ลักษณะของข้อสอบอัตนัย
- เป็นข้อสอบที่ให้ผู้ตอบเขียนคำตอบได้อย่างเสรีตามความรู้ ความคิดเห็นของแต่ละบุคคล
- ต้องเรียบเรียงคำตอบให้ตรงกับคำถามที่กำหนดให้
ขั้นตอนการตอบข้อสอบอัตนัย
1. การพิจารณาลักษณะคำถาม
v คำถามของข้อสอบที่มุ่งให้อธิบาย
- มุ่งให้อธิบายวิธีการ หรือ อธิบายความรู้ในเรื่องต่างๆ
- มุ่งวัดความจำและความเข้าใจของผู้ตอบ
- คำถามที่ใช้มักเป็นคำถามที่เฉพาะเจาะจง เช่น “มีความหมายว่าอย่างไร” “คืออะไร” “จงอธิบาย” “จงเปรียบเทียบ”
v คำถามของข้อสอบที่มุ่งให้แสดงความคิดเห็น
- ต้องการให้ผู้ตอบแสดงเหตุผลและหลักฐานอ้างอิง ประกอบการแสดงความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
- อาจแสดงความคิดเห็นเชิงสนับสนุนหรือโต้แย้งก็ได้
- คำถามที่ใช้ เช่น “เห็นด้วยหรือไม่” “มีความคิดเห็นในเรื่อง....อย่างไร” “จงแสดงความคิดเห็น”
v คำถามของข้อสอบที่มุ่งให้อภิปราย
- ต้องแยกแยะประเด็นของเรื่องที่อภิปรายได้ชัดเจนเป็นประเด็นๆ และสามารถวิเคราะห์ได้ครบถ้วนทุกประเด็น
- ในกรณีที่อภิปรายปัญหาส่วนรวมผู้ตอบต้องชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสีย สาเหตุและแนวทางในการแก้ไขปัญหา รวมถึงข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์
- คำถามที่ใช้ เช่น “จงอภิปราย”
2. การวิเคราะห์และเตรียมคำตอบ
หลักสำคัญในการตอบข้อสอบคือ คำตอบต้องสอดคล้องกับลักษณะคำถามโดยตอบเรียงตามลำดับคำถาม และต้องตอบให้ครบทุกประเด็นคำถาม
3. วิธีเขียนคำตอบข้อสอบอัตนัย
1. ตอบเป็นข้อ ๆ แล้วขยายความ
2. ตอบเป็นย่อหน้า
3. ตอบแบบความเรียง
ตัวอย่างและวิธีการตอบข้อสอบอัตนัย
(1) มุ่งให้อธิบาย
คำถาม ภาษาพูดมีลักษณะแตกต่างจากภาษาเขียนอย่างไร
คำตอบ ภาษาพูดมีลักษณะแตกต่างจากภาษาเขียนดังนี้(ตอบเป็นข้อ ๆ )
1. ภาษาพูดมีการใช้ภาษาท่าทางและสถานการณ์แวดล้อมประกอบ เพื่อช่วยขยายความให้ผู้ฟังเข้าใจความหมายของคำพูดได้ดีขึ้น ซึ่งในการเขียนจะไม่มีส่วนดังกล่าวและอาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ไม่ชัดเจนเท่ากับภาษาพูด
2. ภาษาพูดมักออกเสียงไม่ตรงตามรูปเขียน มีการย่อคำหรือกร่อนคำ ซึ่งถ้าเป็นภาษาเขียนจะเขียนตรงตามรูปและเขียนคำเต็ม
3. ภาษาพูดเป็นภาษาที่ใช้คำเฉพาะกลุ่ม คำภาษาปาก คำที่ต่ำกว่าภาษามาตรฐานได้ ในขณะที่ภาษาเขียนจะใช้คำเหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่อใช้เพื่อสร้างความสมจริงในงานเขียนประเภทบันเทิงคดี
คำถาม เหตุใดจึงต้องมีทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน
คำตอบ (ตอบเป็นความเรียง)
สาเหตุที่ต้องมีทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนเพราะภาษาทั้งสองประเภทนี้ ทำหน้าที่ในการสื่อสารตามโอกาสที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ภาษาพูดใช้ในโอกาสทั่ว ๆ ไปกับบุคคลที่คุ้นเคยมากกว่าจะใช้ในแบบทางการ เพราะภาษาพูดจะช่วยให้แสดงความรู้สึกและสร้างบรรยากาศได้ดีกว่า ส่วนภาษาเขียนนิยมใช้ในแบบที่เป็นทางการและกึ่งทางการเพื่อแสดงความสุภาพกับบุคคลที่ติดต่อด้วย
(2) มุ่งให้แสดงความคิดเห็น
คำถาม ท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่า “มนุษย์คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกร้อนขึ้นทุกวัน” จงเขียนแสดงความคิดเห็นโดยให้เหตุผลอย่างน้อย 2 ประการ พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้ชัดเจน
แนวทางการตอบ (ยังไม่ได้เรียบเรียง) ตอบเป็นย่อหน้า ดังนี้
- ย่อหน้าที่ 1 เกริ่นนำ // ตอบให้ชัดเจนว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
- ย่อหน้าที่ 2 เหตุผลประการแรก/ประการที่ 1 ที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย (มักเขียนเป็นประโยคใจความสำคัญ) + ส่วนขยาย (อธิบายเหตุผล / ตัวอย่างประกอบ ฯลฯ)
- ย่อหน้าที่ 3 เหตุผลประการต่อมา/ประการที่ 2 ที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย(มักเขียนเป็นประโยคใจความสำคัญ) + ส่วนขยาย (อธิบายเหตุผล + ตัวอย่างประกอบ ฯลฯ)
- ย่อหน้าสุดท้าย สรุปประเด็นที่กล่าวไปแล้ว + แสดงความคิดเห็นใหม่ ๆ เพิ่มเติม
ตัวอย่างเหตุผล (ในกรณี เห็นด้วย) เช่น
1. มนุษย์ตัดไม้ทำลายป่าเพราะความเห็นแก่ตัว ทำให้โลกขาดสมดุล
2. ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้มีการใช้สารเคมีทั้งในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม
(3) มุ่งให้อภิปราย
คำถาม จงอภิปรายเรื่อง “ปัญหาโภชนาการของคนไทยในปัจจุบัน” ตามที่ท่านได้ศึกษามา
แนวทางการตอบ (ยังไม่ได้เรียบเรียง)
- ย่อหน้าที่ 1 ความเป็นมาของปัญหา
ปัจจุบันคนไทยเป็นจำนวนมากประสบปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งเกิดจากการบริโภค เช่น โรคมะเร็ง โรคพยาธิใบไม้ในตับ โรคอ้วน เป็นต้น
- ย่อหน้าที่ 2 -4 (สาเหตุละ 1 ย่อหน้า) สาเหตุของปัญหา
1. การขาดความรู้ทางโภชนาการ เนื่องจากผู้บริโภคอาจมีการศึกษาน้อยหรืออาจไม่สนใจเรื่องคุณค่าของอาหารที่รับประทาน คำนึงถึงความอร่อยแต่เพียงอย่างเดียว
หลักฐาน ผู้บริโภคยังนิยมรับประทานอาหารประเภทสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ ก้อย ปลาร้า
เป็นต้น หรืออาหารประเภทปิ้ง ย่าง รมควัน เช่น ไก่ย่าง หมูปิ้ง เป็นต้น
2. ความนิยมบริโภคอาหารแบบตะวันตก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากชีวิตที่เร่งรีบทำให้ผู้บริโภคต้องการความสะดวกรวดเร็ว การบริโภคอาหารจานด่วน (ฟาสฟู้ด) จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม อีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่วัยรุ่นนิยมใช้สินค้าต่างประเทศ เพื่อความทันสมัยจึงนิยมรับประทานอาหารจานด่วนเลียนแบบต่างประเทศด้วย
หลักฐาน การรับประทานไก่ทอด ไอศกรีม โดนัท พิซซ่า
3.ความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่มีเวลาประกอบอาหาร จึงซื้ออาหารตามบาทวิถี ซึ่งบางครั้งไม่สะอาดเท่าที่ควร หรือมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ
หลักฐาน – ทำให้ต้องเร่งรีบ
- การที่กรุงเทพมหานครมีโครงการมอบตราดาวเขียว ได้แก่ ร้านอาหารที่ประกอบการได้สะอาดถูกอนามัย แสดงว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าวมากนัก
4.ความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการ ซึ่งเน้นความสะดวกรวดเร็วและลดต้นทุนในการผลิต
หลักฐาน – การชุบผักสดด้วยสารฟอร์มาลินเพื่อยืดอายุผักสดให้จำหน่ายได้นานยิ่งขึ้น
- การไม่ล้างผักเพื่อความสะอาดรวดเร็วในการประกอบอาหารทั้งยังเป็นการลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย
- ย่อหน้าที่ 5 วิธีแก้ปัญหา
1. ให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเผยแพร่ในรูปของเอกสาร สื่อวิทยุ โทรทัศน์ ป้ายประกาศ (โปสเตอร์) ต่างๆ
2. สร้างค่านิยมในการบริโภคอาหารไทย ซึ่งไม่เพิ่มคลอเรสเตอรอล แต่มีคุณค่าครบถ้วนตามหลักโภชนาการ
3. ควรให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายอาหารเพื่อให้คำนึงถึงอันตรายจากอาหารที่เกิดแก่ผู้บริโภคเป็นสำคัญ
4. ปลูกจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเพื่อให้ผู้ประกอบการเลิกกระทำในสิ่งที่จะก่อปัญหา
“ทุโภชนาการ”
- ย่อหน้าที่ 6 ย่อหน้าสรุป สรุปประเด็นที่กล่าวไปแล้ว