ภาพแสดงการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินแบบหนึ่ง
การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน หรือที่เราเรียกว่า โฮโดรโปนิกส์ ( Hydroponics )
ในการปลูกพืชโดยปกติทั่วๆไปมักจะมีปัญหาเรื่องโรคและแมลงต่างๆ มากมาย ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งมาจากดินที่เราใช้ปลูก การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินช่วยให้เราหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องโรคต่างๆ ทำให้ได้ผลผลิตสูง มีคุณภาพ ผลผลิตมีความสม่ำเสมอ สามารถวางแผนการปลูกได้กำหนดปริมาณการผลิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย หรือความต้องการของตลาดได้ดีกว่าที่สำคัญในขณะนี้ก็คือ สามารถขายได้ราคาเทคโนโลยีการปลูกพืชไม่ใช้ดิน ตรงกับคำในภาษาอังกฤษคือ Hydroponics โดย W.F.Gericke มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เป็นคนตั้งขึ้นจากคำ ในภาษากรีก 2 คำคือ Hydro แปลว่า น้ำ (Water) และ Ponos แปลว่า ทำงานหรือแรงงาน (Labor) รวมกันเป็น การทำงานที่เกี่ยวกับน้ำ (Water Working) เขาเป็นคนแรกที่นำเทคนิคการปลูกพืชแบบนี้ไประยุกต์ใช้เพื่อ ปลูกพืชเป็นการค้นในราวต้นศตวรรษที่ 19 จากการทดลองของเขาพบว่าวิธีนี้สามารถปลูกพืชได้เกือบทุกชนิด นอกจากจะผลิตพืชได้มากแล้วยังสามารถใช้ปลูกพืชได้ในพื้นที่ที่ไม่มีดินเหมาะสมต่อการปลูกพืช เช่น ในสภาพที่มีแต่หินบนหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งทหารอเมริกันได้ใช้วิธีนี้ปลูกพืชผักเพื่อรับประทานสดได้ทุกวัน โดยเฉพาะที่โซฟุ (Chofu) ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์จึงแพร่หลายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
การปลูกพืชไม่ใช้ดินอาจแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ การปลูกพืชโดยให้ส่วนของรากแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง หรือปลูกบนวัสดุอื่นที่ไม่ใช่ดินและรดด้วยสารละลายธาตุอาหารหรือน้ำปุ๋ย วัสดุที่ใช้ปลูกพืชอาจจะเป็นสารอนินทรีย์ เช่น กรวด ทราย หิน ที่ได้จากธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทำขึ้นมา เช่น เพอร์ไลท์ (Perlite) เวอร์มิคิวไลท์ (Vermiculite) ร็อกวูล (Rockwool) หรือสารอินทรีย์ เช่น พีท (Peat) มอส (Moss) ขี้เลื่อย เปลือกไม้ เปลือกมะพร้าวสับ ขุยมะพร้าว แกลบสดและถ่านแกลบ เป็นต้น
ข้อดีและข้อเสียของการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน
การปลูกแบบไรดินนั้นส่วนมากในประเทศไทย มี 2แบบใหญ่ คือ แบบใช้ราง และแบบโต๊ะปลูกใช้โฟม และทั้ง 2 แบบต้องมีการจัดปัจจัยต่าง ๆ เช่น น้ำ แร่ธาตุ แสงอุณหภูมิให้แก่พืชอย่างเหมาะสม พืชจึงเจริญเติบโตเร็ว และให้ผลผลิตมากสม่ำเสมอ สะอาด มีคุณภาพดี ปลูกได้ต่อเนื่องตลอดปี สามารถปลูกพืชได้ในพื้นที่ไม่มีดิน หรือมีดินไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืช การใช้น้ำใช้ปุ๋ยเป็นไปอย่างมีประ-สิทธิภาพ ใช้แรงงานน้อย การควบคุมโรค แมลงศัตรูพืชทำให้ง่ายกว่า ข้อเสียมักจะเป็นเรื่องการลงทุนในระยะแรก มีการลงทุนสูง แต่ในระยะยาวนับว่าน่าลงทุนเพราะความต้องการในตลาดปัจจุบัน มีแนวโน้มการบริโภคที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้นทุกวัน เราจะสังเกตุเห็นได้ว่า ราคาผักทั่วไปในตลาดสดและราคาผักที่ปลูกแบบไม่ใช้ดินมีราคาที่แตกต่างกันมาก
ตัวอย่างโต๊ะปลูกพืชไม่ใช้ดิน จากสวนโดยคิดแบบ ลดต้นทุน50%
ความแตกต่างระหว่างโต๊ะปลูก กับ แบบราง
การปลูก | ราคา | การใช้น้ำ | ไฟฟ้า | การดูแล | หมายเหตุ |
แบบราง | 17,500 | ประหยัด | เท่ากัน | ง่าย | แบบรางระบบการปลูกต้องไม่ให้ไฟฟ้าดับ เพราะน้ำในท่อจะร้อนเร็วมาก |
แบบโต๊ะ | 13,000 | ใช้มากกว่าแบบราง 2เท่า | เท่ากัน | ง่าย | แบบโต๊ะไม่มีปัญหาในเรื่องไฟฟ้า เพราะภายในโต๊ะยังมีน้ำเหลืออยู่ รอได้1วัน |