ร่วมเทิดทูลสถาบัน

guest profile image guest

ขอแต่เพียงไทยเราอย่าผลาญญาติ  ร่วมชาติร่วมจิตเป็นข้อใหญ่

                                      ไทยอย่ามุ่งร้ายทำลายไทย  จงพร้อมใจพร้อมกำลังระวังเมือง.

                                      ให้นานาภาษาเขานิยม  ชมเกียรติยศฟูเฟื่อง,

                             ช่วยกันบำรุงความรุ่งเรือง  ให้ชื่อไทยกระเดื่องทั่วโลกา
ความคิดเห็น
BeerIS52 profile BeerIS52

พระอัจฉริยภาพด้านกีฬา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดกีฬามาตั้งแต่ยัง ทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงโปรดกีฬาเทนนิส หมากรุก จักรยาน สกี สเกตน้ำแข็ง และฮอกกี้น้ำแข็ง เป็นต้น

ต่อมาพระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาเรือใบ ทรงต่อเรือใบด้วยพระองค์เองที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และเมื่อ 19 เมษายน พ.ศ. 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเรือใบประเภท โอ.เค ขนาด 13 ฟุต ชื่อ เวคา จากหน้าพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีข้นธ์ ข้ามอ่าวไทยไปยังอ่าว........ จังหวัดชลบุรี ได้ทรงนำธง ราชนาวิกโยธิน ปักเหนือยอดก้อนหินใหญ่ที่ชายหาดของอ่าวเตยงาม แล้วได้ทรงลงพระปรมาภิไธยบนแผ่นศิลาจารึกข้อความถวายสดุดีแด่พระองค์ท่าน

BeerIS52 profile BeerIS52

พระอัจฉริยภาพด้านการศึกษา และเทคโนโลยี

“… ในประเทศไทยนี้ถ้าดูจากสถิติก็มีพลเมืองเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน จึงสันนิษฐานได้ว่าพลเมืองของประเทศไทยนี้อยู่ในวัยเรียนอยู่เป็นส่วนมาก ทุกๆ ปี การที่ส่วนรวมคือ ประชาชนทั้งประเทศเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาเป็นสิ่งที่ดีแล้ว จึงต้องช่วยกันจัดการให้เยาวชน ให้ประชาชนที่เกิดขึ้นมาใหม่นี้ได้มีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดี เราจะไปอาศัยรัฐบาลหรืออาศัยทางราชการที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความเจริญด้าน เดียวไม่ได้เพราะว่าในสมัยนี้ถือว่าเป็นสมัยประชาธิปไตยทุกคนมีส่วนในงานของ ประเทศชาติ...


BeerIS52 profile BeerIS52

 

คุณธรรม ๔ ประการ

ประการแรก คือ การที่ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตามุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน 

ประการที่สอง คือ การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงาน ประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผล ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และกับประเทศชาติ 

ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกาและในระเบียบแบบแผน โดยเท่าเทียมเสมอกัน 

ประการที่สี่ คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำความคิดความเห็นของตนให้ถูกต้องเที่ยงตรง และมั่นคงอยู่ในเหตุในผล หากความคิดจิตใจ และการประพฤติปฏิบัติที่ลงรอยเดียวกันในทางที่ดี ที่เจริญนี้ ยังมีพร้อมมูลในกายในใจของคนไทย ก็มั่นใจได้ว่า ประเทศชาติไทยจะดำรงมั่นคงอยู่ตลอดไปได้ 

พระราชดำรัสตอบแก่ พระบรมวงศานุวงศ์และพสกนิกรที่เข้าเฝ้าฯ เนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๐


BeerIS52 profile BeerIS52

ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม

"...การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว
ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทนเสียสละ
แต่สำคัญที่สุดคือความอดทน คือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม
สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง
คือมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึ ต้องมีความอดทน
เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอน

ในความอดทนของตน ในความเพียรของตน
ต้องถือว่าวันนี้เราทำยังไม่ได้ผล อย่าไปท้อ
บอกว่าวันนี้เราทำแล้วก็ไม่ได้ผล พรุ่งนี้เราจะต้องทำอีก วันนี้เราทำ
พรุ่งนี้เราทำ พรุ่งนี้เราก็ทำ อาทิตย์หน้าเราก็ทำ เดือนหน้าเราก็ทำ

ผลอาจปีหน้า หรืออีกสองปีหรือสามปีข้างหน้า..."

 

พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา
ครูและอาจารย์ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2516


BeerIS52 profile BeerIS52

ธรรมะจากในหลวง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชศรัทธาปสาทะอันแน่วแน่มั่นคง
ในบวรพุทธศาสนา โดยได้เสด็จออกทรงพระผนวช ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 ในระหว่างนั้นได้ทรง ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ดังที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 
ได้ทรงเล่าถึงพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงพระผนวชว่า

“...พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะได้ทรงพระผนวชตามราชประเพณีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหามิได้ แต่ทรงพระผนวชด้วยพระราชศรัทธาที่ตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง 
มิได้เป็นบุคคลจำพวกที่เรียกว่า หัวใหม่ ไม่เห็นศาสนาเป็นสำคัญ 
แต่ได้ทรงเห็นคุณค่าของพระศาสนา ฉะนั้น ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาสามัญก็กล่าวได้ว่า... 
บวชด้วยศรัทธาเพราะทรงผนวชด้วยพระราชศรัทธา ประกอบด้วยพระปัญญา 
และได้ทรงปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด...

และสมเด็จพระสังฆราช ยังได้ทรงกล่าวถึงพระราชจริยวัตร
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในทางพุทธศาสนา ว่า...

“...ในด้านหน้าที่ราชการนั้น ก็ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางพระพุทธศาสนา 
ตามราชประเพณีโดยมิได้ขาดตกบกพร่อง เช่น... 
พระราชกรณียกิจเนื่องในเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา 
พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ในการบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ 
และในหัวเมือง พระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์แด่พระสงฆ์ในการเอื้ออำนวย
แก่การปกครองคณะสงฆ์และเชิดชูผู้ทรงศีลทรงธรรมให้เป็นที่ปรากฏ 
ตลอดถึงพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ การสั่งสอนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ในด้านที่เป็นการส่วนพระองค์นั้น ก็ทรงปฏิบัติพระองค์ยึดมั่นอยู่ในคุณธรรม
ของพระพุทธศาสนา มีราชธรรม เป็นต้นดังกล่าวแล้ว ทรงศึกษาพระพุทธศาสนา 
และทรงนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ในโอกาสต่างๆ 
และบำรุงพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นจำนวนมากมิได้ขาด...


พระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใฝ่รู้ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างจริงจัง และได้นำมาประยุกต์ใช้กับโครงการต่างๆ ในพระราชดำริ รวมถึงได้ทรงคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ตัวอย่างผลงานการประดิษฐ์และพระอัจฉริยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมของพระองค์ อาทิ

-

การประดิษฐ์เครื่องสีข้าวปิ่นแก้ว

-

การประดิษฐ์เครื่องจักรผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดเล็ก

-

การออกแบบและต่อเรือใบ และได้พระราชทานคำแนะนำในการต่อเรือขนาดใหญ่แก่กองทัพเรือ

-

การประดิษฐ์กังหันน้ำชัยพัฒนา (ได้รับรางวัลที่ ๑ ประเภทผลงานคิดค้นหรือสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ จากสภาวิจัยแห่งชาติ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ และปัจจุบันได้รับการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว)

-

ทรงติดตั้งเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ของพระองค์เอง

-

การคิดค้นสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อประมวลผลข้อมูลต่างๆ

-

การเขียนโน้ตเพลงด้วยคอมพิวเตอร์

-

ทรงทำวิธีการบันทึกเสียงแบบใหม่ ที่สามารถบันทึกเสียงดนตรีได้เป็นช่อง เพื่อประโยชน์ในการวิจารณ์ และปรับปรุงวิธีการเล่นดนตรี

-

ทรงสนับสนุนให้มีการค้นคว้าบันไดเสียงของดนตรีไทยโดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์


BeerIS52 profile BeerIS52

ทรงเป็นพระบิดาแห่งการช่างไทย

"...ช่างทุกประเภท เป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมืองและของคนทุกคน เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัยการใช้บริการหรือสิ่งต่าง ๆ ที่มาจากฝีมือของช่างทุกวี่วัน ผู้เป็นช่าง จึงสมควรได้รับความเอาใจใส่สนับสนุนจากทุก ๆ ฝ่าย ยิ่งในสมัยปัจจุบัน วิทยาการทุกอย่างเจริญก้าวหน้า ยิ่งจำเป็นต้องส่งเสริมมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ช่างที่มีความสามารถสูงให้มีสิ่งใช้สอยที่มีคุณภาพดีและเพียงพอกับความต้องการ ในการส่งเสริมนั้น มีปัญหาอันควรจะได้พิจารณาช่วยเหลืออยู่สามประการ ประการแรก ได้แก่ เรื่องการให้ความรู้ทางหลักวิทยาการและความรู้ทางการออกแบบ ประการที่สอง ได้แก่ ปัญหาเรื่องฝีมือ ซึ่งต้องปรับปรุงให้มีความประณีตและประสิทธิภาพได้มาตรฐานจริง ๆ ประการที่สาม ได้แก่ ปัญหาเรื่องการจัดหางานและหาตลาด เพื่อช่วยหใช่งได้มีงานทำมีตลาดที่จะส่งสินค้าให้ช่างมีรายได้และผลกำไรสำหรับนำมาเป็นทุนรอน สร้างฐานะและความก้าวหน้า ข้าพเจ้าใคร่ขอฝากความคิดทั้งนี้ไว้เป็นแนวปฏิบัติของท่านทั้งหลายต่อไป..."

พระราชดำรัสพระราชทานในวันพิธีเปิดงาน
แนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือช่างแห่งชาติ ครั้งที่ ๑ ณ ลุมพินีสถาน
วันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๓


BeerIS52 profile BeerIS52

ถวายพระราชสมัญญา พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย"
วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2009 เวลา 16:25 น. | เขียนโดย Administrator 
ถวายพระราชสมัญญา พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทยแด่ในหลวง พร้อมกำหนดให้ 2 มี.ค.เป็น วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ” 
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการถวายพระราชสมัญญา พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกำหนดให้วันที่ 2 มีนาคม ของทุกปีเป็น วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ กระทรวงแรงงานรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในงานช่างตั้งแต่ยังทรงศึกษาอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ ได้ทรงประดิษฐ์ของเล่นด้วยพระองค์เอง เช่น เครื่องร่อน และเรือรบจำลอง หลังจากที่ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจต่าง ๆ มากมาย เพราะทรงตระหนักว่าประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามต้องมีความสำคัญก่อนเสมอ และจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาเรือใบเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับทรงพระปรีชาสามารถทางการช่าง จึงทำให้ทรงมีผลงานการออกแบบและต่อเรือใบที่ดีเลิศ โดยทรงชนะเลิศการแข่งขันกีฬาเรือใบในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 พุทธศักราช 2510 ณ ประเทศไทย ด้วยเรือที่ทรงต่อขึ้นด้วยพระองค์เอง จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระอัจฉริยภาพทางการช่างอย่างแท้จริง ประกอบกับเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2513 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพและแข่งขันฝีมือแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ณ ลุมพินีสถาน และมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับความเป็นช่างของคนไทย 
ดังนั้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงแรงงานจึงเห็นสมควรถวายพระราชสมัญญา พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกำหนดให้วันที่ 2 มีนาคม ของทุกปีเป็น วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ


BeerIS52 profile BeerIS52

 ความเป็นมาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้วยความที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของพสกนิกรชาวไทย ทำให้พวกเราชาวไทยได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ต่างๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะในพื้นที่ยากจน ห่างไกล และทุรกันดาร ซึ่งพระองค์จะทรงใช้เวลาประทับอยู่ตามเขตภูมิภาคมากกว่าในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพราะพระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะหาข้อมูลที่แท้จริงจากผู้ที่อยู่ในพื้นที่ เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในแต่ละภูมิภาค นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสังเกตการณ์ และสำรวจสภาพทางภูมิศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้สำหรับการพระราชทานแนวทางเพื่อการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริต่อไป 

     พระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานแก่ปวงราษฎรไทยทั้งหลายในระยะต้นแห่งการเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัตินั้น เป็นพระราชดำริด้านการแพทย์และงานสังคมสงเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว กิจการด้านการแพทย์ของไทยยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร อีกทั้งการบริการสาธารณสุขในชนบท ก็ยังมิได้แพร่หลาย ๐พระราชกรณียกิจในระยะช่วงแรก ช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๓ - ๒๕๐๕ จะเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ยังไม่ได้เป็นโครงการเต็มรูปแบบอย่างในปัจจุบัน

     พระราชดำริเริ่มแรกที่เป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมประมงนำพันธุ์ปลาหมอเทศจากปีนัง ซึ่งได้รับจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงขององค์การอาหาร และการเกษตร แห่งสหประชาชาติ เข้าไปเลี้ยงในสระน้ำของพระที่นั่งอัมพรสถาน และเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพันธุ์ปลาหมอเทศนี้แก่กำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ เพื่อจะได้นำไปเลี้ยงเผยแพร่ขยายพันธุ์แก่ราษฎรในหมู่บ้านของตน เพื่อจะได้มีอาหารโปรตีนเพิ่มขึ้น

     โครงการพระราชดำริที่นับได้ว่าเป็นโครงการพัฒนาชนบทโครงการแรก เกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรถบูลโดเซอร์ ให้หน่วยตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร ไปสร้างถนนเข้า ไปยังบ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ราษฎรสามารถสัญจรไปมา และนำผลผลิตออกมาจำหน่ายยังชุมชนภายนอกได้สะดวกขึ้น


BeerIS52 profile BeerIS52

โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน

โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเริ่มดำเนินงานเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาต่างๆ เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า หนังสือประเภทสารานุกรมนั้น บรรจุสรรพวิชาการอันเป็นสาระไว้ครบทุกแขนง เมื่อมีความต้องการหรือพอใจจะเรียนรู้เรื่องใด ก็สามารถค้นหาอ่านทราบโดยสะดวก นับว่าเป็นหนังสือที่มีประโยชน์เกื้อกูลการศึกษาเพิ่มพูนปัญญาด้วยตนเองของประชาชนอย่างสำคัญ โดยเฉพาะในยามที่มีปัญหาการขาดแคลนครูและที่เล่าเรียนเช่นขณะนี้ หนังสือสารานุกรมจะช่วยคลี่คลายให้บรรเทาเบาบางลงได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันโครงการฯ ได้จัดทำหนังสือสารานุกรมไทยที่บรรจุความรู้ใน 7 สาขาวิชา คือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ขณะนี้มีออกมาแล้ว 28 เล่ม โดยแต่ละเล่มได้จัดแบ่งเนื้อหาของแต่ละเรื่องออกเป็นสามระดับ เพื่อที่จะให้เยาวชนสามารถศึกษาค้นคว้าหาความรู้ได้ตามพื้นฐานของตน 


BeerIS52 profile BeerIS52

ในหลวงทรงงานตามหลักธรรมภิบาล เน้น คุณธรรม-จริยธรรม

ดร.สุเมธ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้นำในทุกๆด้าน จนเป็นที่ยอมรับของคนไทยทุกคนรวมถึงนานาประเทศ ทรงมีความสามารถหลากหลายจนได้รับการถวายปริญญา สดุดีมหาบัญฑิตทั้งในและต่างประเทศ ครั้งหนึ่งท่านเคยอารมณ์ขัน ทรงตรัสว่า เคยได้รับปริญญาสดุดีมหาบัญฑิต จาก มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสาขานิติศาสตร์ ก็ได้เป็นหมอความ ต่อมาก็ได้รับถวายปริญญาสดุดีมหาบัญฑิต ทางด้านการแพทย์ ก็ได้เป็นหมอยา ครั้งที่3ก็ได้รับถวายปริญญาสดุดีมหาบัญฑิตทางด้านดนตรี ท่านก็รับสั่งว่า เราเป็น หมอความ หมอยาและก็หมอลำ

ดร.สุเมธ กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ท่านดำเนินมาเป็นการสะสมประสบการณ์มาตลอดระยะเวลา ที่ทรงงาน และเราก็ได้รับผลจากการพัฒนาเหล่านั้นมากมาย แต่ที่น่าเสียใจ เราไม่เคยสนใจในสิ่งที่พระองค์ท่านสอน บางคนชอบเห็นในหลวง เวลาท่านเสด็จไปที่ไหน ก็จะพากันวิ่งมาหาน้ำตาไหล แต่ไม่เคยมองท่าน คือชอบเห็นแต่ไม่ชอบมอง อยากให้พวกเรากลับไปคิดในเรื่องนี้ เหมือนกับที่พระองค์เคยทรงรับสั่ง เราก็ชอบได้ยิน แต่ไม่ปฏิบัติตาม พอวันรุ่งขึ้นก็ลืม ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย


BeerIS52 profile BeerIS52

"ในหลวง" ทรงห่วงใยชาวอุบลฯถูกน้ำท่วม พระราชทานถุงยังชีพ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้ผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพกว่า 1,200 ชุด ช่วยเหลือชาวบ้านถูกน้ำลำเซบกล้นตลิ่งไหลท่วม ด้านทหารส่งกำลังพลช่วยขนย้ายสิ่งของ พร้อมนำแพทย์-พยาบาลตรวจ

รักษาอาการป่วยจากโรคที่มีกับน้ำท่วม 

          วันนี้ (9 ก.ย.) ที่หอประชุมอำเภอตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงห่วงใยราษฏรที่เดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัยลำน้ำเซบกล้นตลิ่งไหลท่วม จึงโปรดเกล้าให้นายพร อุดมพงษ์ กรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำสิ่งของพระราชทานมอบให้ชาวบ้านที่ประสบภัยจำนวน 1,250 ครอบครัว คิดเป็นมูลค่า 894,292 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทำให้ประชาชนที่ได้รับสิ่งของพระราชทานครั้งนี้ ต่างทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง 

ขณะเดียวกันน้ำในแม่น้ำมูล ยังล้นตลิ่งไหลท่วมชุมชนริมแม่น้ำในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลนครอุบลราชธานีสูงขึ้นอีก โดยระดับน้ำไหลท่วมถนนเชื่อมระหว่างชุมชนสูงกว่า 50 เซนติเมตร ประชาชนต้องใช้เรือเป็นพาหนะ รถเล็กไม่สามารถเดินทางเข้าออกชุมชนได้แล้ว 

ปัจจุบันเทศบาลเมืองวารินชำราบ มีชุมชนถูกน้ำท่วม 7 ชุมชน อพยพแล้ว 130 ครอบครัว ส่วนอีก 4 ชุมชนอยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง 

สำหรับเทศบาลนครอุบลราชธานี มีชุมชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวม 5 ชุมชน อพยพแล้ว 87 ครอบครัว ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี รายงานว่า ในพื้นที่ยังมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งสภาพอากาศเช่นนี้ ยังมีอิทธิพลต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 12 ก.ย.ศกนี้ 

ด้าน พ.อ.นิรุจน์ เกตุศิริ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบทที่ 22 นำกำลังพลกว่า 80 นาย พร้อมรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 8 คัน เข้าช่วยขนย้ายสิ่งของให้ชาวบ้านใน 7 ชุมชนของเทศบาลวารินชำราบที่ถูกน้ำท่วม พร้อมนำทีมแพทย์พยาบาลลงมาตรวจดูอาการป่วยของชาวบ้านที่อาศัยอยู่กับน้ำท่วมมานานร่วม 1 เดือน 

โดยเมื่อชาวบ้านทราบข่าวมีแพทย์พยาบาลทหารมาตรวจดูอาการ ได้พายุเรือมาขอทำแผลที่เกิดจากของมีคมบาด ขณะขนย้ายข้าวของหนีน้ำ รวมทั้งมาขอรับยาแก้โรคน้ำกัดเท้า ซึ่งชาวบ้านเริ่มป่วยเป็นโรคนี้กันมากขึ้น 

และในวันพรุ่งนายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย จะนำถุงยังชีพมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบจุดละ 1,000 ชุด รวมทั้งในจุดอื่นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำ          


BeerIS52 profile BeerIS52

"ไข่พระอาทิตย์ " สูตรอาหารพระราชทานจากในหลวง

" ไข่พระอาทิตย์ "....เป็นสูตรอาหารที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือสูตรอาหารต้นตำหรับข้าวหอมมะลิไทยในครัวนานาชาติโดยหนังสือเล่มนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิของไทยให้เป็นที่รู้จักของทุกประเทศ 

สำหรับที่มาและวิธีทำ ของสูตรอาหารพระราชทานไข่พระอาทิตย์ กรมการค้าต่างประเทศได้อัญเชิญลายพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาบันทึกไว้ ในหนังสือสูตรอาหารต้นตำหรับข้าวหอมมะลิไทยในครัวนานาชาติความว่า 

เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยทรงประกอบอาหารพระราชทานเรียกว่า " ไข่พระอาทิตย์ " 

.. วิธีทำ ... 

ไข่ฟองหนึ่ง ตีให้ไข่ขาวและไข่แดงเข้ากันเหมือนเวลาจะตีไข่ทำไข่เจียว (ไม่ตีมากเหมือนทำเค้ก) ใส่ข้าวสุกประมาณทัพพีหนึ่ง เครื่องปรุงรสใส่แม็กกี้ 

ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยไม่ใส่มากเหมือนทำไข่เจียว เทไข่ผสมข้าวลงไป จนสุกตรงขอบกรอบๆ ตรงกลางแฉะๆสักนิดก็ได้ ใส่จาน 

มีผู้ถามว่าทำไมเรียกว่าไข่พระอาทิตย์ ข้าพเจ้าทูลถาม ทรงเล่าว่า เมื่อส่องกล้องแล้ว พื้นผิวดวงอาทิตย์มีลายเหมือนเมล็ดข้าว ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า " Grain de riz " ... นี่ล่ะ คือที่มาของชื่ออาหารจานนี้


BeerIS52 profile BeerIS52

สมเด็จพระเทพฯ จะเสด็จฯ มจร.ทรงเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรงเยี่ยมพร้อมทั้งพระราชทานถุงยังชีพให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัย ที่โรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนาศูนย์สาธิตและพัฒนาพลังงานทดแทนแบบครบวงจร อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 

วันนี้ (11 ต.ค.) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ที่อพยพไปอาศัยอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ณ อ.วังน้อย เนื่องจากบริเวณศาลากลางจังหวัดมีผู้อพยพอยู่จำนวนมาก และเกรงว่าน้ำกำลังจะท่วมและไม่ปลอดภัย จึงทรงมีพระเมตตาให้ช่วยเหลือเรื่องที่พักพิงแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยจัดที่พักและอาหารให้ที่อาคาร 6 ชั้น ใน มจร. พร้อมจัดรถบริการรับ-ส่ง 

นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้สภากาชาดไทยจัดตั้งหน่วยครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกช่วยผู้ประสบอุทกภัย ณ โรงสีข้าวมูลนิธิชัยพัฒนา อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วย 

ส่วนเวลา 10.30 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จเยี่ยมครัวสายใยรักแห่งครอบครัว ที่มาตั้งให้บริการประชาชนอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด พร้อมพระราชทานน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่จังหวัดจำนวน 30,000 ลิตร

ขณะที่การประชุมของจังหวัดเพื่อประเมินจุดที่จะต้องอพยพผู้ที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม คาดว่าจะมีอยู่อีกประมาณ 1,500 คน ในพื้นที่เกาะเมือง และรอบเกาะเมือง โดยจะพยายามเข้าไปช่วยเหลือให้ครบทุกพื้นที่


BeerIS52 profile BeerIS52

พระปรีชาสามารถทางการทูต

ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนต่างประเทศอีกเพียงครั้งเดียว คือเมื่อพุทธศักราช 2538 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เนื่องจากมีพระราชดำริว่า มีพระราชประสงค์ที่จะประทับใกล้ชิดกับพสกนิกรของพระองค์ เพื่อช่วยเหลือพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้มากที่สุด 
แม้จะทรงให้ความสำคัญต่อพระราชภารกิจภายในประเทศอย่างยิ่ง หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มิเคยละเลยพระราชภารกิจ เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศต่างๆ ด้วยการทรงต้อนรับพระประมุข และ ประมุข ของประเทศต่างๆ ที่เสด็จพระราชดำเนิน และ เดินทางมาเยือนประเทศไทย ในฐานะพระราชอาคันตุกะ 

อีกทั้งยังโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้บรรดาทูตานุทูตของประเทศต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระราชสาสน์ และ สาส์นตราตั้งในการเข้ามารับตำแหน่งใน ประเทศไทย และกราบบังคมทูลลาเมื่อครบวาระ 

นี่คือพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถของล้นเกล้า ล้นกระหม่อม ที่ช่วยให้ประเทศไทย ยังคงกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ได้อย่างแน่นแฟ้น ไม่เว้นแม้ขณะกำลังทรงงานหนักเพื่อปากท้องของพสกนิกรของพระองค์ 

โปรดร่วมกันปกป้องพระเกียรติยศ และเผยแพร่พระราชกรณียะกิจเพื่อ ในหลวงของพวกเรา


ข้อมูลจาก http://www.free-webboard.com/view.php?nm=ppn4&qid=219&old=1


BeerIS52 profile BeerIS52

พระราชกรณียกิจด้านวิทยุกระจายเสียง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระทัยในเรื่องวิทยุเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเยาว์ ซึ่งพระองค์ประทับอยู่ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์ได้ทรงซื้ออุปกรณ์เครื่องรับวิทยุ ซึ่งมีวางขายเลหลังราคาถูกทรงประกอบเป็นเครื่องรับวิทยุชนิดแร่ สามารถรับฟังวิทยุกระจายเสียงในยุโรปได้หลายแห่ง ต่อมาเมื่อกิจการวิทยุเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ได้นำหลอดวิทยุมาใช้ในเครื่องรับ-ส่งวิทยุ และเครื่องขยายเสียง และพระองค์ท่านก็ได้ทรงทดลองอุปกรณ์แบบใหม่นี้ด้วยเช่นกัน 

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินกลับมา ประทับอยู่ในประเทศไทยเป็นการถาวร ในปี พ.ศ. 2495 พระองค์ได้ทรงตั้งสถานีวิทยุ อ.ส. ขึ้นที่พระราชวังสวนดุสิต และชื่อสถานีวิทยุดังกล่าวได้ทรงนำมาจากอักษรย่อของพระที่นั่งอัมพรสถาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ออกอากาศครั้งแรก ต่อมาจึงย้ายสถานีวิทยุ อ.ส. เข้าไปตั้งในบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 

สถานีวิทยุ อ.ส. เมื่อแรกตั้งเป็นสถานีเล็กๆ มีเครื่องส่ง 2 เครื่อง ขนาดที่มีกำลังส่ง 100 วัตต์ ออกอากาศด้วยคลื่นสั้นและคลื่นยาวในระบบ AM พร้อมๆ กัน เครื่องส่งรุ่นแรกนี้เป็นเครื่องที่ กรมประชาสัมพันธ์ทูลเกล้าฯ ถวายและติดตั้งให้ด้วยเมื่อออกอากาศไปได้ระยะหนึ่ง และในระบบคลื่นสั้นก็มีจดหมายรายงานผลการรับฟัง เข้ามาจากหลายประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เยอรมันฯ เป็นต้น ดังนั้นจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขยายกำลังส่ง โดยมีชื่อรหัสสถานีว่า HS 1 AS ในปี พ.ศ. 2525 สถานีวิทยุ อ.ส. ได้เพิ่มการส่งกระจายเสียงในระบบ FM ขึ้นอีกระบบหนึ่ง ในการขยายด้านกำลังส่งนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ล้วนแต่มีผู้โดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อให้สถานีวิทยุ อ.ส. สามารถบริการประชาชนได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น อาจถือได้ว่าเป็นสถานีวิทยุเอกชนเพียงแห่งเดียวที่สามารถกระจายเสียงคลื่นสั้นได้ ทั้งนี้เพราะถือว่าเป็นเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ 

พระองค์ทรงมีวัตถุประสงค์ที่ทรงตั้งสถานีวิทยุ อ.ส. เพื่อเปิดโอกาสให้พสกนิกรมีช่องทางในการติดต่อกับพระองค์ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนตามพิธีการเหมือนในสมัยก่อน ทรงใช้สถานีวิทยุเพื่อเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ติดต่อข่าวสารกับประชาชน และเป็นสื่อสัมพันธ์ระหว่างพระองค์และประชาราษฎร์ ที่ทรงแสดงให้ทราบถึงใจรักที่พระองค์ท่านพระราชทานให้กับประชาชนทั่วทุกคน 

นอกเหนือจากเป็นสถานีวิทยุของสื่อมวลชนเพื่อการบันเทิง และเผยแพร่ความรู้กับประชาชนแล้ว ยังได้ทำหน้าที่แจ้งข่าวสารแก่ประชาชนในโอกาสสำคัญ หรือเกิดเหตุการณ์ที่สำคัญต่างๆ ขึ้น เช่น การเกิดโรคโปลีโอระบาดในปี พ.ศ. 2495 อหิวาตกโรคในปี พ.ศ. 2501 และเมื่อเกิดวาตภัยที่แหลมตะลุมพุกในปี พ.ศ. 2505 โดยมีพระราชดำริให้ใช้สถานีวิทยุ อ.ส. เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์กรรม จนเป็นบ่อเกิดของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันมีคุณขวัญแก้ว วัชโรทัย ทำหน้าที่นายสถานี เล่าให้ฟังว่า นโยบายหลักเกี่ยวกับการบริหารงานของสถานี ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้ก็คือ การเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการหรือเอกชน ได้เข้ามาสนองพระมหากรุณาธิคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของสถานีจึงเป็นอาสาสมัครทั้งสิ้น และทรงรับภาระต่างๆ ด้านสถานีด้วยทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ พระองค์ทรงใช้นโยบายประหยัดและใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าที่สุด และในปัจจุบันนี้สถานีวิทยุ อ.ส. ยังคงกระจายเสียงเป็นประจำทุกวันเว้นวันจันทร์ โดยออกอากาศทั้งคลื่นสั้นและคลื่นยาว ในระบบ AM 1332 KHzและ FM 104 MHz ควบคู่กันไปด้วยกำลังส่ง 10 กิโลวัตต์ โดยออกอากาศวันอังคารถึงวันเสาร์ เวลา 10.30-12.00 และ 16.00-19.00 วันอาทิตย์ เวลา 9.00-12.00 หยุดทุกวันจันทร์


guest profile guest

อศิรวาทองค์พระบาทฯ ภูมิพล

พระพรชัยบันดาลดล คุ้มไท้

ขอพระเดชเดชะ เกรียงไกร

คุ้มผองปวงไทย อยู่ยั้งยืนยง

guest profile guest

พัน.สร.๔พร้อมใจจรด ประณตกราบ

ศิโรราบพระจอมราช ชาติสยาม

ขอพระองค์สุขเกษม ทุกโมงยาม

ทุกผู้นามถวายพระบาท ราชสดุดี

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

rtarta044357123 Icon เทิดพระเกียรติ 2 อ่าน 209 4 ปีที่ผ่านมา
4 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
thawanrat21636 Icon ถวายพระพรพระราชินี อ่าน 1,092 10 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
tank16 Icon เรารักพระเจ้าอยู่หัว 7 อ่าน 1,740 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
tank16 Icon ในหลวงของเรา 4 อ่าน 14,876 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
tank16 Icon โครงการ คนไทยไม่ทิ้งกัน 2 อ่าน 1,227 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
tank16 Icon ช่วยเหลือภัยแล้ง อ่าน 806 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
guest Icon โพสต์ข้อความเฉลิมพระเกียรติฯ 7 อ่าน 1,287 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
guest Icon โพสต์ข้อความเฉลิมพระเกียรติฯ 2 อ่าน 815 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ทำเนียบผู้บังคับบัญชา อ่าน 995 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา
guest Icon โพสต์ข้อความเฉลิมพระเกียรติฯ 2 อ่าน 977 11 ปีที่ผ่านมา
11 ปีที่ผ่านมา