เผาคุกฮอนดูรัสตายเพิ่มกว่า 300 ศพ
วันนี้ (16 ก.พ.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโคมายากัว ประเทศฮอนดูรัส เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่า เหตุเพลิงไหม้เรือนจำเมืองโคมายากัว ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเตกูซิกัลปา เมืองหลวงของฮอนดูรัส ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 90 กิโลเมตร โดยเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.50 น.ของคืนวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 11.50 น.เช้าวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 358 ศพ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้ต้องขังที่เสียชีวิตในกองเพลิง ออกมาจากซากอาคารเรือนจำ โดยศพกองทับถมกันจำนวนมาก เนื่่องจากเพลิงลุกไหม้อยู่นานราว 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ถึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ผู้รอดชีวิตในเหตุเพลิงไหม้เรือนจำครั้งเลวร้ายที่สุดในโลกในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ผู้ต้องขังพยายามร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อต้องเผชิญกับกลุ่มควันและไฟที่กำลังเผาผลาญอย่างรุนแรง แต่ก็หนีออกมาไม่ได้ ติดอยู่ในรั้วลูกกรงภายในห้องขัง บางคนก็พยายามใช้น้ำในห้องอาบน้ำราดตัวเอาไว้ หวังว่าจะรอดหรือบรรเทาความร้อนลงไปได้บ้าง บ้างก็ปีนขึ้นบนหลังคา และหนีรอดไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่สำลักควันและขาดอากาศหายใจ ขณะที่โฆษกหน่วยดับเพลิงระบุว่า ผู้คุมหลบหนีออกจากเรือนจำขณะเกิดเพลิงไหม้ ทำให้ผู้ต้องขังติดอยู่ในห้องขัง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ไม่มีกุญแจที่จะไขเข้าไปช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ติดอยู่ข้างใน จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เจ้าหน้าที่สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าอาจเป็นเพราะไฟฟ้าลัดวงจร แต่จากการเปิดเผยของนางเปาลา คาสโตร ผู้ว่าเมืองโคมายากัว ซึ่งเคยทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่เรือนจำแห่งนี้ กล่าวว่า ได้รับโทรศัพท์จากผู้ต้องขังรายหนึ่งบอกว่า เป็นคนจุดไฟเผาเรือนจำแห่งนี้ เพื่อฆ่าตัวตาย และทุกคนที่อยู่กันในนี้จะต้องตายทั้งหมด ดังนั้นผู้ว่าหญิงของเมืองโคมายากัว จึงรีบแจ้งหน่วยกาชาดและหน่วยดับเพลิงทันที แต่พวกเขาก็ต้องรออยู่หน้าเรือนจำ นานราวครึ่งชั่วโมง เพราะผู้คุมยิงปืนขึ้นฟ้า คิดว่ามีการจลาจลหรือแหกคุกหนีของผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังภายในเรือนจำแห่งนี้ อยู่กันอย่างแออัด นับจำนวนทั้งสิ้น 856 คน สูงกว่าถึงสองเท่าของจำนวนผู้ต้องขังที่เรือนจำสามารถรับได้ เพราะเรือนจำแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคปี 1940 หรือกว่า 70 ปีแล้ว รองรับผู้ต้องขังได้ 400 คน และ ผู้ต้องขังส่วนใหญ่จะเป็นผู้ต้องขังในคดีอุกฉกรรจ์ เช่น ฆาตกรรมและปล้นชิงทรัพย์ แต่ก็มีบางคนที่คดียังไม่ได้รับการพิจารณา นอกจากนั้นแล้วขณะเกิดเหตุก็มีผู้คุมเข้าเวรอยู่เพียง 12 คนเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ นายริชาร์ด ออร์โดเนซ ผู้พิพากษาศาลสูงของฮอนดูรัส ได้รับมอบหมายให้เข้ามาสอบสวนกรณีนี้ สำหรับฮอนดูรัสได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีอัตราเฉลี่ยของคดีอาชญากรรมสูงที่สุดในโลกอีกประเทศหนึ่ง เรือนจำที่ใช้คุมขังผู้ต้องขังมีสภาพทรุดโทรม และอยู่กันอย่างแออัด เกิดการจลาจลขึ้นบ่อยครั้งรวมทั้งเพลิงไหม้ แม้ทางเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะหาทางปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่สาเหตุสำคัญคือขาดงบประมาณ ฮอนดูรัสมีเรือนจำทั้งหมด 24 แห่ง ผู้ต้องขังทั่วประเทศ 11,846 คน เหตุเพลิงไหม้เรือนจำที่เกิดขึ้นในฮอนดูรัสครั้งนี้ ถือว่าร้ายแรงที่สุดในโลก นับตั้งแต่ปี 2473 เป็นต้นมา ในเหตุเพลิงไหม้เรือนจำที่รัฐโอไฮโอของสหรัฐ มีผู้ต้องขังเสียชีวิต 322 ศพ
http://www.dailynews.co.th
http://www.dailynews.co.th
http://www.dailynews.co.th
http://www.dailynews.co.th
http://www.dailynews.co.th
http://www.dailynews.co.th