาครับ ห่างจากโรงแรม Mira สัก 300 เมตรได้

ร้านอาหารพวกติ่มซำที่นี่ รสชาติอร่อยพอๆกันเกือบทุกร้านครับ ไม่หนีกันมาก เอาว่าสะดวกร้านใหนก็เข้าได้เลย อย่างร้าน Lee Garden ที่นิยมๆกันก็ใช้ได้ครับ ผมเคยไปกินมาก่อนหน้านี้ รสชาติมันก็อร่อยเหมือนๆกันครับ

กินอิ่มแล้วก็ออกไปเดินช้อปปิ้งต่อแถว Tim Sha Tsui แล้วก็ถนน Park Lane ครับ

มีแต่ร้านแบรนด์เนมดังๆ ใครกระเป๋าแบนแฟนทิ้ง ก็ได้แต่ยืนดูตาปริบๆละครับ

ฮ่องกงนี่ไม่มีของถูกนะครับ มีแต่ของแบรนด์เนมที่ราคาถูกกว่าบ้านเรา เอา pocket money ไปไม่เกินหมื่นนี่ซื้ออะไรแทบไม่ได้ ได้แต่พวก Giordano Bossini พวกนั้น

เริ่มมืดแล้วครับ เดินมุ่งหน้าไปยัง Harbour ริมอ่าวกันเลย

บรรยากาศแถวๆ Harbour City

รีบมาหาที่นั่งรอชม Symphony Of Light นะครับ วิวที่ดีที่สุดคือขั้นไปบนชั้นลอยตรงริมอ่าวครับ ผมขึ้นไปตั้งแต่ทุ่มครึ่งก็คนแทบเต็มแล้ว

อยากได้ภาพสวยๆ แนะนำให้เอาขาตั้งกล้องเล็กๆติดมาด้วยครับ

เริ่มแล้วครับ ตรงจุดชม เค้าจะมีลำโพงเปิดเป็นเพลงตามจังหวะแสงไฟด้วยครับ เพลงออกแนวจีนๆนิดนึง

ใช้เวลาในการแสดงประมาณ 20 นาทีครับ เรียกว่าดูกันให้อิ่มไปเลย

จบการแสดงแล้วเราก็ไปเดินถ่ายรูปหน้าโรงแรม Peninsula กันต่อครับ

เดี๋ยวคืนนี้เราจะนั่งเรือ Ferry ข้ามฟากไปยังมาเก๊านะครับ เรือเฟอรรี่จะมีอยู่ 2 บริษัท นั่งอันใหนก็ได้ครับ เรือจะออกทุกครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเจอกันอีกทีที่มาเก๊าในวันพรุ่งนี้นะครับ

ปล.. ใครรู้ตัวว่าเมารถ เมาเรือง่าย แนะนำให้กินยาแก้เมาก่อนลงเรือนะครับ เพราะบางวันลมมันแรงมาก แล้วเรือจะโคลงๆครับ ผมเคยนั่ง 4 ครั้ง เมาเรือไป 2 ครั้งจังหวะเจอช่วงลมแรงครับ

ติ่มซำน่ากินมากๆเลยยย

แลมโบมันเป็นอะไรที่ เฮ้อออ

 

 

เจ๋งมากคับ