แถลงข่าวสมาชิก กบข.กำหนดเคลื่อนไหวงดส่งเงินและให้ยกเลิก กบข.

วันนี้ (25  มกราคม  2554)  ดร.วิศร์  อัครสันตติกุล  ประธานองค์กรเครือข่ายสมาชิก  กบข.                          แห่งประเทศไทย  (อ.ส.ท.)  กล่าวว่า  “ตามที่ได้มีตัวแทนสมาชิก กบข.  จากทั่วประเทศได้เคลื่อนไหวเรียกร้องต่อกระทรวงการคลัง/รัฐสภาและรัฐบาล  ขอให้แก้ไขกฎหมาย กบข.  มาตรา  63  เพื่อให้ได้รับบำนาญที่สูงขึ้น  ให้ลาออกได้และให้มีผลย้อนหลังแก่สมาชิกที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว  มากกว่า  2  ปี  แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากความไม่จริงใจของนักการเมืองและ  รัฐบาล  จึงทำให้การแก้ไขกฎหมาย  กบข. ตกไป  นั้น

                ขณะนี้  ตนได้ให้มีการศึกษาข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียดแล้ว  จึงมารู้เท่า..รู้ทัน..กบข.  ว่ามีแต่หลอกหลวง  เอารัดเอาเปรียบสมาชิก  ไม่มีประโยชน์แก่สมาชิกเลย  เปรียบได้กับแชร์ลูกโซ่  ทั้งที่  สมาชิกได้หักเงินส่งเข้า  กบข.เดือนประมาณ  1  พันล้านบาท  แต่ไม่มีผลกลับมาเลย  เป็นการนำเงินให้นักธุรกิจแสวงหาผลประโยชน์และมีผลประโยชน์ทับซ้อนเท่านั้น  และเมื่อเกิดความเสียหาก็ตกแก่สมาชิกล้วนๆ  ไม่มีใครมารับผิดชอบเลย  ไม่ว่า กบข.  หรือรัฐบาล

                ดังนั้น  องค์กรเครือข่ายฯ  จึงเสนอขอความเห็นชอบต่อสมาชิกทั่วประเทศใน 2  ประเด็น  คือ         1. ให้มีการงดส่งเงินเข้า กบข.  และ  2.  ให้ยกเลิก  กบข.  เสีย  แล้วไปรับบำนาญปกติ(สูตรเดิม)  ที่มีผลดีแก่สมาชิกมากกว่า  ซึ่งได้รับการตอบรับมาเป็นจำนวนมาก  กว่า  80%   และไม่สนใจสูตรใด ๆ ของรัฐบาลแล้ว  ในขณะเดียวกันก็จะได้ประชุมทำความเข้าใจกับหน่วยงานการคลังของส่วนราชการต่างๆ  เพื่อให้เข้าใจปัญหาที่สมาชิกงดส่งเงินเข้ากองทุน  ซึ่งไม่มีความผิดใดๆ  ทั้งสิ้น  เพราะสมาชิกที่เป็นเจ้าของเงินย่อมมีอำนาจทำได้อยู่แล้ว  เนื่องจากเขาไม่ศรัทธาใน  กบข.

                องค์กรเครือข่ายฯ  จึงได้จัดทำร่างหนังสือให้งดส่งเงินเข้ากองทุน  โดยสมาชิกสามารถ  ดาวน์โหลดได้จาก   http://www.cepame.org  เว็บของสมาคมข้าราชการพลเรือนและบุคลากรทางการศึกษา  สังกัด  กระทรวงศึกษาธิการ  และของ”ครูไทย”  และอื่น ๆ ที่จะแจ้งให้ทราบต่อไป

                จึงขอให้สมาชิก กบข.  ทั้งมวลรวมพลังกั้นเสี่ยแต่เดี๋ยวนี้  ร่วมกันปลดโซ่ตรวนออกจาก  กบข.เสีย  โชคดีจะเป็นของพวกเรา”  ดร.วิศร์  กล่าว

ที่  พิเศษ/2554                                                                                                     หน่วยงาน(โรงเรียน/สพป/สพม..........)

                                                                                                                                ............................................................

                                                                                                วันที่.........เดือน...............................พ.ศ.......................

เรื่อง  ของดส่งเงินเข้า  กบข.

เรียน  (ปลัดกระทรวง/เลขาธิการ/หัวหน้าหน่วยงาน/ส่วนราชการ

สิ่งที่ส่งมาด้วย  สำเนาบัตรสมาชิก  กบข.

                                ด้วยข้าพเจ้า ........................................................นามสกุล...................................................

เลขที่บัตรประชาชน.....................................................สังกัดหน่วยงาน/โรงเรียน............................................

.............................................................อำเภอ.......................................จังหวัด................................................

เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จนาญข้าราชการ(กบข.) ของดส่งเงินเข้าเป็น  เงินสะสมใน กบข.  ตั้งแต่เดือน..................................เป็นต้นไป  จนกว่าจะมีการแก้ไข  พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ  พ.ศ. 2539  อย่างเป็นธรรมแก่สมาชิก  ตามที่องค์กรเครือข่ายสมาชิก  กบข.  แห่งประเทศไทยและองค์กรพันธมิตรเรียนร้อง  หรือจนกว่าจะยกเลิก  กบข.

                                จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการ

                                                               

                                                                                                ขอแสดงความนับถือ

 

                                                                                                ......................................

                                                                                (.........................................................)

                                                                ตำแหน่ง...............................................................

 

 

โทร..........................................

หมายเหตุ  กรุณารวบรวมส่งไว้ที่หน่วยงานของท่าน  เพื่อดำเนินการต่อไป

พอเริ่มต้นปี กบข.ก็เริ่ม ผลประโยชน์ติดลบอีกแล้ว ผมตรวจสอบ
ยอดเงินวันนี้ 15 ก.พ.54  ผลประโยชน์ติดลบอีกแล้วครับสมาชิก
ทั้งหลาย กบข. เอาเปรียบข้าราชการจริงๆ

ขอสนับสนุนให้ดำเนินการเต็มรูปแบบ ล้านเปอร์เซนต์

เห็นด้วย ครับ โดยเฉพาะข้าราชการทหาร ตำรวจ ที่มีวันทวีคูณจะเสียเปรียบมากเลยครับ  กับสูตรที่ไม่เป็นธรรม  ขอความเป็นธรรมให้กับข้าราชการเท่านั้นครับ

วันทวีคูณ ประกาศกฏอัยการศึก/กอ.รมน./ราชการสนามชายแดน/สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันทวีคูณไหนๆก็ไร้ประโยชน์ เฮ้อออ...ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหนกัน ผู้นำคิดแต่ประโยชน์ของตัวเองขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองมากกว่าข้าราชการหลายเท่า คนรักชาติต้องแบบไหน? คนขายชาติเป็นยังไง? เป็นแค่วาทะศิลป์ทำลายคนอื่นแล้วทำให้คนพูดดูดี ประเทศไทยก็เป็นของคนไทยทุกคนไม่มีใครเป็นเจ้าของ  ผู้บริหารชาติบ้านเมืองทำไมไม่ดูแลแก้ไขความเดือดร้อนให้ข้าราชการที่ทำงานให้ชาติบ้านเมืองบ้าง หากข้าราชการเสียขวัญและกำลังใจ ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบไปด้วย

สมาชิก กบข. เศร้าใจกับรัฐบาลชุดนี้ ถ้าทุกคนติดตามการเรียกร้องการขอแก้ไข มาตรา 63 มาตั้งแต่ต้น จะเห็นได้ว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจในการที่จะแก้ไขเลย ซื้อเวลามาตลอด 

จุดมุ่งหมายของกบข. คือการลดภาระด้านงบประมาณของประเทศที่จะต้องจ่ายเป็นเงินเดือนและบำนาญถ้าจะกลับไปเป็นแบบเดิมแล้วจะออกกฎหมายมาทำไม และข้าราชการเก่าก่อน2540 เขาก็ไม่ไดบังคับให้เป็นสมาชิก ก็เลือกเอง และข้าราชใหม่เมื่อตัดสินใจมารับราชการก็ต้องยอมรับกฎกติกากันบ้าง ถ้าไม่ชอบก็ไม่ควรเข้ามาในวงราชการ และอย่าตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่ได้คำนวนอย่างใช้เหตุผล ถ้าอยู่จนครบเกษียณอายุราชการก็ไม่น่าจะเกิน 38 ปี ( ไม่รวมพวกโชคดีที่ได้ทวีคูณ) ถ้าไม่เข้ากบข.= เงินเดือนสุดท้าย คูณ 38 หาร 50  และถ้าเข้ากบข. เงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย( ถ้าเงินเดือนตัน 5 ปี ก็คือเงินเดียวกัน ) คูณ 35 หาร 50 ลองคำนวนดูนะครับ ผลต่างของบำนาญต่างกันแค่หลักพันต้นๆ แต่เงินก้อนที่ได้ประมาณ หนึ่งล้านกว่าๆ แล้วลองเอาส่วนต่างของบำนาญคูณ 12 ไปหารเงินก้อนที่ได้ จะพบว่าอีกหลายสิบปีกว่าจะได้เงินก้อนเท่านั้น และบางคนไม่มีทางเก็บได้ด้วยเพราะใช้หมด ที่คนออกมาเรียกร้องว่าเงินหายไปเยอะก็เพราะเอาบำนาญไปเปรียบเทียบกับเงินเดือนจริงๆ ไม่ใช่บำนาญที่คำนวนออกมา ต้องบำนาญเทียบกับบำนาญซิครับ ผมเองเออร์รี่2 ปีมาแล้ว เงินเดือนเต็มขั้นมาประมาณ 4 ปี อายุราชการ34 ปีกว่าๆ ผมตันแค่ คศ.2 ( 33540 บาท ) ผมได้บำนาญ 22xxx บาท ถ้าผมไม่เข้ากบข 33540 * 35 / 50 = 23478 บาท มากกว่ากัน ไม่ถึง1000 บาทปีละ=12,000 บาท  แต่เงินก้อนที่ได้จาก กบขใ 7xx,xxx บาท ซึ่งถ้าเอาส่วนต่างไปเก็บต้องใช้เวลา 58 ปี ตายก่อนคร้บ และยังได้ค่าจ้างเออร์รี่ อีก 370,400บาท  และถ้าผมอยู่จนปลดเกษียณและเงินเดือนขึ้น เป็นสมาชิก กบข. จะได้บำนาญ 23,783 บาท และได้เงินก้อนจากกบข. 9xx,xxx บาท แต่ไม่เเป็นกบข. ได้บำนาญ 28,046 บาท ผลต่าง 4,263 บาท 1 ปี= 51,156 บาท ลองเอาไปหารเงินก้อนที่ได้จากกบข. ก็ประมาณ 18 ปีหลังจากเกษียณแล้วถึงจะเก็บเงินได้เท่านี้ ตอนนั้นก็อายุ 78 แล้วเอาไปทำอะไร สู้ได้เงินก้อนตอนย้งมีกำลังวังชาทำอะไรก็ยังได้ ไม่ดีกว่าหรือครับ นี่ก็แค่แสดงความคิดเห็นนะครับ สำหรับคนที่ไม่มีทวีคูณบำนาญต่างกันแค่หลัพันจริงๆ แต่เงินก้อนสมัยพวกคุณคงได้คนละเป็นล้านแล้วล่ะและได้มาก่อนค่าของเงินก็มากกว่า กว่าที่จะเก็บได้ถึงจำนวนนั้นนะครับ ผมสองคนตอนเออรี่เหลืออายุราชการ2 ปี แต่ได้เงินก้อน 2คนรวมกัน ประมาณ 2,500,000 บาท ยังไม่รู้จะเอาไปทำอะไรเลย ให้ลูกไปคนละ ล้านกว่าบาท บำนาญ 2คน 43,XXX บาทก็พอกินพอใช้ยังเหลือให้ลูกๆ( ทำงานแล้ว )ใช้ด้วย และลูกก็เป็นสมาชิก
กบข. ก็ยังเห็นประโยชน์ของการเป็นสมาชิกเลยครับ ถ้าเก่งคณิตศาสตร์ลองคำนวนดูนะครับ เชื่อผมหรือไม่เชื่อต้องลองคิดคำนวนดูแล้วคุณจะรู้จริง

ความเห็นที่ #8 ต่างกันแค่ 1000บาท จริงรึ

ตอบครูเกษียณ  ความเห็นที่ 8
เพิ่งอ่านความคิดเห็นของคุณครูเกษียณฉันก็ครูเกษียณป้ายแดงค่ะเหตุที่ว่าป้ายแดงเพราะจนป่านนี้ยังไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนและรับเงินบำนาญ(เข้าเดือนที่ 7 แล้ว) เหตุที่ล่าช้าเพราะถ่ายโอนไปท้องถิ่น  แต่เงินก้อน กบข.ได้แล้วนะต้องขอชม กบข.ทำงานบริการสมาชิกได้รวดเร็วมาก ก่อนเกษียณดิฉันเงินเดือน 44,340 บาท ถ้าไม่เป็นสมาชิกกบข. จะได้รับบำนาญเดือนละ  35,446  แต่ฉันเป็นสมาชิกจึงได้รับบำนาญเดือนละ  25,582 บาท  จะเห็นว่าส่วนต่างบำนาญอยู่ที่ 9,784 บาท ส่วนเงินก้อนได้จาก กบข.792,753.29 บาท  ก่อนเป็นสมาชิกได้ศึกษาวิเคราะห์เป็นอย่างดีฉันเป็นสมาชิกด้วยความเต็มใจรู้ทั้งรู้ว่าคนเกิดปี พ.ศ. 2495 ไม่ควรเป็นสมาชิกแต่ฉันก็เต็มใจทำเหตุผลคือออมเงินและเงินก้อนตอนเกษียณ ฉันก็เหมือนท่านลูกก็เป็นสมาชิก กบข. ทั้ง 2 คน  ท่านคิดถูกแล้วล่ะ แต่ส่วนต่างจะไม่เท่ากันทุกคนนะคะเพราะขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละบุคคลค่ะ ทุกวันนี้พอใจแล้วแต่เห็นด้วยกับการแก้ไขสูตรบำนาญเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกท่านอื่นๆที่จะเกษียณในปีต่อๆไป

กบข.ควรแก้ไข

๑) การคำนวญ บำเหน็จตกทอด ๓๐ เท่า ของเงินบำนาญ ควรใช้บำนาญก่อนคิดบำนาญ กบข.คือ

- บำนาญปกติ คิดเงินเดือนเดือนสุดท้ายคูณจำนวนปีที่รับราชการ (บวกวันทวีคูณ) หารด้วย ๕๐

- บำนาญ กบข. คิดเงินเดือนเฉลี่ย ๖๐เดือนคูณดัวย ๗๐%

๒) ควรจะเพิ่มจาก ๗๐% ของเงินเดือนเฉลี่ย ๖๐ เดือน เป็น ๘๐%ของ

เงินเดือนเดือนสุดท้าย

๓) การลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ ควรได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด

(รวมเงินประเดิมด้วย)ในทุกกรณี เพื่อให้สมาชิกมีสิทธิลาออกก่อนกำหนดได้ไม่เป็นภาระของรัฐบาล

๔)ถ้าเพิ่ม ๘๐%ไม่ได้ควรนำวันทวีคูณมาบวกเพิ่มจาก ๗๐%เพื่อให้ข้าราชการออกราชการชายแดนมีกำลังใจในการปฏิบัติงาน

ขอบพระคุณอย่างสูงยิ่ง

คิดดูแล้ว หักเงินเดือนเข้ามาสมทบกับเงิน กบข เหมือนแค่หาเงินเดือนมาให้พนักงาน กบข มีงานทำ มีเงินเดือนใช้ไปเรื่อยๆ  สมาชิกไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย อยากลาออกจากสมาชิกเร็วๆ

กระทรวงการคลังควรแยกการพิจารณาปัญหากองทุน กบข. ดังนี้
 1.ข้าราชการก่อนปี 40 ที่สมัครใจให้สามารถลาออกได้เนื่องจากผลการคำนวนระยะเวลาสั้นและถูกตัดวันทวีคูณทำให้เสยประโยชน์
 2. การคิดบำเหน็จตกทอดควรใช้สูตรเดิมรวมวันทวีคูณก่อนเพราะหากคิดตามสูตรเดิมหากได้รับบำนาญ 40,000บาทได้รับบำเหน็จตกทอดคูณด้วย 30 เท่า ก็จะได้รับ 1,200,000(หนึ่งล้านสองแสนบาท)หากเป็นสูตรของ กบข.จาก 40,000บาท จะเหลือ 25,000บาทเพราะถูกตัดวันทวีคูณ คูณ30เท่า จะได้รับ 750,000บาท หายไป 450,000บาท แล้วก็เอา 450,000บาท ไปให้สมทบและชดเชย และเงินบำนาญก็ถูกตัดอีกเดือนละ 15,000บาท สรุปแล้วรัฐบาลให้อะไรเรานอกจากใช้วิธีฉ้อฉลเอาเงินเรามาจ่ายเราที่มีคนเห็นดีงามเพราะเห็นเงินก้อนโต แต่ถูกตัดยามชราไม่คิด