ร่วมสร้างศาลาฤทธิ์โพธิสัตว์ ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด โดยพระสายหลวงพ่อปาน-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สายครูบาศรีวิชัย สายหลวงปู่ดู่ อาทิ หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน หลวงตาวัชรชัย วันถ้ำนารนยณ์ หลวงพี่สมปอง บ้านสบายใจ ครูบาบุญชุ่ม ครูบาเทือง วัดบ้านเด่น ครูบาน้อย วัดศรีดอลมูล
ครูบาพรรณ วัดพุทธบามห้วยต้ม จ.ลำพูน หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ ท่านอื่นๆ
ฤทธิ์บรมมหาโพธิสัตว์ (เป็นดัง พี่ชายคนโตของพระโพธิสัตว์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย)
ผมพบบันทึกนี้ในวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งในบันทึกบางส่วน(บันทึกค่อนข้างยาวมีหลายหน้า และผมได้แปลงภาษาในบันทึกให้ง่ายต่อการอ่าน เพราะภาษาที่เขียนเป็นภาษาไทยโบราณ) มีข้อความว่า
“ในหมู่โพธิสัตว์ทั้งหลายยังมีโพธิสัตว์ท่านหนึ่งชื่อ ฤทธิ์โพธิสัตว์ ซึ่งท่านฤทธิ์โพธิสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์ที่มากด้วยฤทธิ์ทั้งทางโลกและทางธรรม หลังกึ่งพุทธกาลทุกวัดทุกบ้านเรือนจะนับถือบูชาท่าน โดยท่านได้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ามาตั้งแต่อดีตในไกลโพ้น และท่านมีความปรารถนาจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของโลกธาตุ ต้องการพาสรรพสัตว์ทั้งหมดไปสู่พระนิพพาน พร้อมคำอธิษฐานใหญ่ 4 ประการ (ให้สัมฤทธิ์ผลตลอดกาลนานไม่มีที่สิ้นสุด) คือ
1.ทำให้ดินแดนพระพุทธศาสนา หรือดินแดนผู้มีศีลมีธรรม เจริญขั้นสูงสุดทั้งทางโลกและธรรม
2.ขอให้บุญและบาป กฎแห่งกรรมจนส่งผลอย่างชัดเจนภายใน 7 วัน แก่ผู้สร้างกรรมนั้น (ขอให้สรรพสัตว์ทุกตนจงรู้กฎแห่งกรรมสำคัญๆของตนเอง และทุกวันวิสาขบูชาของทุกปี 3 แดนโลกธาตุ จงมองเห็นกันทั้งหมด เพื่อให้รู้ว่าสวรรค์นรกมีจริง)
3.ขอให้ผู้มีอำนาจ ผู้ปกครอง ในดินแดนพุทธศาสนา ดินแดนผู้ทรงศีลทรงธรรม จงเป็นผู้พร้อมด้วยคุณสมบัติทางโลกและธรรมทุกประการ ในการนำพาดินแดนเหล่านี้ให้เจริญขั้นสูงสุดทั้งทางโลกและธรรมทุกประการ
4.มนุษย์และอมุษย์ที่เกิดในดินแดนพุทธศาสนา ดินแดนผู้มีศีลมีธรรม ต้องมีความปรารถนาที่แรงกล้าในการพ้นทุกข์
- ในสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านฤทธิ์เทพบุตร ได้มาเกิดเป็นฤาษีและได้พบพระพุทธเจ้า ท่านจึงได้ทูลถามว่าความปรารถนาสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของโลกธาตุของท่านจะสำเร็จไหม พระพุทธเจ้าสมณโคดมตอบว่าความปรารถนาของเธอจะมีผลสำเร็จ ท่านฤาษีจึงถามว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด พระพุทธเจ้าสมณโคดมไม่ทรงตอบ ท่านจึงใช้ญาณพิจารณาว่าเหตุใดพระองค์จึงไม่ตอบ จึงรู้ว่าไม่สามารถกำหนดได้ว่าเมื่อไหร่เพราะกาลเวลานานยาวนานจนไม่เห็นที่สุด ดังนั้นท่านจึงตั้งความปรารถนาว่าอย่างไรเสียเราต้องทำให้ความปรารถนาใหญ่ 4 ประการ นี้สำเร็จก่อน ท่านจึงใช้ญาณเพื่อดูว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด จึงทราบว่าท่านต้องเกิดมาสร้างบารมีอีกนับชาติไม่ถ้วน จนเลยกึ่งพุทธกาล(พ.ศ. 2500)ไปแล้วจะเกิดอีก 2 ครั้ง คำอธิษฐานใหญ่จึงสำเร็จ โดยทั้ง 2 ชาตินี้ จะเกิดวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนหก (วันวิสาขบูชา) เวลากลางคืน เกิดเป็นเพศชาย ทั้ง 2 ชาติ โดยทั้ง 2 ชาติจะเกิดเป็นบุคคลธรรมดามีอาชีพเป็นพ่อค้า นักปกครองและนักบวชในคราวเดียวกัน โดยทั้ง 2 ชาติ นอกจากทำให้คำอธิฐานใหญ่ 4 ประการเป็นจริง แล้วยังมุ่งทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นท่านจึงอธิฐานขอให้เทพทั้ง 7 ได้แก่ พระอินทร์ ท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 ท้าวสหับดีพรหม พระยายม ช่วยท่านในการทำให้คำอธิฐานใหญ่เป็นจริงโดยเร็ววัน ท่านฤทธิ์เทพบุตรนอกจากปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของโลกธาตุแล้ว ท่านยังตั้งความปรารถนาว่าคราวใดคนดี มีศีล มีธรรม ประสบความทุกข์ยากลำบากในชีวิต หรือมุ่งทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมแล้วมีอุปสรรคมาขัดขวาง ขอเพียงท่านรู้ ท่านจะช่วยบุคคลนั้นให้รอดพ้นจากความทุกข์ หรือกำจัดอุปสรรคเหล่านั้นโดยทั้งที และท่านยังตั้งความปรารถนาจะมุ่งช่วยให้โพธิสัตว์ท่านอื่นๆที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าเพื่อช่วยสรรพสัตว์ทั้งหมด และท่านยังมุ่งช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ตลอดเวลา (เป็นดัง พี่ชายคนโตของพระโพธิสัตว์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย)
คำสอนของฤทธิ์โพธิสัตว์ คือ
-ไม่มีสิ่งใดจะศักสิทธิ์ไปกว่าตัวเราเอง ที่จะนำพาตัวเราให้รอดพ้นจาก วิบากกรรมและความทุกข์ทั้งปวง ไปสู่ความเจริญและความสุขที่แท้จริง ( ตนเอง เป็นที่พึ่งของตนเอง ที่ดีที่สุด)
-คนชั่วมีมากกว่าคนดี ดังนั้นคนดีต้องรวมตัวกันเพื่อสู้กับคนชั่วและความชั่วทั้งปวง จึงจะชนะสิ่งเหล่านี้ได้ (จงช่วยเหลือคนดีให้เจริญยิ่งขึ้น ถ้าจะช่วยเหลือคนไม่ดี จงช่วยพอควร แต่อย่าช่วยเหลือคนไม่ดีให้มีร่ำรวยมีอำนาจวาสนา เพราะคนไม่ดีจะไปรังแกผู้อื่น)
-จงสร้างความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมให้เกิดกับตนเอง ประชาชนทั้งหลาย และสรรพสัตว์ทั้งปวง
คำชี้แนะของฤทธิ์โพธิสัตว์คือ
บุคคลใดปรารถนาช่วยเหลือเกื้อกูลพระพุทธศาสนา ประชาชนทั้งหลาย และสรรพสัตว์ทั้งปวง บุคคลนั้นถือเป็นนักรบแห่งธรรม เราฤทธิ์โพธิสัตว์ขอให้นักรบแห่งธรรมทั้งหลายร่วมมือกัน สามัคคีกัน พร้อมทั้งจงใช้ความรู้ความสามารถทางโลกและทางธรรม(รวมทั้งอภิญญาสมบัติ) นำพาดินแดนพระพุทธศาสนาหรือดินแดนผู้มีศีลมีธรรม ให้เจริญขั้นสูงสุดทั้งทางโลกและธรรมทุกประการ ตลอดกาลนาน เพื่อประโยชน์สุขของพระพุทธศาสนา ประชาชนทั้งหลาย และสรรพสัตว์ทั้งปวง (ประเทศชาติและประชาชนเจริญรุ่งเรือง พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง เพราะถ้าประเทศชาติและประชาชนล่มสลาย พุทธศาสนาก็ล่มสลาย)
คำสอนถึงเหล่าโพธิสัตว์และนักรบแห่งธรรมทั้งหลาย
- ผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าจำนวนมาก คิดว่า การช่วยเหลือสรรพสัตว์ คือ ชาติที่สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้วเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วช่วงเวลาแห่งการสร้างบารมี ก็สามารถช่วยสรรพสัตว์ได้เช่นกัน จงสร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าพร้อมกับช่วยเหลือสรรพสัตว์ไปพร้อมกันเช่นนี้ทุกชาติภพไป
- การเกิดแต่ละชาติ จงสร้างรากฐานด้วยรูปแบบต่างๆแก่สรรพสัตว์และดินแดนที่ตนเกิด เพื่อให้ดินแดนพระพุทธศาสนา หรือดินแดนผู้มีศีลมีธรรมเจริญขั้นสูงสุดทั้งทางโลกและธรรมตลอดไป แม้ว่าเจ้าจะตายไป แต่สรรพสัตว์และดินแดนเหล่านี้ยังเจริญต่อไปได้ โพธิสัตว์และนักรบแห่งธรรมจำนวนมากไม่ได้วางรากฐานไว้ เมื่อเขาเหล่านี้ตายลง สิ่งที่เขาสร้างมาทั้งชาติก็สูญสลายตามไปด้วย (จงสร้างรากฐานที่ดีไว้ แม้กาลเวลาผ่านไปเป็น 100 ปี 1000ปี สิ่งที่เจ้าสร้างมาก็ยังคงอยู่)
- โพธิสัตว์บางรูป มุ่งเกื้อกูลพุทธศาสนา บางรูปมุ่งช่วยประชาชน หมู่ชนที่ลำบากยากเข็น สำหรับเราแล้ว การเกิดแต่ละชาติควรที่จะเกื้อกูลพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง พร้อมทั้งช่วยประชาชน หมู่ชนที่ลำบากยากเข็นให้พ้นจากความทุกข์ มีความสุข เจริญยิ่งขึ้น (จงวางรากฐานให้ ประชาชนทั้งหลาย อยู่ดี กินดี มีความสุข ไร้ซึ่งความทุกข์ ประพฤติตัวอยู่ในศีลในธรรม มีจารีตประเพณีที่ดี คนดีได้รับผลของความดีเจริญรุ่งเรือง คนชั่วได้รับผลของความชั่ว ตกต่ำลง ดินแดนพระพุทธศาสนาหรือดินแดนผู้มีศีลมีธรรมพร้อมทั้งประชาชนมีความเจริญทั้งทางโลกและธรรมทุกประการ)
เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านบันทึกนี้ ตอนกลางคืนวันนั้นข้าพเจ้าฝันเห็นเทพองค์หนึ่งบอกข้าพเจ้าว่า (ข้อความจากกระดาษที่สอดติดอยู่ในบันทึก) “ให้นำเรื่องบันทึกนี้ไปบอกแก่ผู้อื่น และบุคคลใดต้องการมีเงินทองใช้ไม่ฝืดเคือง มีชีวิตที่สงบสุขให้ บอกให้เขาทำดังนี้ 1.พิมพ์บันทึกนี้แจกทุกเดือน 2.ทำตามคำสอนของฤทธิ์โพธิสัตว์ 3.ทำบุญเพื่อจรรโลงพุทธศาสนาและส่งเสริมให้คนปฎิบัติธรรม 4.ทำทานช่วยคนลำบากยากเข็น 5.รักษาศีล 5 เท่าที่ทำได้ ทำเช่นนี้ถวายแก่ฤทธิ์เทพบุตรและเทพทั้ง 7 เพื่อให้คำอธิษฐานใหญ่ 4 ประการ ให้เป็นจริงโดยเร็ว ท่านเทพเหล่านี้ก็จะปกป้องคุ้มครองผู้นั้นตลอดไป
ในกรณีที่คนใดต้องการให้ท่านช่วยเหลือในเรื่องใหญ่ ให้บนรักษาศีล 5 เท่าที่ทำได้ -นั่งสมาธิวันละครึ่งก้านธูป - ทำตามคำสอนของฤทธิ์โพธิสัตว์ -ทำสังฆทานพร้อมพระพุทธรูป 5 นิ้วขึ้นไป จำนวน 3 ชุดทุกเดือน -ทำทานช่วยคนลำบากยากเข็นทุกเดือน -ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 3 เดือน ถ้าเรื่องใหญ่มากๆให้เปลี่ยนจากบน 3 เดือน เป็น 1 ปี
ในกรณีที่ท่านใดมีเงินทุนพอให้ตั้งศาลาฤทธิ์เทพบุตร โดยในศาลามีรูปปั้นฤทธิ์โพธิสัตว์ พร้อมเทพทั้ง 7 ได้แก่ พระอินทร์ ท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 ท้าวสหับดีพรหม พระยายม เพื่อให้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากยากเข็ญได้มาขอความช่วยเหลือจากเทพเหล่านี้ต่อไป พร้อมกับทำสิ่งใดก็ได้ที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลตลอดกาลนาน 1 อย่าง ให้แก่ พระพุทธศาสนา หรือ ประชาชนทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งปวง”
ฤทธิ์เทพบุตรโพธิสัตว์ ในชาติที่กลับมาเกิดหลังกึ่งพุทธกาล จะเป็นผู้เริ่มการสืบต่อศาสนา โดยการกลับชาติมาเกิดซึ่งมี 2 แบบ คือ
แบบกลับมาเกิดจริง คือ การกลับมาเกิดจริงเพื่อสร้างบารมีของผู้สะสมบารมีทางธรรม โดยผู้ดูแลของบุคคลนั้นๆจะเป็นผู้ตามหาผู้กลับมาเกิด เพื่อนำมาสั่งสอนตั้งแต่เด็กเพื่อการสะสมบารมีต่อไป ซึ่งผู้กลับมาเกิดจะเป็นนักบวชหรือฆราวาสก็ได้
แบบผ่านญาณ คือ เมื่อผู้สะสมบารมีสร้างบารมีมากพอ ไม่ต้องกลับมาเกิด เพื่อแต่หาร่างที่หมดอายุขัย และนำดวงจิตของตนเข้าสวมร่างที่หมดอายุไข เพื่อทำงานตามที่ตนปรารถนาต่อไป (แบบผ่านญาณ ต้องเป็นผู้มีบารมีมากเท่านั้นจึงทำได้)
การกลับชาติมาเกิดจริงจะมีบุญบาปที่ทำในอดีตมาส่งผลในชีวิตอย่างมาก ประกอบกับต้องใช้เวลาฟื้นคุณวิเศษเป็นเวลานาน ทำให้เหมาะกับการสร้างบารมีตนเองและดูแลปกป้องสร้างความเจริญพุทธศาสนาควบคู่กันไป แต่การกลับมาเกิดแบบผ่านญาณเหมาะสำหรับทำงานเพื่อดูแลปกป้องและสร้างความเจริญพุทธศาสนาได้ดีกว่า เพราะไม่มีกรรมในอดีตมาขัดขวางการทำงานเพื่อดูแลปกป้องและสร้างความเจริญพุทธศาสนา อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลาในการฟื้นคุณวิเศษเพราะดวงจิตที่ทำงานไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เป็นพรหมหรือเทวดาตามดวงจิตนั้นๆ ดังนั้นการกลับมาเกิดจริงจึงเหมาะกับผู้ยังต้องสร้างบารมี แต่การกลับมาเกิดแบบผ่านญาณเหมาะกับผู้ที่สร้างบารมีใกล้เต็มหรือเต็มบริบูรณ์แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นทั้งแบบอรหันต์หรือโพธิสัตว์ก็ได้ ”