หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา ฉบับใหม่ ที่ผ่านความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. ในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ดังนี้
หลักเกณฑ์
๑. กลุ่มสอบคัดเลือก คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือก
๑.๑ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
๑.๑.๑ ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดส่วนราชการ (ที่มีฐานะเป็นกรม หรือเทียบเท่ากรม) นั้น
๑.๑.๒ มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
๑.๑.๓ ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ ๒ ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป
๑.๑.๔ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
๑.๒ ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
๑.๒.๑ ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดส่วนราชการ (ที่มีฐานะเป็นกรม หรือเทียบเท่ากรม) นั้น
๑.๒.๒ มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
๑.๒.๓ ดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา มาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือ
(๒) รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ
(๓) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ
(๔) เจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ
(๕) บุคลากรทางการศึกษาอื่น ที่มีประสบการณ์การบริหารไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่ม หรือหัวหน้าหน่วย หรือผู้อำนวยการกลุ่ม มาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี หรือ
(๖) ครู ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะครูชำนาญการ
๑.๒.๔ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
๒. กลุ่มคัดเลือก คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือก
๒.๑ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
๒.๑.๑ ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดส่วนราชการ (ที่มีฐานะเป็นกรม หรือเทียบเท่ากรม) นั้น
๒.๑.๒ มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
๒.๑.๓ ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ ๒ ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป และมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะครูชำนาญการมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
๒.๑.๔ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
๒.๒ ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
๒.๒.๑ ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดส่วนราชการ (ที่มีฐานะเป็นกรม หรือเทียบเท่ากรม) นั้น
๒.๒.๒ มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้
๒.๒.๓ ดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี และมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่ารองผู้อำนวยการชำนาญการ หรือ
(๒) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา มาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี และมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ หรือ
(๓) รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี และมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่ารองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชำนาญการพิเศษ หรือ
(๔) บุคลากรทางการศึกษาอื่น ที่มีประสบการณ์การบริหาร ไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่ม หรือหัวหน้าหน่วย หรือผู้อำนวยการกลุ่ม มาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี หรือ
(๕) ครู มาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ ๒ ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป และมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี
๒.๒.๔ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
๓. ผู้มีสิทธิเข้ารับการสอบคัดเลือกและคัดเลือกจะต้องเข้ารับการประเมินตามหลักสูตรที่กำหนดท้ายหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ดังนี้
๓.๑ กลุ่มสอบคัดเลือก ประเมิน ๒ ภาค
ภาค ก ประเมินสมรรถนะทางการบริหาร ความรู้ทั่วไป และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน
ภาค ข ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง
(๑) ประเมินวิสัยทัศน์ แนวคิด วิธีการ และข้อเสนอในการพัฒนาสถานศึกษา
(๒) สัมภาษณ์
๓.๒ กลุ่มคัดเลือก ประเมิน ๒ ภาค
ภาค ก ประเมินจากผลงานที่ประสบความสำเร็จ
ภาค ข ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง
(๑) ประเมินวิสัยทัศน์ แนวคิด วิธีการ และข้อเสนอในการพัฒนาสถานศึกษา
(๒) สัมภาษณ์
๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้ดำเนินการประเมิน ภาค ก ทั้งกลุ่มสอบคัดเลือก และกลุ่มคัดเลือกพร้อมกัน โดยผู้สมัครเข้ารับการประเมิน ภาค ก จะต้องแสดงความจำนงเลือกสมัครเป็นผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือ ผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา หรือ ผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
กรณี ผู้สมัครมีคุณสมบัติที่สมัครได้ทั้ง ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มสอบคัดเลือก และกลุ่มคัดเลือก ให้มีสิทธิสมัครได้เพียงกลุ่มเดียว
๕. ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้ดำเนินการประเมิน ภาค ข ทั้งกลุ่มสอบคัดเลือก และกลุ่มคัดเลือกพร้อมกัน โดยกำหนดสัดส่วนตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้งสำหรับกลุ่มสอบคัดเลือก และกลุ่มคัดเลือกให้ใกล้เคียงกัน
๖. สำหรับส่วนราชการอื่น (ที่มีฐานะเป็นกรม) นอกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้งในส่วนราชการ เป็นผู้ดำเนินการทั้ง ภาค ก และ ภาค ข
๗. ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานออกหนังสือรับรองคะแนนผลการประเมิน ภาค ก ทั้งกลุ่มสอบคัดเลือก และกลุ่มคัดเลือก เฉพาะผู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินภาค ก โดยหนังสือรับรองคะแนนผลการประเมิน ภาค ก ให้ใช้ได้ ๒ ปี
ผู้ที่ได้หนังสือรับรองคะแนนผลการประเมินภาค ก ผ่านเกณฑ์ ให้นำไปใช้สมัครเข้ารับการประเมิน ภาค ข ได้ไม่เกิน ๓ เขตพื้นที่การศึกษา
๘. เกณฑ์การตัดสิน
ภาค ก ผู้ที่ผ่านการประเมินภาค ก ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐ จึงจะได้รับหนังสือรับรองคะแนนผลการประเมิน ภาค ก จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ภาค ข ผู้ที่ผ่านการประเมิน ภาค ข ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐ จึงจะได้รับการขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกตามประกาศของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้งในส่วนราชการ โดยเรียงลำดับจากผู้ได้คะแนนสูงสุดจากมากไปน้อย
กรณีที่ได้คะแนน ภาค ข เท่ากัน ให้พิจารณาผู้ที่มีคะแนนประเมินวิสัยทัศน์ แนวคิด วิธีการ และข้อเสนอในการพัฒนาสถานศึกษามากกว่าอยู่ในลำดับที่ดีกว่า ถ้าได้คะแนนประเมินวิสัยทัศน์ แนวคิด วิธีการ และข้อเสนอในการพัฒนาสถานศึกษาเท่ากัน ให้พิจารณาจากคะแนนสัมภาษณ์ ถ้าได้คะแนนสัมภาษณ์เท่ากันอีก ให้พิจารณาผู้ที่อาวุโสมากกว่าตามหลักการจัดลำดับอาวุโสในราชการ ตามที่ ก.พ.กำหนด อยู่ในลำดับที่ดีกว่า
๙. การขึ้นบัญชีได้ผู้รับคัดเลือก ภาค ข ตามประกาศรับสมัคร
ประกาศขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก กลุ่มสอบคัดเลือกและกลุ่มคัดเลือก ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด โดยให้จัดเรียงลำดับคะแนนผู้ได้รับคัดเลือกที่ได้คะแนนสูงสุดจากมากไปหาน้อย แยกเป็น ๒ บัญชี คือ บัญชีสอบคัดเลือก และบัญชีคัดเลือก ให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกทั้ง ๒ บัญชี เข้ารับการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่ ก.ค.ศ.กำหนด ก่อนบรรจุ แล้วบรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับคัดเลือกตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัครของกลุ่มสอบคัดเลือก และกลุ่มคัดเลือก
๑๐. การประกาศขึ้นบัญชีผู้ได้รับคัดเลือกเป็นบัญชีรวม ภาค ข และการยกเลิกบัญชีรวม ภาค ข
๑๐.๑ หลังจากบรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับคัดเลือกตามลำดับผลคะแนนกลุ่มสอบคัดเลือกและกลุ่มคัดเลือกตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัครแล้ว ให้ประกาศขึ้นบัญชีผู้ได้รับคัดเลือกที่เหลือในบัญชีสอบคัดเลือก และบัญชีคัดเลือก เป็นบัญชีรวมบัญชีเดียว โดยนำรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกที่เหลือจากการบรรจุและแต่งตั้งครั้งแรกของกลุ่มสอบคัดเลือกและกลุ่มคัดเลือกมาจัดเรียงลำดับที่ใหม่ ตามลำดับคะแนนผลการประเมิน ภาค ข จากมากไปหาน้อย เป็นบัญชีผู้ได้รับคัดเลือกบัญชี ภาค ข บัญชีเดียว เพื่อใช้บรรจุและแต่งตั้งต่อไป ทั้งนี้ บัญชีรวม ภาค ข มีอายุการขึ้นบัญชีเท่ากับบัญชี ภาค ก
๑๐.๒ กรณีผู้ได้รับการคัดเลือกกลุ่มสอบคัดเลือก และกลุ่มคัดเลือก ที่ได้คะแนนภาค ข เท่ากัน ให้พิจารณาผู้ที่มีคะแนนประเมินวิสัยทัศน์ แนวคิด วิธีการ และข้อเสนอในการพัฒนาสถานศึกษามากกว่าอยู่ในลำดับที่ดีกว่า ถ้าได้คะแนนประเมินวิสัยทัศน์ แนวคิด วิธีการ และข้อเสนอในการพัฒนาสถานศึกษาเท่ากัน ให้พิจารณาจากคะแนนสัมภาษณ์ ถ้าได้คะแนนสัมภาษณ์เท่ากันอีก ให้พิจารณาผู้ที่อาวุโสมากกว่าตามหลักการจัดลำดับอาวุโสในราชการ ตามที่ ก.พ.กำหนด อยู่ในลำดับที่ดีกว่า
๑๐.๓ ผู้สมัครเข้ารับการประเมินที่ได้ขึ้นบัญชีผู้ได้รับคัดเลือกมากกว่า ๑ เขตพื้นที่การศึกษา หากได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในเขตพื้นที่การศึกษาใดแล้ว ให้ยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้ได้รับคัดเลือกผู้นั้นในเขตพื้นที่การศึกษาที่เหลือทุกบัญชี
๑๑. การบรรจุและแต่งตั้ง ให้บรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับคัดเลือกที่ผ่านการพัฒนาแล้วตามลำดับที่ และมีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานตำแหน่ง ดังนี้
๑๑.๑ การบรรจุและแต่งตั้งครั้งแรก ให้เรียกบรรจุและแต่งตั้งผู้ได้รับคัดเลือกตามลำดับที่ในบัญชีกลุ่มสอบคัดเลือก และบัญชีคัดเลือก ตามจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัคร
กรณี ที่มีตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัครเพียง ๑ ตำแหน่ง ให้เรียกบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากบัญชีสอบคัดเลือกก่อน
๑๑.๒ การบรรจุและแต่งตั้งหลังจากการบรรจุและแต่งตั้งครั้งแรกแล้ว ให้เรียกบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากบัญชีรวม