spdnbig หลายคนที่เรียนจบออกมาแล้ว คิดว่าจบแล้วก็จบเลย ไม่คิดที่จะหาความรู้ ฝึกฝนตนเองเพิ่มเติม ให้มีความรู้นอกเหนือจากที่เรียนมา จากประสบการณ์ของคนเคยหางานอย่างผมเอง มักจะถูกทดสอบอยู่เป็นประจำ ถึงสิ่งที่ตนเองถนัด สิ่งที่ชอบ และจุดเด่น จุดด้อยของตนเอง ซึ่งไม่ได้เกียวกับเรื่องที่เรียนมาเลยแม้แต่น้อย แต่มันก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับการได้งานทำจนได้
ผู้ที่กำลังหางาน หรืออยากเปลี่ยนงาน ลองดูเทคนิคพวกนี้ก่อนก็ได้ นะ จะได้เป็นข้อมูลนำไปปรับปรุงตัวเอง ตอนสมัครงาน
1 เตรียมตัวให้พร้อม จงรักษาสุขภาพ สำคัญมาก ร่างกาย สมองต้องพร้อม ไม่ว่ากำลังมองหาที่สมัคร หรือไปตามนัดเพื่อสัมภาษณ์งาน อย่าไปด้วยอาการที่ไม่สบายเป็นอันขาด เพราะนั่นหมายถึง ความประทับใจแรกของคนที่จะรับคุณเข้าทำงานลดลงไปแล้ว เขาไม่ได้มาสนใจหรอกว่า คุณไปทำอะไรมาถึงไม่สบาย เขาจ้องมอง และยินดีรับคนที่มีความพร้อมที่สุดครับ
2 สำรวจตัวเอง อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า คุณชอบ ถนัดอะไร จุดเด่น จุดด้อยของตนเองเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวคุณเอง หาให้เจอ ค้นให้พบ ว่าคืออะไร เรื่องนี้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้นครับ ไม่มีเพื่อนคนไหนบอกแทนคุณได้
แต่สำหรับเรื่องข้อเสีย จุดด้อยของตัวเอง เพื่อนรอบตัวคุณอาจจะเป็นคนบอกได้ เมื่อทราบแล้วคุณต้องคิดหาเหตุผลให้ได้ก่อน เข้ไปสัมภาษณ์งานนะครับ ว่าจะมีแนวทางแก้ไขจุดด้อย ข้อเสียของคุณได้อย่างไรบ้าง เพราะเมื่ออยู่ในห้องสัมภาษณ์งาน เขาต้องการคำตอบเรื่องการแก้ปัญหาของคุณมากกว่าการทราบปัญหาครับ
3 มีความเชื่อมั่นในตนเอง จงอย่าหวาดกลัว ขลาดเขลาเป็นเด็ดขาด ไปถึงที่สมัครงาน คนไปสมัครกันเยอะมาก แต่ละคนแต่งเนื้อแต่งตัวดี จบจากสถาบันที่มีชื่อ เรื่องนี้คุณไม่ต้องไปสนใจครับ จงเชื่อมั่นว่าเราคือคนสำคัญที่เจ้าของงานจะต้องรับไว้พิจารณาคนหนึ่ง ดังที่ได้กล่าวว่าจงค้นหาจุดเด่นของเราให้เจอ จะได้นำเสนอ เพราะแต่ละคนที่มาสมัครจะมีเรื่องเด่น เรื่องที่ตนเองถนัดไม่เหมือนกันครับ
4 เตรียมข้อมูลไปให้พร้อม เตรียมไว้ในหัวนะครับ ว่าหน่วยงานที่เราไปสมัครเกี่ยวข้องกับอะไร ข้อมูลเบื้องต้นควรรู้ ไม่ใช่ไปแบบไปตายดาบหน้า ให้ถึงที่ก่อน แล้วค่อยว่ากัน อย่างนี้ จะเกิดความไม่เชื่อมั่นในตนเองสูง เพราะไม่รู้เลยว่าจะต้องไปเจอกับอะไร ให้เตรียมต้วไว้บ้างก็ดี
5 ฝึกความเป็นผู้นำ จะแสดงออกมาจากบุคลิก คำพูด การตอบคำถาม และการแต่งกาย คนรอบข้างจะสัมผัสได้ครับ ก่อนจะไปสมัคร หรือไปสัมภาษณ์ ควรทดสอบกับคนรอบข้างของคุณก่อนก็ได้ ว่าสิ่งที่คุณพูด คุณคิด คนรอบข้างเขาเชื่อฟัง เชื่อถือในคำพูดของคุณแค่ไหน สามารถนำมาวัดความเป็นผู้นำของคุณได้ระดับหนึ่งครับ การนำประวัติการดำรงตำแหน่งสมัยเรียนหนังสือ มาอ้างอิง ก็ใช้ได้ระดับหนึ่ง แต่สุดท้าย ผู้จะรับคุณเข้าทำงาน จะสังเกตจากสิ่งที่ออกมาจากตัวคุณ ณ ปัจจุบัน ที่แสดงออกต่อหน้าเขามากกว่า เพราะนั่นหมายถึงการที่เขาได้สัมผัสตัวตนคุณจริง ๆ
ขอเตือน น้อง ๆ ที่จบใหม่ นะครับ นี่เป็นการเริ่มต้นของการท่องยุทธจักรอย่างแท้จริง วิชาการที่คุณคิดว่าเรียนรู้อย่างแกร่งกล้าแล้ว อาจต้องมาแพ้วิชาเอาตัวรอด และวิชาศึกษานอกห้องเรียนครับ เมื่อจบออกมาจากสถาบันแล้ว จงอย่าจบเรื่องการศึกษาหาความรู้เป็นอัน่ขาด โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับชีวิตการทำงาน อย่างเช่น คอมพิวเตอร์, ภาษาต่างประเทศ, วิชาด้านสังคม การคบหาสมาคมกับผู้คน ต้องเรียนรู้ครับ เรียนรู้งาน เรียนรู้คน
ถ้าคุณไม่ศึกษาเพิ่มเติม อาจจะเสียเปรียบคนอื่นก็ได้ แม้เขาจะเรียนไม่เก่ง แต่เขาเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องเหล่านี้ เพราะทุกหน่วยงาน และงานทุกด้านจะต้องมีเรื่องพวกนี้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอครับ