วันสงกรานต์ใกล้เข้ามาทุกที ใครที่ปักหลักจะอยู่กรุงเทพก็คงหาที่เล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่แน่ๆ แต่ถ้าใครมีแผนจะขับรถกลับต่างจังหวัด หรืออยู่ในกรุงเทพนี่แหละ แต่ต้องใช้รถสัญจรไปมาระหว่างวันสงกรานต์แล้วล่ะก็ นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ เมื่อพ้นสงกรานต์ไปแล้ว ว่าจะต้อง ดูแลรถยนต์ อะไรบ้าง
สิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือล้างรถ เพราะรถทุกคนแน่ๆ ต้องโดนสาดน้ำ หรือละเลงแป้งเต็มทั่วรถ น้ำก็ไม่รู้ว่าสะอาดมากไหม หรือดินสอพองและแป้ง ถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้ก็จะเป็นคราบน้ำ และทำความสะอาดได้ยากกว่าเดิม ส่งผลให้สีรถกระดำกระด่างปนเปนกันไป ล้างรถให้ไว อย่าดองไว้นาน
ยิ่งถ้าใครใช้รถเป็นรถบรรทุกนำและขับฝ่าดงสงกรานต์ หรือตัวเปียกๆ แล้วขึ้นรถขับกลับบ้านเลย ห้องโดยสารอาจจะกลายเป็นที่สะสมความชื้นได้ ไม่ว่าจะเบาะหรือพรม ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับภายในห้องโดยสาร ควรเปิดประตูทิ้งเอาไว้ เพื่อตากแดด หรือเอาพัดลมเป่าที่เบาะหรือพรม ก็จะช่วยลดความชื้นได้ไปเยอะ หรือถ้ารู้สึกว่าหนักหนาเกินไป ก็ใช้บริการ คาร์แคร์ ก็ได้
รถติดมหาศาลกับหน้าเทศกาลมักจะเป็นของคู่กัน รถติดนานๆ หม้อน้ำก็จะทำงานหนักมาก เพราะต้องระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา โอกาสที่หม้อน้ำจะทะลัก หรือระเหายไปย่อมมีสูงมาก ยิ่งเป็นรถที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป อาจจะมีจุดซึมอยู่ตามท่อยาง หรือข้อต่างๆ ควรเช็คหม้อน้ำ และหม้อพักด้วย
ถนนในประเทศไทยมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งต่างจังหวัดย่อมเจอเป็นหลุมเป็นบ่อมากกว่าเดิม บางทีก็เป็นลูกรังขรุขระอีกด้วย หรือวิ่งด้วยความเร็ว ก็อาจจะเจอหลุมใหญ่จนทำให้ช่วงล่างของรถพังง่ายขึ้น ดังนั้น หลังสงกรานต์ก็ควรนำรถไปเช็คช่วงล่างดีกว่า ถ้าเจอปัญหาก็จะได้แก้ไขได้ทัน
ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่การใส่ใจกับปัญหาเล็กๆ ก็จะเป็นตัวช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ใช่ว่า ไม่ใช่หน้าเทศกาลอุบัติเหตุไม่ลดน้อยลงหรอก รถชนกัน น้อยลงแน่ๆ ขอบอกเลยว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ