กว่า 50% ระบุทำได้จริงจะทำให้เมืองไทยน่าเที่ยวขึ้น ผลวิจัยรับวันงดสูบบุหรี่โลก พบนักท่องเที่ยวทั้งยุโรป-เอเชีย กว่า 80% เห็นด้วยห้ามพ่นควันในล็อบบี้โรงแรม ขณะเดียวกัน ในจำนวนนี้กว่าครึ่งยันไม่มีผลลบต่อการตัดสินมาทัวร์เมืองไทย แถมยิ่งทำให้อยากมาเที่ยวมากขึ้น ด้านศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ มหาวิทยาลัยมหิดล ชวนโรงแรมร่วมปลอดบุหรี่กับ 320 โรงแรมต้นแบบ รศ.ดร.วิไลวรรณ วิริยะไชโย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยถึง ผลวิจัย "ทัศนคติของนักท่องเที่ยวต่อการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่บริเวณล็อบบี้โรงแรม" ในนักท่องเที่ยวที่มาพักในโรงแรมทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยในโรงแรมระดับ 3 - 4 ดาว 25 แห่ง ของกรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ สงขลา จำนวน 5,550 คน ซึ่งแบ่งเป็นที่มาจากทวีปเอเชีย 41% ยุโรป 38% ทั้งนี้ พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ 80.9% เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนี้ โดยเกินครึ่ง 53.4% บอกไม่มีผลลบเลยกับการจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยหรือไม่ ขณะที่ 38.6% ยืนยันว่าการมีกฎหมายนี้จะยิ่งทำให้อยากกลับมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น อาจารย์อภิรดี แซ่ลิ่ม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หนึ่งในผู้ร่วมทีมสำรวจ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เกือบ 90% มีทัศนะว่าควันบุหรี่มีผลต่อสุขภาพของคนรอบข้าง จึงเห็นได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันเป็นผู้ไม่สูบบุหรี่ และต่างสนับสนุนให้ออกกฎหมาย จำกัดพื้นที่การสูบบุหรี่ ซึ่งโรงแรมที่มีเครือข่ายมากๆ บางแห่งยังบอกด้วยว่า นักท่องเที่ยวถึง 92% ที่ต้องการจะพักห้องที่ไม่สูบบุหรี่ แต่ที่น่าเสียดาย คือ นักท่องเที่ยวถึง 52.1% ไม่ทราบว่ามีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในร้านอาหารหรือภัตตาคารในไทย ทั้งนี้ งานวิจัยนี้ได้รับการคัดเลือกให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ Tobacco Control ในเดือน มิ.ย. นี้ด้วย ขณะที่ ดร. ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า แม้ไทยได้มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 17 พ.ศ. 2549 เพิ่มพื้นที่ล็อบบี้โรงแรมเป็นเขตปลอดบุหรี่ แต่ในทางปฏิบัติผู้ประกอบการโรงแรม อาจกังวลถึงผลกระทบต่อการเข้าพักโรงแรม และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ เพราะฉะนั้น เห็นว่างานวิจัยนี้ควรได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปสู่เจ้าของธุรกิจโรงแรม นักท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ให้รับทราบข้อเท็จจริงนี้โดยทั่วกันว่าการดูแลพื้นที่ปลอดบุหรี่ของโรงแรมตามกฎหมาย นอกจากจะช่วยลดการสูบบุหรี่และการคุ้มครองสุขภาพของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่แล้ว ยังเป็นผลบวกต่อการตอบรับของนักท่องเที่ยวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ขอเชิญชวนให้โรงแรมอื่นๆ มาร่วมโครงการโรงแรมปลอดบุหรี่ ซึ่งขณะนี้มูลนิธิใบไม้เขียว ร่วมกับสมาคมโรงแรมแห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมผลักดันให้มีโรงแรมปลอดบุหรี่ ที่จัดห้องพักส่วนใหญ่ของโรงแรมปลอดบุหรี่แล้ว 320 โรงแรมทั่วประเทศ ผู้สนใจค้นหารายชื่อโรงแรมต้นแบบเหล่านี้ ได้ที่ www.greenleafthai.org |