Article By : Platform : E-Mail : platform@mxphone.com
นับตั้งแต่ Nokia ส่งมือถือทัชโฟนทำตลาดแมสครั้งแรกในนาม Nokia 5800 (ไม่นับ Nokia E90 Business Phone ที่ประสบความล้มเหลวในปี 2007) เมื่อต้นปี 2009 ก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับสาวก Nokia ทั่วประเทศไทยรวมไปถึงทั่วโลกที่นับวันถอยหลังเฝ้ารอคอยว่าเมื่อไรน้า Nokia จะออกมือถือทัชโฟนสู้กับ iPhone ซะที ปล่อยให้ Apple ตีกินตลาดทัชโฟน+สมาร์ทโฟนไปเต็ม ๆ ถึง 2 ปีอย่างนี้ Nokia ต้องฮึดสู้เสียหน่อย
ช่วงเปิดตัว Nokia 5800 ใหม่ ๆ ถือว่ากระแสแรงทีเดียวนะ อาจเป็นเพราะ Nokia เป็นพี่ใหญ่แห่งวงการมือถือโลกชิมลางทำตลาดทัชโฟนครั้งแรก เสียงกระทบก็เลยดังฮือด้วยประการฉะนี้ ยังไม่พอความแรงของ Nokia 5800 ทำให้บรรดาแฟนนานุแฟน Nokia ถึงขนาดขุดข้อดีหลายประการจนทำให้ iPhone แทบจะกลายเป็นที่ทับกระดาษเรือนหมื่นเลย
การมาของ Nokia 5800 อยู่ในจังหวะที่ดีที่ผู้บริโภคเริ่มตอบรับตลาดทัชโฟนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้ง Nokia ทำการบ้านในการพัฒนา 5800 มาดีมาก อัพสเปคและฟีเจอร์ชนิดที่ล้ำหน้ากว่าทัชโฟนรุ่นอื่นในตลาดช่วงนั้น ได้แก่ Samsung F480 ที่ Nokia นำหน้าด้วยขนาดหน้าจอใหญ่กว่า, เป็นระบบปฏิบัติการ Symbian, ราคาแนะนำก็ถูกกว่า แม้กระทั่ง iPhone คู่แข่งทางอ้อมก็ยังต้องโดนเปรียบเทียบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Nokia กอบโกยยอดขาย 5800 แบบฉายเดี่ยวไปไหนต่อถึงไหนไปได้ราวครึ่งปีกว่า ๆ ขืนปล่อยให้ฉายเดี่ยวอย่างนี้ต่อไปอาจจะได้ตายเดี่ยวแน่นอนเพราะคู่แข่งราย สำคัญทั้ง Samsung และ LG ต่างพากันบุกระห่ำทัชโฟนหลากรุ่นหลากราคาแบบนี้ เห็นที Nokia ต้องรีบเอาตัวรอด
สิ่งที่ Nokia จะต้องว่ายน้ำข้ามฝั่งเอาตัวรอดให้จงได้กลับกลายเป็นตลาดระดับ High-End แทนที่จะเป็นตลาดล่างถึงกลาง นั่นเป็นเพราะ Nokia ยังมัวหลงระเริงกับตระกูล Nseries ของตนที่เคยโด่งดังเปรี้ยงปร้างมาตั้งแต่ปี 2005 สร้างยอดขายและรายได้เป็นกอบเป็นกำโดยไม่คิดจะเปลียนแปลงอะไรเป็นรูปธรรมมาก นัก จนกระทั่ง Apple เปิดตัว iPhone ฉีกแนวสมาร์ทโฟนระดับบนกระจุยกระจายสร้างยอดขาย, กำไร และภาพลักษณ์มือถือระดับบนแทนที่ค่ายเจ้าตลาดอย่าง Nokia และ Samsung ทีละนิด ๆ
ขณะเดียวกัน Nokia ยังคงยึดติดนิสัยเดิมตลอดเวลาคือยังเป็นยักษ์ใหญ่นิ่งนอนใจไม่ยอมหันหลังไป ดูคู่แข่งว่าพวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว เท่าที่จำความได้ Nokia เคยเชื่อมั่นว่า Apple จะไม่สามารถเจาะฐานลูกค้าระดับบนจาก Nokia ไปได้อย่างแน่นอนหรือจะพูดให้หยาบคายเลยก็ได้ว่า “โอ๊ย iPhone หรอเด็ก ๆ คนก็ซื้อ Nokia วันยังค่ำและผู้บริโภคไม่น่าจะหันไปใช้อินเตอร์เฟซทันสกรีนอย่างจริงจัง อีกทั้งความแข็งแกร่งของแบรนด์องค์กร Apple และ iPhone ในฝั่งมือถือ (ขอย้ำว่าฝั่งมือถือ) ยังอ่อนแออยู่มากในสายตาผู้บริโภค”
และนี่ล่ะคือ "ปัญหาสำคัญ" ของตระกูล Nokia Nseries ที่ไม่สามารถยืนพื้นในตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนได้แข็งแกร่งเหมือนในปี 2005-2007 อีกต่อไป นับตั้งแต่ที่มี iPhone เข้ามาในตลาด Nokia ก็ไม่ยอมปรับตัวเองให้ทันหรือมีแผนการพัฒนามือถือรองรับความเปลี่ยนแปลงนี้ ได้ทันท่วงที จึงทำให้ภาพลักษณ์มือถือระดับบนของ Nokia อ่อนแอลงเรื่อย ๆ
ยังไม่พอ… ยังต้องมาเจอการเติบโตระดับเขย่งก้าวกระโดดของ RIM ต้นสังกัด BlackBerry ที่สามารถยึดหัวหาดสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงบนประเภท Community Connection ด้วยความโดดเด่นเฉพาะตัวที่สามารถติดต่อสื่อสารผ่านบริการ BlackBerry Service ได้ทันใจ
เมื่อ Nokia เจอศึกหนักเช่นนี้ก็ต้องส่ง Nokia N97 ทัชโฟนพร้อมคีย์บอร์ด Full QWERTY ภายในปี 2009 ตามมาด้วย N97 Mini ที่โดดเด่นด้วยการประกอบที่แน่นหนากว่า N97 ดั้งเดิมเยอะ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ตระกูล Nseries ฟื้นตัวสร้างการรับรู้อย่างรวดเร็วเหมือนในอดีตเท่าไรนัก เพราะยังต้องโดนเปรียบเทียบกับ iPhone อยู่ดี
Nokia ยังคงต้องเดินเกมเหนื่อยสำหรับตลาดสมาร์ทโฟนระดับบนไปอีกระยะใหญ่ ๆ จนกว่าจะปรับทัพให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะการฝากความหวังไว้กับระบบปฏิบัติการ Meego ที่เราจะได้รู้กันว่า Nokia สามารถยึดครองส่วนแบ่งในตลาดระดับบนได้มากน้อยเพียงไร
เมื่อเรามามองตลาดสมาร์ทโฟนราคาระดับล่างถึงกลางแล้ว Nokia ก็ยังปึกแผ่นเป็นแก่นสารอยู่เช่นเคย เพราะระบบปฏิบัติการ Symbian คู่บุญของ Nokia แผ่อิทธิพลในตลาดนี้อย่างแน่นหนา ส่วนใหญ่จะครองตลาดในรูปแบบมือถือทรงบาร์ไทป์แทบทั้งนั้น คู่แข่งในตลาดไม่อาจต่อกร Nokia ได้เลย
ลองย้อนขึ้นอีกสเต็ปหนึ่ง Nokia X6 ที่ Nokia ฝากความหวังไว้ว่าจะมาทดแทนตระกูล 5800 อย่างสวยงามด้วยหน่วยความจำภายใน 16GB ก็ดูจะไม่แรงอย่างที่คาดหวังนัก อันนี้เราก็ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดนัก
ดังนั้นสิ่งที่ Nokia จะต้องเร่งแก้ปัญหาในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางแบบทัชโฟนก็คือต้องหาสินค้าที่ สามารถสร้างยอดขายได้ดีพอจนมีแรงฮึดและทิ้งห่างคู่แข่งมากกว่านี้ ประจวบเหมาะที่ Nokia ต้องการคิดเปลี่ยนรหัสชื่อรุ่นจากตัวเลข 4 หลักเป็นตัวอักษรอังกฤษ+ตัวเลข แถมยังมีสมาร์ทโฟนแบบทัชโฟนมาขายเสียด้วยสิ
ชะอุ้ยเจอแล้วนั่นไง Nokia C6 ทัชโฟนระบบปฏิบัติการ Symbian แบบสไลด์คีย์บอร์ด Full QWERTY จะว่าไปมันก็ช่างเหมือน N97 จับมาปรับปรุงหั่นออพชั่นไปไม่น้อยเหมือนกันนะ แนวๆ ดีไซน์มันใกล้กันมากทีเดียว
ดูกันสิว่า Nokia N97 เวอร์ชันย่อส่วนจะงดงามหรือจะงามไส้กันล่ะเนี่ยไปดูกันหน่อยดีกว่า
บอกเล่ารูปทรง หลายคนคงคาดหวังไว้ว่าดีไซน์ Nokia ยุคใหม่หลังจากเปลี่ยนแปลงระบบการตั้งชื่อรุ่นเสียใหม่ก็น่าจะมีอะไรที่แปลก ตาบ้าง เช่นดีไซน์มีมุมมีเหลี่ยมซ่อน Layer (ที่ไม่ใช่บัตเตอร์เค้ก) ดูลายตา ละมุนละม่อมอะไรก็ว่ากันไป แต่ที่แน่ ๆ หลายคนคาดหวังว่า Nokia ยุคใหม่มันน่าจะสวยขึ้นนะเธอ หลังจากสังเกตว่า Nokia เริ่มหมดมุขในการออกแบบเข้าไปทุกวัน
หลายคนคาดหวัง หวังว่า Nokia จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผู้คนเขาเบื่อ แต่ทันทีที่ Nokia เปิดตัว Cseries และ Xseries ปุ๊บ อืม มีคนกระซิบทันทีที่เห็นว่ายังเหมือนเดิมที่คุ้นเคยสินะ Nokia
ดังนั้นสิ่งที่คาดหวังจากทัชโฟนของ Nokia ว่าจะฉีกแนวการออกแบบในอดีตของตนได้อย่างไร คงต้องผิดหวังแน่นอนในเมื่อ C6 รุ่นนี้เน้นความเรียบง่ายและดั้งเดิมมากไปหน่อย
ขนาดตัวเครื่องก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังด้วยขนาดที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป เรียกว่าขนาดไม่แตกต่างจาก 5800 หรือทัชโฟน Nokia รุ่นอื่นมากนัก แม้ความหนาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถือว่าหนาจนน่าเกลียดแต่อย่างใด รวม ๆ สอบผ่านสามารถถือได้ทุกเพศทุกวัย
วัสดุประกอบเครื่องที่หลายคนยังค้างคาใจว่า Nokia ยุคใหม่จะพัฒนาหรือปรับปรุงให้น่าประทับใจยิ่งขึ้นอย่างที่หลายคนคาดหวังไหม ผมบอกได้เลยความหวังคุณล่มสลายเสียแล้ว วัสดุประกอบเครื่อง Nokia C6 อยู่ในขั้นธรรมดา ไม่มีความรู้สึกว่านี่คือวัสดุของเครื่องราคาเรือนหมื่นเลยแม้แต่นิดเดียว การใช้พลาสติคด้านไม่เคลือบหน้าห่อหุ้มทั้งเครื่องทำให้เรารู้สึกว่าไม่สม ราคาเสียเท่าไรนัก หาก Nokia เพิ่มเติมลูกเล่นการออกแบบและใช้วัสดุอีกเล็กน้อยก็น่าจะทำให้ C6 ดูน่าสนใจขึ้นไม่มากก็น้อยทีเดียว
ส่วนการประกอบนั้นผมขอเรียนตามตรงโดยอคติว่า Nokia C6 เครื่องที่เรากำลังทดสอบนี้ เอ่อ ทำได้น่าประทับใจน้อยกว่าที่คิดครับ ยกตัวอย่างการประกอบฝาหน้าประกบกับบริเวณแป้นคีย์บอร์ดที่โยกเยกบ้างเล็ก น้อยไม่รู้สึกถึงแน่นหนา นี่ยังไม่นับรวมชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่แอบโยกคลอนได้บ้าง จุดด้อยนี้น่าเป็นห่วงมากว่า Nokia จะเร่งพัฒนาให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
ด้านหน้า มีความรู้สึกว่านี่มัน Nokia 5800 จับมารวมร่างกับ Nokia N97 Mini ใช่หรือไม่ เปล่าผมไม่ได้ให้ Nokia มาตอบคำถามของผมนะ ผมหมายถึงให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณากันว่ามันมีความคล้ายคลึงกันจริงหรือไม่?
รวม ๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงนักเจ้า Nokia C6 เพราะมันยังรักษามาตรฐาน Nokia ดั้งเดิมอยู่ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงอยู่สักหน่อยคือ Nokia สมควรต้องพัฒนาตนเองให้หนักกว่านี้เท่าที่เห็นยังไม่จริงจังกับการพัฒนา เรื่องดีไซน์ วัสดุการประกอบ จนไปถึงซอฟท์แวร์ภายในเครื่องเลย ขณะที่คู่แข่งต่างสัญชาติติดเทอร์โบอัพสปีดเร่งแซงหน้า Nokia ตลอดเวลา
สิ่งที่ต้องเร่งปรับแก้โดยด่วนคือ ความง่ายของ UI ที่เริ่มจะไม่ง่ายเหมือนสโลแกน Connecting People เอาเสียเลย ด้วยความที่ยังอิงโครงสร้าง Symbian รุ่นเก่า ๆ อยู่พอมาจับเป็นทัชโฟนปุ๊บสิ่งที่เหมาะสำหรับมือถือปุ่มกดมันไม่เหมาะสำหรับ มือถือแบบทัชโฟนเสียแล้ว อยากให้ Nokia ยึดหลัก Minimalism เข้าไว้จะดีกว่า
ถ้าขืน Nokia ยังเป็นอย่างนี้อยู่อีกไม่นานนัก Nokia จะต้องลำบากมากแน่นอน ยังไงเสียรีบแก้ตัวเร็ว ๆ นี้ก็ยังทันนะครับ เห็นว่ากำลังเปลี่ยนโครงสร้างภายในองค์กรเชื่อว่าน่าจะมีความเปลี่ยนแปลงที่ ดีขึ้นแน่