ขอไป สพม.ใครมีปัญหายกมือขึ้นโดยไว

guest profile image guest
บุคลากรทางการศึกษาที่ขอไป สพม.
ใครอยากไป แล้วมีปัญหาบ้างอย่างไร


 ยินดีให้คำปรึกษาด้านข้อกฎหมาย  ขอให้รีบดำเนินการโดยด่วน
แล้วรีบบอกต่อเร็วๆ
ติดต่อ พิภพ 089-6586955
ความคิดเห็น
guest profile guest

ที่เขตเรา นะ ผช.ศธอ.(เดิม) มีสิทธิสมัครสอบ ผอ.สพม. แต่...
หน.การฯ (เดิม) ไม่มีสิทธิกระทั่ง "สมัคร" เอิ๊ก เอิ๊ก
โดย ...แปลกแต่จริง
บุคคลทั่วไป
ความเห็นที่ #14 เมื่อ 10 ธันวาคม 2553 11:09 [118.172.44.142] 
 

รอง (สายประถมเดิม)
ให้ขอใช้สิทธิสมัครสอบไปก่อน

เมื่อเขาไม่ให้สมัคร (ให้มีหลักฐานยืนยันจาก จนท.รับสมัครว่า เป็นผู้ไม่มีสิทธิฯ)
จึงขอโต้แย้งสิทธิ โดยฟ้องศาลปกครองต่อไป

บอกแล้ว มีปํญหา ใครจะไป สพม. ให้สอบถามปัญหาข้อกฎหมายได้โดยด่วน  แต่ตอนนี้ ขอไม่รับปรึกษาให้แล้วครับ เลยขั้นตอนทุกอย่างมาแล้ว

เมื่อท่านยังไม่ได้ไปสมัครสอบ
ท่านจึงมิใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย
โดย ...พิภพ
บุคคลทั่วไป
ความเห็นที่ #15 เมื่อ 1 นาทีที่แล้ว

 

ความจริงกระทู้นี้ จะไว้ช่วยเหลือบุคลากรบนสำนักงาน โดยเฉพาะตามมาตรา 38 ค (2) เท่านั้น

สำหรับ น้องที่ปทุมธานี(สายงานการสอน)  จะดูแลเรื่องข้อมูลให้ชัดเจนอีกนิดครับ

guest profile guest

เรายื่นแบบสมัครใจไปมัธยมเพื่อหวังนำผลสอบไปลงในตำแหน่งที่สูงขึ้น ปรากฎว่าไม่สามารถทำได้ เราจึงยื่นแบบขอระงับตามเงื่อนไข ในเวลาที่ สพฐ.กำหนด แต่มีข้อผิดพลาดที่ สนง.เราส่ง
เอกสารมติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ และบันทึกขอระงับของเราให้ สพฐ.
ช้าไป(เขาอ้างเหตุผลว่าอย่างนั้น) ตอนนี้ สพฐ.ออกคำสั่งให้เราไป
ปฎิบัติหน้าที่ที่มัธยมแล้ว เราอยากทราบว่ามีวิธีการแก้ไขคำสั่งได้ไหม ถ้าได้ต้องทำอย่างไร สพฐ.แก้ไขคำสั่งได้ไหม และถ้าเราจะฟ้องก็ฟ้องตั้งแต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ สนง.เราเลยใช่ไหม เรายืนยันว่าเราไม่อยากไป ไม่ใช่มัธยมไม่ดี แต่เราเสียความรู้สึกไปแล้ว
เพราะเรามั่นใจว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่ ไม่เข้าใจว่าก็ในเมื่อ
เขาไม่เต็มใจจะไปอยูด้วยแล้วทำไมต้องมาใช้อำนาจ ใช้เลห์กลกัน
แบบนี้ด้วย อย่างนี้มันก็ไม่ได้ใจหรอก เออแล้ว คุณพิภพ จะตอบเรา
ไหมหละนะ

guest profile guest
มติ อ.ก.ค.ศ.เขต พท.กศ.ประถมศึกษา ของท่านมีมติอย่างไร
แล้วประชุมวันที่เท่าไร ขอข้อมูลให้ละเอียดอีกนิดครับ

ตอนนี้ท่านเดินทางตามคำสั่งแล้วหรือยัง (คส.ล่าสุด สพฐ.สั่งให้เดินทาง 24 พ.ย.53)
guest profile guest

หากต้องการขอไปเขตมัธยมโดยไม่มีเกณฑ์ตามหนังสือสพฐ.
ลว. 1 ธค. 53 จะมีมั้ยคะ ขอไปครั้งแรกแต่ไม่ได้รับการพิจารณา
ให้ไปตามแบบสำรวจ จะติดต่อใครที่ช่วยให้คำอธิบายได้บ้าง

guest profile guest
เรียน  คุณพิภพ 
         (ความเดิม) มติ อ.ก.ค.ศ.เขต พท.กศ.ประถมศึกษา ของท่านมีมติอย่างไรแล้วประชุมวันที่เท่าไร ขอข้อมูลให้ละเอียดอีกนิดครับ
ตอนนี้ท่านเดินทางตามคำสั่งแล้วหรือยัง (คส.ล่าสุด สพฐ.สั่งให้เดินทาง 24 พ.ย.53)    
         (รายละเอียดเพิ่มเติม)  สนง.เราประชุม อ.ก.ค.ศ.เขต พท.กศ.ประถมศึกษา วันที่ 17 พ.ย 53 มติ คืออนุมัติให้ไปสำหรับผูที่ประสงค์จะไป และอนุมัติให้สำหรับผู้ขอระงับ ประชุมเสร็จก่อนเทียงก็ส่งแฟกซ์มติพร้อมบันทึกขอระงับไปให้ สพฐ. สพฐ.ตอบรับมาว่าได้รับแฟกซ์แล้ว วันรุ่งขึ้น จนท.ของ สพฐ.ที่ทำเรื่องนี้  โทรมาบอกว่าให้ส่งเอกสารเป็นเปเปอร์ด่วย EMS ไปให้ ทาง สนง.เราก็ส่งไป
มีหลักฐานพร้อม เราก็สบายใจแล้วว่าไม่มีปํญหา ต่อมาวันที่ 22 พ.ย
53 สพฐ.มีคำสั่งให้เดินทางใน 24 พ.ย 53 ในคำสั่งมีชื่อเราและคนอื่นที่ขอระงับด้วย ทุกคนที่ สนง.เราก็ตกใจว่าทำไมผู้ที่ขอระงับยั ไม่ชื่อในคำสั่งอีก ทั้งทีหนังสือ สพฐ.ฉบับดังกล่าวยังขมวดท้ายว่าสำหรับผู้ที่ขอระงับให้แนบมติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ พร้อมบันทึกขอระงับของเจ้าตัวส่งให้ สพฐ. เราเลยสงสัยว่า สพฐ.ออกคำสั่งไปแล้ว และยังเปิดโอกาสให้สำหรับผู้ทีขอระงับได้นั้ยแสดงว่ายังระงับได้ใช่ไหม แต่กรณีของเราและเพื่อน ๆ เราทำตามเงื่อนไขเวลาที่
กำหนดทุกอย่าง
         เราเรียนถามผู้ใหญ่ทีเกี่ยวข้องใน สพฐ. อ้างว่า สนง.เราส่ง
มติฯและเอกสารอื่นช้า (ในหนังสือราชการลับให้ส่งข้อมูลในวันที่ 15 พ.ย 53 )แต่เขตเราทางผู้ใหญ่ไม่เลื่อนวันประชุมเนื่องจากลง
กำหนดไว้นานแล้วว่าวันที่ 17 จะเลื่อนไปใน 15 ก็ไม่สามารถนัด
กรรมการได้ และที่สำคัญคือ ผู้ใหญ่เราได้ประสานผู้ใหญ่ใน สพฐ.
แล้วว่าส่งวันที่ 17 ได้ จึงมั่นใจไม่เลือน โดยไม่คิดว่าจะมีปัญหา
        ตอนนี้เราและเพือนยังไม่ได้เดินทางตามคำสั่ง สนง.เรายังไม่
ทำหนังสือส่งตัว และได้ทำหนังสือยืนยันมติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่พร้อมบันทึกขอระงับของเราและเพื่อนไปยัง สพฐ.เพื่อทราบและดำเนินการแก้ไขคำสั่งต่อไป(ส่งไปเมื่อวันที่ 3 ธ.ค 53)
       เราขอเรียนปรึกษาท่าน ดังนี้
       1. ประสาน ก.ค.ศ.แล้ว จนท.ที่ทำเรื่องนี้แจ้งว่าไม่เกี่ยวกับ
ก.ค.ศ. สพฐ.สามารถแก้ไขคำสั่งที่คลาดเคลื่อนได้เอง แต่ทางเรา
จะโดนข่มขู่ตลอดว่าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หากไม่ยอมเดินทางไปรายงานตัวจะถูกสอบและลงโทษทางวินัยว่าขาดราชการ เรียนปรึกว่าเรืองนี้แก้ไขได้ไหม  แนวทางการแก้ไขจะดำเนินการได้อย่างไร
      2.  เป็นไปได้หรือว่าแก้ไขไม่ได้ มติ ก.ค.ศ. ใหญ่สุดลบล้างไม่ได้ แก้ไขไม่ได้  แต่ ก.ค.ศ.บอกว่าไม่เกี่ยวกับเขา สพฐ.ดำเนินการ
เองทั้งหมด ในหนังสือสั่งการของ สพฐ.แจ้งว่า สพฐ.สั่งให้ไป แต่
ไม่มีสิทธิสั่งกลับ เราไม่เข้าใจว่า แล้วข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร
      3. ในด้านกฎหมาย เราจะทำอะไรที่จะปกป้องสิทธิอันชอบธรรม
ของเราได้บ้าง เพราะความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากเรา แต่เราต้องมานั่งรับผลของความผิดพลาดนี้หรือ เรื่องนี้มีที่มาที่ไปและต้องมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบใช่ไหม หลายคนอาจคิดว่ามันไม่ใช้เรื่องใหญ่เรื่องโต อยู่ที่ไหนก็ทำงานเหมือนกัน เราไม่เถียง แต่มันต่างกันตรงที่เรา
ไม่สมัครใจไป เราไม่มีใจให้ เมือไม่มีใจมันจะทำงานได้อย่างไร
เรื่องนี้มันมีผลกับสภาพจิตใจเรามากนะ หากทุกอย่างถึงที่สุดว่าผู้ใหญ่เราแก้ปัญหานี้ไม่ได้ และเราจะฟ้องเราต้องฟ้องหน่วยงานเราเองใช่ไหม  แล้วเรื่อยไปถึง สพฐ.เลยใช่ไหม และผู้ที่รับเรื่องของเราคือศาลปกครองเท่านั้นใช่ไหม และถ้าเราลาออกจากราชการแล้วเรายังฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนี้ได้อยู่หรือเปล่า เพราะ
เราคิดว่า หากความไม่เป็นธรรมชนะส่งผลให้เราต้องไปอยู่มัธยม
เราขอลาออก เพราะเราไม่มีใจให้ คุณพิภพ ไขข้อข้องใจให้เราทราบด้วยเถิด ขอบพระคุณอย่างสูงแล้วที่คุณเห็นในความทุกข์
ใจของเรา ขอบพระคุณ

guest profile guest

กรณีนี้ สนง.ก.ค.ศ. ไม่เกี่ยวครับ คนออกคำสั่งคือ สพฐ.
ความผิดพลาดเกิดจาก จนท.สพฐ. นำเอามติที่ตนเองคาดว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาของท่าน คงเห็นชอบให้ย้ายโดยการตัดโอนฯ จึงเสนอให้ที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ(ของมัธยม) เห็นชอบรับย้าย (อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ:มัธยม ประชุม 17 พ.ย.53 มติอาจจะออกมาก่อนมติของเขตท่านด้วยซ้ำ)  การทำงานที่รวบรัดเกินเหตุอย่างนี้ การทำงานที่ไม่รอบคอบ  การทำงานที่ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล  จึงเกิดความโกลาหลที่ยากจะเยียวยาแก้ไข เรื่องนี้ยังมีอีกยาวครับ ผมรับรอง

ท่านสบายใจได้ครับ กรณีนี้ ท่านมีเหตุให้โต้แย้ง เพื่อให้ถูกต้องท่านและผู้ถูกกระทบสิทธิ์ ควรทำบันทึกให้ผู้บังคับบัญชารับทราบไว้ชั้นหนึ่งก่อน (ถูกต้องแล้ว ที่ท่านไม่เดินทางตามคำสั่งบ้าจี้)

ท่าน ถือไพ่เหนือกว่า จนท.ที่ข่มขู่ท่านมากกว่าครับ

มีปัญหากรณีนี้ต่อเนื่องอย่างไร  หากรีบด่วนโทร. ได้ครับ (ไม่ติดภารกิจเร่งด่วน สำคัญ ยินดีรับสาย)

 

guest profile guest
เราอยากได้ข้อมูล อีกครับ

ใครมีอะไร บอกมาเลย
guest profile guest

เรียนถามคุณพิภพ

-รอบแรก ไม่ทราบพิจารณาอย่างไร ขอไป 4 แห่ง นนทบุรี-อยุธยา, สุโขทัย-ตาก,นครสวรรค์, และปทุมธานี ไม่ได้ซักที่
ถ้าพิจารณาแบบมีเงื่อนไขห้ามระบุตำแหน่ง ทำไมไม่แจ้งให้ทราบ หรือ น่าจะกลับมาให้แก้ไขใหม่  
-รอบสอง ในการขอไปเขตมัธยม ตามหนังสือลว. 1 ธค. 53
ติดต่อเขตมัธยมปลายทางแล้ว แต่ติดปัญหาต้นทาง มีอัตรากำลัง
ไม่ถึงร้อยละ 70 หากเข้าที่ประชุม มติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ประถมศึกษา ก็ไม่ผ่าน 
 
  อยากให้พิจารณาคนที่พร้อมจะไปบ้าง บางคนไม่อยากไปแต่ได้ไป
คนอยากไปแต่ไม่ได้พิจารณา   ให้ไปเถอะแบบไม่มีหลักเกณฑ์นะ บุคลากร 38ค(2)   ไม่มีขวัญและกำลังใจจะทำงานแล้ว
แล้วท่านคืนอัตรามาทดแทน หรือ ตัดโอนมาจากเขต 1 ก็ยังได้  จริงมั้ยคะ  เขต 1 คนล้นงาน  เขต 2, 3........ งานล้นคน

guest profile guest

เป็นข้อมูลที่ดีมาก

สพฐ.สำรวจข้อมูล แต่ 11 ส.ค.53 ขณะที่กรอบอัตรากำลังยังไม่ชัดเจน แล้ววิธีการในการดำเนินงานให้คนไปช่วยไปทำงาน ไม่มีอะไรให้มองเห็นภาพเลย

 

อย่างนี้ มันยุติธรรมสำหรับบุคลากร 38 ค (2) หรือไม่

เห็นพวก 38 ค (2) เป็นอะไร

คิดเอาอำนาจตนเองเป็นใหญ่ ใช้ได้ที่ไหน สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ที่ดูแลไม่เท่าเทียมกัน

อย่ายอมครับ คราวนี้ต้องสู้กันซักตั้ง

guest profile guest
อยากได้ข้อมูล อีกครับ
เชิญหน่อย
มาช่วยกันครับ รักษาระบบคุณธรรม เพื่อรุ่นน้อง เพื่อลูกหลานต่อไปใน ภายภาคหน้า
guest profile guest
เป็นไปได้มั้ยที่จะแยกกลับไปเป็น สปอ.สปจ.เหมือนเดิม แบบนี้ทำงานไม่มีความสุขเลย ปัจจุบันทำงานแบบตัวใครตัวมัน ทั้งๆ งานระดับเขต มันต้องทำเป็นทีม  (ตอนอยู่แบบ สปอ.ยังเป็นทีมเลยทุกฝ่ายช่วยกันหมด ) นี้ขนาดกลุ่มเดียวกันยังช่วยใครไม่ได้เลย แล้วเพื่อนจะมาช่วยเราเหรอ แล้วงานจะมีประสิทธิภาพได้อย่างไร  ตอนนี้คนที่ไม่เคยคิดจะเออรีรีไทร์  เปลี่ยนใจกันเป็นแถวแล้ว  นโยบายลดคนได้ผลจริงๆ
guest profile guest

ยื่นคำขอไป สพม. ตำแหน่งนักจัดการชำนาญการพิเศษ แต่ได้รับแจ้งว่าตำแหน่งที่ขอไปนั้น ได้จัดให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งชำนาญการลงตำแหน่งนี้แล้ว   จึงสงสัยว่าทำไม สพม. จึงจัดคนลงกรอบรวดเร็วมากทั้ง ๆ ที่ยังมีบุคลากรน้อยมาก 2- 3คน เท่านั้น   ในทางกลับกัน สพป. ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ  ทั้ง สพม.และ สพป. กำลังทำอะไรกันอยู่น่าจะสงสารเด็ก ๆ ที่รอความชัดเจนในการเข้าสู่ตำแหน่งกันบ้าง

guest profile guest

                                                                                             ๕   ธันวาคม  ๒๕๕๓

 

เรื่อง  ร้องทุกข์จากมติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ  ที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม

 

เรียน  เลขาธิการ ****** 

สิ่งที่ส่งมาด้วย   สำเนาคำร้องฯ          จำนวน  ๑  ชุด

                  

                   ด้วยข้าพเจ้า *** รับราชการเป็นบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค (๒)  พ.ร.บ.ระเบียบ  ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม  ตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลชำนาญการพิเศษ  กลุ่มบริหารงานบุคคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา*** (สพป.***)  โทร. **********

 

                   มีความประสงค์ขอร้องทุกข์ต่อ ก.ค.ศ. ในเรื่องคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา*** (อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา***) มีมติที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม อันเป็นผลมาจากการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค (๒) ของ สพป.*** ไปกำหนดใหม่ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา  กล่าวคือ

 

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สำรวจข้อมูลผู้สมัครใจไปปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ตามหนังสือ สพฐ.ด่วนที่สุด ที่ ศธ ๐๔๐๐๙/๔๗๘๖  ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๓

และข้าพเจ้าได้ยื่นความประสงค์ขอไปปฏิบัติงานใน สพม.*** โดยขณะนั้นมีผู้ยื่นความประสงค์ไปปฏิบัติงานใน สพม. รวมจำนวน ๑๑ คน ต่อมามีผู้ขอระงับ ๖ ราย คงเหลือผู้สมัครใจ จำนวน ๕ ราย

 

ทั้งนี้ การก่อกำเนิดของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) มีที่มาตามลำดับกฎหมายโดยสรุป ดังนี้

 

๑. พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๓  มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๓ บัญญัติให้ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศกำหนดเขตพื้นที่การศึกษา แบ่งเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

 

 

๒. รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการกำหนดและแก้ไขเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่การศึกษาเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๓

 

๓. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา  มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑๘  สิงหาคม ๒๕๕๓  ได้กำหนดให้มีเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน ๔๒ เขต และที่ตั้งของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

 

๔. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา พ.ศ.๒๕๕๓  มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๓  ได้กำหนดให้มีส่วนราชการภายใน สพม. และอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการนั้น

                                                                    

๕. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา  พ.ศ.๒๕๕๓  มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๓  ได้กำหนดให้มีส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการนั้น

 

๖. ต่อมา ก.ค.ศ.ซึ่งเป็นองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม  มีมติกำหนดกรอบอัตรากำลังใน สพม. และ สพป. ตามความนัยมาตรา ๔๑ ( บัญญัติว่า “ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะมีในหน่วยงานใด จำนวนเท่าใด และต้องใช้คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งอย่างใด ให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด”)  โดยมติการกำหนดกรอบอัตรากำลังดังกล่าว สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ ๐๒๐๖.๕/๖๘๑ เรื่องการกำหนดตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค (๒)  เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

 

การที่ สพฐ. ดำเนินการจัดบุคลากรลงกรอบอัตรากำลังใน สพม.  โดยการนำเอาเพียงข้อมูลที่ได้จากการสำรวจข้อมูลของบุคลากรทางการศึกษา และลูกจ้างประจำผู้สมัครใจไปปฏิบัติงานใน สพม. มาตั้งแต่วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๓   ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีกรอบอัตรากำลังใน สพม. ที่องค์กรกลางบริหารงานบุคคลกำหนด   ทำให้บุคลากรทางการศึกษาส่วนใหญ่ ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนเพียงพอในการตัดสินใจ  จึงเป็นการดำเนินการที่รวบรัด เป็นเหตุให้กระทบต่อสิทธิของบุคลากรทางการศึกษาโดยรวม เช่นการเข้าดำรงตำแหน่งในระดับชำนาญการพิเศษ และตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่ม  อันกระทบ ต่อขวัญกำลังใจ ต่อความก้าวหน้าในหน้าที่ราชการของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค (๒) มาโดยตลอด

 

ประการต่อมา สพฐ.ดำเนินการโดยไม่มีการแจ้งเกณฑ์และวิธีดำเนินการในการพิจารณาคัดเลือกให้บุคลากรทางการศึกษาไปปฏิบัติงานใน สพม. และประกาศตำแหน่งที่มีให้ทราบโดยทั่วกัน  กรณีมีการคัดเลือกเพื่อให้ดำรงตำแหน่งที่มีระดับสูงขึ้น เช่นตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ/ชำนาญการพิเศษ (ตำแหน่งระดับควบ:พิจารณาให้ดำรงตำแหน่งชำนาญการ เพื่อรอการเลื่อนขึ้นเป็นระดับชำนาญการพิเศษ และผู้อำนวยการกลุ่ม) มีหลักเกณฑ์และวิธีการอย่างไร กระทำโดยยึดหลักธรรมาภิบาลหรือไม่

 

 

ดังนั้น การดำเนินงานของ สพฐ. ดังกล่าว เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าไม่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งใหม่ใน สพม.  ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้า ควรได้รับการเยียวยาให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นเฉกเช่นบุคลากรทางการศึกษาอื่น (อาทิ อนุเคราะห์ให้ ผช.หน.ปก.ระดับ ๖  ดำรงตำแหน่ง รอง ผอ.สพท. หรือ ผอ.ร.ร.)  จากผลกระทบเมื่อกระทรวงศึกษาธิการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๔๖     ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาบุคคล (นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล ๘ ว : เทียบเท่าผู้อำนวยการกลุ่ม)   ในสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัด มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๗  ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ  เรื่องผลการคัดเลือกและประเมินข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งหรือเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง    หัวหน้าฝ่ายพัฒนาบุคคล ฯ (ผู้คัดเลือกได้ลำดับที่ ** : เอกสารหมายเลข ๑  )  ทำให้ข้าพเจ้าเสียโอกาสในการสมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง รอง ผอ.สพท. อย่างสิ้นเชิง

                                                                           ในการสำรวจข้อมูลบุคลากรทางการศึกษา ที่สมัครใจไปปฏิบัติงานใน สพม. ของ สพฐ. เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ ข้าพเจ้าได้แจ้งความประสงค์ไปปฏิบัติหน้าที่ทาง  สพม. ***   ซึ่งขณะนั้นทุกคนทราบดีว่า ยังไม่มีกรอบอัตรากำลังที่ชัดเจน  และ สพฐ.จะมีวิธีการคัดเลือกอย่างไร ผู้ที่ประสงค์จะไปปฏิบัติงานใน สพม.จะได้ไปลงตำแหน่งไหน มีเกณฑ์อะไรอย่างใด  ทั้งๆ ที่การจัดบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามกรอบอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ.กำหนดใน สพม.จะต้องมีการประกาศการคัดเลือกในแต่ละตำแหน่งเลขที่ให้ชัดเจนทราบโดยทั่วกัน  ซึ่งจะทำให้ข้าพเจ้าและบุคลากรทางการศึกษาอื่นมีข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน สามารถสมัครเข้ารับการคัดเลือกในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งได้ เช่น ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ, ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา หรือผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผน อีกทั้งยังเป็นการปิดกั้นโอกาสของผู้มีคุณสมบัติอื่นที่จะเข้ารับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มการเงินและสินทรัพย์ตามกรอบอัตรากำลังใหม่อีกด้วย

 

แต่ต่อมา สพฐ.แจ้งผลการพิจารณา (แจ้งให้ สพป.*** ทราบเมื่อ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)  โดยไม่มีชื่อข้าพเจ้า และให้ สพป.*** นำรายชื่อผู้ได้รับการพิจารณาจำนวน ๔ ราย เสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา***  ให้ความเห็นชอบการย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนไปกำหนดใน สพม.ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓  ตามหนังสือ สพฐ. ลับ ด่วนที่สุด ที่ ศธ ๐๔๐๐๙/๒๗๑๒  เรื่องการสำรวจข้อมูลผู้สมัครใจไปปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ลงวันที่  ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓  ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยในผลการพิจารณาให้ติดต่อประสานกับรองเลขาธิการ กพฐ. (นายเสน่ห์  ขาวโต) โดยตรง  ภายในวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓  หากไม่ทักท้วงในกำหนด ให้ถือว่า เป็นไปตามผลการพิจารณาดังกล่าว (เอกสารหมายเลข ๒ )  

 

ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่า สพฐ.ไม่เปิดโอกาสให้มีการโต้แย้ง        คัดค้าน ในระยะเวลาที่พอสมควร กล่าวคือ สพป.***       รับหนังสือ สพฐ.ดังกล่าวเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓  ข้าพเจ้าเพิ่งทราบเมื่อ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓  พร้อมทั้งได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้รับคำชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดเป็นลายลักษณ์อักษร  ประกอบกับหนังสือดังกล่าว สพฐ.ได้กำหนดชั้นความลับ “ลับ” ทั้งๆ ที่ควรเป็นเรื่องเปิดเผยให้บุคลากรได้รับทราบโดยทั่วกัน  ไม่ควรปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารในสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างทัดเทียมกัน

 

อนึ่ง ในการประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา*** ครั้งที่ ๙/๒๕๕๓ เมื่อวันศุกร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓  ข้าพเจ้าได้ยื่นบันทึกการดำเนินการจัดบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๓๘ ค (๒) ให้ดำรงตำแหน่งใน สพม. ของ สพฐ.ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา*** และประธาน  อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา***ตามลำดับ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ (ตามเอกสารหมายเลข ๓ )

 

แต่ฝ่ายเลขานุการ ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าว ประกอบการพิจารณาในระเบียบวาระเรื่องที่ ๔.๓ ขอย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค (๒) โดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน เพียงให้ที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา*** รับทราบประเด็นที่เกี่ยวเนื่องในข้อพิจารณาเท่านั้น (เอกสารหมายเลข ๔ )

 

 

                                                                      กรณีนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่า การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นอำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา***โดยตรง (ไม่ใช่ของ สพฐ.หรือคณะกรรมการกลั่นกรอง ที่ดำเนินการด้วยความรวบรัด กระทำการอื่นใดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของ สพฐ.)  ที่จะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ มีข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ ซึ่งเป็นอำนาจดุลพินิจที่ต้องตั้งอยู่บนหลักความชอบด้วยกฎหมาย มิเช่นนั้นก็จะไม่แตกต่างไปจากอำนาจพลการ กล่าวคือ

 

ในเมื่อ สพท.*** มีผู้ประสงค์ขอไปปฏิบัติหน้าที่ทาง สพม.เหลืออยู่ ๕ ราย ส่งไปให้ สพฐ.พิจารณา และ สพฐ.นำผลการพิจารณาที่ได้จากคณะกรรมการกลั่นกรอง (ซึ่งไม่ทราบว่า มีองค์ประกอบของกรรมการอย่างไร) คงเหลือผู้ได้รับการพิจารณา ๔ ราย มาให้ สพท.*** เพื่อนำเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา*** ให้ความเห็นชอบการย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนตามตัวไปกำหนดใหม่ใน สพม. โดยไม่มีข้อมูลอื่นใดที่ใช้ประกอบการพิจารณา หรือมีเหตุผลอื่นใดอันถือเป็นสาระสำคัญให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ให้ความเห็นชอบหรือไม่ เช่นตัดโอนไปดำรงตำแหน่งไหน อย่างไร ฯลฯ ซึ่งเสมือนเป็นการปฏิบัติให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายพอเป็นพิธี ทำให้หลักประกันสิทธิของข้าพเจ้าถูกกระทบ

 

ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าได้ทักท้วงตามบันทึก ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ดังกล่าวแล้ว มิใช่พิจารณาจากหนังสือ สพฐ.  ลับ ด่วนที่สุด ที่ ศธ ๐๔๐๐๙/๒๗๑๒  เรื่องการสำรวจข้อมูลผู้สมัครใจไปปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ลงวันที่  ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เพียงกระดาษแผ่นเดียว   โดยไม่มีข้อมูลอื่นใดที่จะใช้สนับสนุนให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา*** ใช้ดุลพินิจได้อย่างถูกต้องเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย  แต่กลับมีมติให้ย้ายข้าราชการทั้ง ๔ ราย  ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเสนอ ทั้งที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดจึงไม่พิจารณาในรายของข้าพเจ้า จึงเป็นการใช้อำนาจดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

 

                   จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามความนัยมาตรา ๑๙ (๑๔) พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อไป  ผลเป็นประการใด โปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วย

 

 

                                        ขอแสดงความนับถือ

guest profile guest

มีอะไรคืบหน้าก้อเล่าสู่กันฟังบ้างเน้อ

guest profile guest
อยากทราบว่าจะพิจารณาย้ายไป สพม. รอบสองเมื่อไหร่คะ
guest profile guest
ได้ข่าวว่าอกคศ.วิสามัญได้พิจารณาไป สพม.รอบสองแล้ว
แต่ทำไม คำสั่งจึงยังไม่ออกสักที...นานมากแล้วนะคะ

จะออกคำสั่งได้ประมาณวันที่เท่าไหร่ค่ะ
guest profile guest
ได้ข่าวว่าอกคศ.วิสามัญได้พิจารณาไป สพม.รอบสองแล้ว
แต่ทำไม คำสั่งจึงยังไม่ออกสักที...นานมากแล้วนะคะ

จะออกคำสั่งได้ประมาณวันที่เท่าไหร่ค่ะ
guest profile guest
ที่นี่ประเทศไทย

ที่นี่ประเทศไทย

ที่นี่ประเทศไทย
guest profile guest
คนที่มาอยู่ สพม. แล้วอยากลับต้องทำอย่างไรดี เขาไม่ยอมจัดกรอบให้ลงตำแหน่งที่สูงขึ้นสักที  งานก็หนัก ไม่มีโอกาสจะขยับตัวไปไหน เพราะตำแหน่งไม่ครบแต่ละกลุ่ม มีแค่ 1  คน หรือ 2 คน
ไม่เกิน 3 คน  (ทำงานแทน  คน 8 -10 คน แล้วจะเอาดีตรงไหน)
ทำงานควบ 2-3 จังหวัด ทั้งกลุ่ม มีอยู่ 1-3 คน  ผู้บริหารก็จะบอกว่าต้องทำงานให้เร็วและให้ดี  ทั้งค่าเช่าบ้าน  ค่าเดินทางไปราชการ ต้องสำรองจ่ายเองมาหลายเดือนแล้ว
guest profile guest

สพฐ.จะกำหนดให้ ศึกษานิเทศก์ ย้ายโอนไป สพม. (ที่ขาด)เหมือน บุคลากรทางการศึกษา ไหมคะ

guest profile guest
เขาเคยประกาศรับไปแล้วนะคะ แต่เงื่อนไขเขามีว่า "เขาจะรับพิจารณา ศน.ที่มาจาก กรมสามัญ" ก่อน ก็ลองถาม ๆเขตที่ เราจะไปดู   ส่วน สพฐ.ไม่กล้าไปจัดกรอบ ศน.หรอกคะ ก็ลองหาข้อมูลเก่า ๆ ดูว่า เพราะอะไร?
guest profile guest
ตอบ คุณ คน สพม.
1. เขาไม่จัดกรอบ ให้ลงในตำแหน่งที่สูงขึ้น?
     - จัดลงกรอบได้ แต่ระดับเดิมนะ เพราะถ้าจะประเมินผลงาน/แต่งตั้งเพื่อเลื่อนระดับให้สูงขึ้นจากระดับเดิม มันมีเงื่อนไขหลายข้อ เช่น กรอบกำหนดไว้มั๊ย เขตมีเงินที่จะเลื่อนได้มั๊ย คุณมีผลสอบไว้มั๊ย ฯลฯ
2.ปฎิบัติงานแทนคนอื่น เพราะไม่มีคน แล้วจะเอาคุณภาพฯ
    - นี่แหละ การบริหารจัดการศึกษาของ กระทรวง ศธ.แหละ ไม่เคยคิดวิเคราะห์ผลงานที่ผ่านมาว่า ปัญหาจริง ๆ มันอยู่ตรงไหนแล้วจึงแก้ให้มันตรงจุด ทุกวันนี้ผู้บริหารไม่ว่าระดับไหน เขาก็วนกันอยู่ในอ่างนี่แหละ หรือจะว่าก็เหมือนกบอยู่ในกะลา ไม่เคยคิดที่จะไปดูว่า โลกข้างนอกมันมีอะไรสวยงามมากมาย ไม่ลองคิดใหม่ทำใหม๋(ธุระไม่ใช่) เรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของกู เด็กมึง ไม่ใช่เด็กกู กูพอใจอยู่แคนี้แหละ ใครพูดดีนักก็มาทำเองซิ
3.ก.ค.ศ.ให้ สพม.ทดลองกรอบที่ใช่อยู่ในปัจจุบัน 1 ปี  แล้วจะมีการวิเคราะห์งานใหม่ เพื่อจัดทำกรอบใหม่ ก.ค.ศ.กำหนดปฎิทินไว้ว่าจะให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.54 ก็ต้องรอนะคะ
4. เห็นใจมาก ๆ ก็ลองแชร์ข้อมูลจาก สพม.อื่นดู จะได้ลดภาระงานได้บ้างเรื่องนะคะ

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

doungnoi Icon เส้นทางบุคลากรทางการศึกษา 38 ค(2) อ่าน 2,240 10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
guest Icon 38ค(2)ถูกลอยแพ 1 อ่าน 2,184 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
guest Icon กรอบใหม่ สพม. อ่าน 2,169 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ประชาสัมพันธ์ facebook 38ค อ่าน 2,215 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
guest Icon การเลื่อนระดับชำนาญการ อ่าน 3,128 12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
guest Icon การเลื่อนเงินเดือนอัตโนมัติ 47 อ่าน 25,461 12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา