กรอบแกรบ

อยากเห็นกรอบใหม่ที่ปรับลดอัตรากำลังลง30% ของทุกกลุ่ม ช่วยโชว์ ให้ดูหน่อยได้มั้ย จะได้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันให้มากๆ ขอบคุณค่ะ

1)หลักการของ คปร. ไม่เพิ่มคน และการกำหนดกรอบอัตรากำลัง "ซีเพิ่มคนลด"
 2)การบริหารองค์กรภาครัฐ "เล็กพริกขี้หนู" โดยให้นำ ICT มาช่วยในการบริหารจัดการภาครัฐ ก็เลือกเอาว่า จะทำงานแบบเดิม ๆ ให้เหนื่อยตายคาโต๊ะ หรือจะต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาตนเองและองค์กรให้ทันกับกระแสทางโลก ต่อไปนี้การแข่งขันด้วยสติปัญญาสูงมาก "ทรัพย์สินทางปัญญา จะค่ามากกว่าทองคำ"
3)ทำงานแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน "มองแบบองค์รวม"(กลุ่มอื่นในเขต หรือกับหน่วยงานอื่น เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลา เช่น ใช้ข้อมูลร่วมกัน บุคลากรร่วมกัน แชร์โปรแกรมกัน "เขามองกลไกที่มีประสิทธิภาพ และผลผลิตต้องเกิดคุณภาพสูงสุดและผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความพึงพอใจ
***ในโลกนี้ไม่อะไรได้มาฟรี ๆ ***คุณสร้างกรรมดี หรือชั่ว นั่นก็คือผลสนองตอบของการกระทำของคุณ ไม่มีใครหนีพ้นหรอก เลือกเอาเอง ว่า...ต่อไปนี้ เราจะอยู่กันอย่างไร ทั้งที่การทำงาน และที่ชีวิตครอบครัว

***ในโลกนี้ไม่อะไรได้มาฟรี ๆ ***คุณสร้างกรรมดี หรือชั่ว นั่นก็คือผลสนองตอบของการกระทำของคุณ ไม่มีใครหนีพ้นหรอก เลือกเอาเอง ว่า...ต่อไปนี้ เราจะอยู่กันอย่างไร ทั้งที่การทำงาน และที่ชีวิตครอบครัว *** ยอมรับว่าทุกอย่างต้องปรับตัว/ปรับการทำงานอย่างแน่นอน*** แต่ถ้าผู้บริหารองค์กรยังล้าหลัง/ทุกอย่างยังมีอำนาจล้นหลามเหนือการควบคุม/ยังแสดงอำนาจว่านี่ของ.กออู..พวก.กออู..เด็ก..กออู.../จะใหญ่*เก่งกว่า*..กออู..ได้งัย/แถมประสิทธิภาพของคณะกรรมการรูปแบบต่างๆ..ที่พิจารณาเรื่องนั้นเรื่องนี้ยังสงวนผลประโยชน์ให้พวก..กออู...นาย..กออู....และเผื่อโอกาสข้างหน้าของ..กออู..เข้าประชุมเรื่องอะไรก็ไม่กระจ่างในเรื่องนั้นๆพิจารณาอย่างตรายางเสียก็มาก......แล้วจะให้ทำงัยเพื่อให้ชาติเจริญ..วงการศึกษาน่าเลื่อมใส..ใต้พรมภายในองค์กรยังเน่าเฟะ อย่างเหนียวแน่น... ไม่อยากให้มองว่าผู้ปฏิบัตินั้น..ไม่มอง/ไม่ประเมิน..ตนเอง..ไม่ปรับตัว..ภายในองค์องค์มีอะไรมากกว่า..ที่นำเสนอผู้ตรวจ..เปเปอร์/ มากกว่า...ฯลฯ

คุณ คนศธ. ...ต่อไปนี้ เราจะอยู่กันอย่างไร ทั้งที่การทำงาน และที่ชีวิตครอบครัว *** ยอมรับว่าทุกอย่างต้องปรับตัว/ปรับการทำงานอย่างแน่นอน*** แต่ถ้าผู้บริหารองค์กรยังล้าหลัง/ทุกอย่างยังมีอำนาจล้นหลามเหนือการควบคุม/
*ต่อไปนี้เราจะอยู่กันอย่างไร? เจตนาประโยคนี้ จริง ๆแล้วอย่างให้เราทุกคนคิดถึงกฏสะท้อนของกระจก หรือกฏแห่งกรรม มากกว่า ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว วันนี้เราเห็นเขาสุขสบาย แต่พรุ่งนี้ หรือชาติหน้า หรือรุ่นลูกหลาน ๆๆๆ เขาอาจจะทำให้เขาเป็นทุกข์หนักหนาสาหัส หรือเจ็บปวดมากกว่าเราหลายร้อยเท่าทวีคูณ"คุณปลูกมะม่วงผลมันก็ออกมากเป็นมะม่วง มันกลายเป็นทุเรียนไปไม่ได้อยู่แล้ว"
*ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็อย่าเข้าไปตกอยู่ในวังวนแห่งกรรมชั่ว "อย่าเอากรรมเขามาเป็นกรรมเรา"
*ถ้าให้มองการทำงานของผู้ใหญ่/พวกเรา ส่วนมากในศธ.เรา ถ้าเขาไม่ปรับตัวเอง สังคมก็จะไม่ยอมรับเขา ดูอย่าเรื่องน้ำท่วม ข่าวการไปช่วยเหลือคนมีทุกข์จากน้ำท่วม คนใน ศธ.เรามีข่าวน้อยมาก ๆ น่าอายหน่วยงานอื่นมัยละ?

"คุณ ๆ ที่เป็นคณะทำงาน คิดได้อย่างไร  เห็นแก่ตัวจริง ๆ  โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน จำนวนคนจะไม่ยอมลดลงเลยนะ"

เห็นด้วยอย่างยิ่ง  มนุษย์(คน) มันเห็นแก่ตัว  สรุปได้อย่างไรว่า 70% , 30% โดยไม่ดูความเดือดร้อนของแต่ละพื้นที่  ทั้งๆที่คนก็ไม่พออยู่แล้ว

แล้วถ้ามีตำแหน่งผอ.กลุ่มว่าง แล้วไม่ยอมสรรหาจะรอจนกว่าตัวเองจะมีคุณสมบัติได้ขึ้นนะ เค้าเรียก เห็นแก่ตัวหรือเปล่าคะ

ตนใน ศธ (ผู้มีอำนาจ/ จนท.ชั้นผู้น้อย)มีอะไรให้ศึกษาพฤติกรรมมากมายที่บ่งบอกพื้นฐานจิตใจกิเลสอย่างหนาตราช้าง..คุณธรรมอ่อนแอ...

กลุ่มส่งเสริมฯ ทำไมได้กรอบมากจัง  งานก็น้อยอยู่แล้วเฮ้อ  กลุ่มที่คนลด งานมากอยู่แล้ว เช่นบุคคล นี่ จะทำยังไงนี่

เป็น "ร่าง" เท่านั้น แสดงความคิดเห็นได้ วิพากษ์ได้ ยังมีอะไร ๆ เปลี่ยนแปลงอีก ต้องยอมรับว่าไม่มีใครได้อะไรทุกอย่าง "เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง" มันจะได้มีความสุขในการทำงาน ก็รู้ว่าทุกคนเหนื่อย งานมาก คนน้อย ไม่สมดุลกัน เราก็ต้องหาวิธีการที่จะทำให้บรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนด เช่น ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น หรือตัดออกไป ใช้ IT เป็นตัวช่วย เวลาเขียนโครงการก็เขียนเฉพาะที่ผลักดันกลยุทธ์ หรือตัวชี้วัดเท่านั้น แค่ทำตามที่ สพฐ.กำหนด ก็จะตายแล้ว ฉะนั้นคิดให้มันสอดคล้องกับ ของ สพฐ. และอีตอนเขาให้วิเคราะห์งาน กิจกรรม ก็ไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติม ห่วงแต่งานประจำ กลัวไม่เสร็จ อะไรที่มันเป็นประโยชน์สำหรับพวกเราก็ต้องให้ความสำคัญ จัดลำดับก่อนหลังให้ได้ ถ้าไม่ได้ดังใจเราก็ต้องยอมว่าเราก็มีส่วนในความผิดครั้งนี้ด้วย อย่าไปกล่าวโทษคนอื่นเลย ใจเราจะได้มีความสุข

กลุ่มบริหารงานการเงินฯ ทำงานหนักมาตลอด คนที่อยู่กลุ่มนี้พยายามที่จะหาทางออกไป เพื่อทำงานกลุ่มอื่นที่สบายกว่ากลุ่มนี้และมีความก้าวหน้ากว่า ต้องขอเชิญบุคลากรที่บอกว่ากลุ่มงานนี้คนเยอะ (เพราะงานเขาเยอะ) มาลองอยู่ดูแล้วจะรู้ว่าทำไมเค้าไม่ลดคน  แต่จะบอกให้ว่าไม่มีใครอยากจะมาอยู่หรอกนะ

คุณความเห็นที่ 10 คุณก็หัวอกอันเดียวกัน อยู่กลุ่มการเงินงานเยอะ โดนด่า ทั้งโรงเรียนและเจ้าหน้าที่บนเขตเอง  คนในเขตไม่เห็นมีใครอยากมาอยู่กลุ่มการเงินเลย  เขาเมินหน้ากันหมด  ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่มีความคิดว่าถ้าไปอยู่กลุ่มอื่นได้ก็จะไป สบายดี  แล้วอย่างนี้ยังมาพูดว่าการเงินเห็นแก่ตัวอีกหรือคะ  ลองมาทำงานดูซักเดือนหนึ่งเอามั๊ย

     ทุกกลุ่มต่างก็มีภาระหน้าที่ตามบทบาท มาตรฐานการกำหนดตำแหน่ง  การวิเคราะห์ภาระงาน 
     เพราะเราอยู่บน สำนักงานเขตพื้นที่  เป็นผู้ประสานให้การดำเนินงานการจัดการศึกษาเป็นไปตามนโยบายของกระทรวง  มีหน้าที่ต้องให้บริการ ให้คำแนะนำกับโรงเรียน เพื่อนร่วมงานและให้การบริการกับประชาชน   เพื่อให้การจัดการศึกษาของชาติประสบผลสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี  รวมถึงการเข้าสู่สังคมอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้ 
      ส่วนตัวคนพูดนี้  เคยปฏิบัติงานกลุ่มงานเงินมาหลายปี และได้ปฏิบัติงานในกลุ่มอื่น ๆ  มาประมาณ 3-4 กลุ่ม  จึงเข้าใจความรู้สึก ของคนอยู่กลุ่มงานเงินและกลุ่มอื่น ๆ ดี  ดังนั้นขอให้นึกถึงการ " เอาใจเขามาใส่ใจเรา"  เพื่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศชาติในอนาคตที่ยั่งยืนต่อไป

 การกำหนดกรอบอัตรากำลัง ถ้าทำตามหลักการของ ก.พ.และ ว17และที่แก้ไขเพิ่มเติมจริง ๆ คือมีการวิเคราะห์งาน ประเมินค่างาน เชื่อได้เลยว่า อัตรากำลังของ สพท.เพิ่มขึ้นแน่นอน ไม่มีลดลง เพราะ ภารกิจของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และประกอบกับการจัดกรอบครั้งแรกตอนยุบรวมมาเป็น สพท. เขาใช้ข้อมูล อัตรากำลังของ สปช.,สป.และสามัญ มารวมกัน แล้วได้ประมาณ 12,000 กว่าคน แต่มีตัวตนจริง ประมาณ 9,000 กว่า คน ที่ไม่มีเงินประมาณ 4,000 กว่าอัตรา เพราะฉะนั้น ถ้า สพท.มีคนตามกรอบจริง เราก็น่าจะทำงานให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายได้ แต่ทุกวันนี้ สพท.เราทำงานกับภารงานมันไม่สมดุลกัน จึงไม่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลก็ไม่เกิด ยิ่ง โรงเรียนยิ่งน่าสงสาร กฏหมายกำหนดให้เป็นนิติบุคคล "เป็นองค์กรที่ต้องมีการบริหารจัดการองค์กรเอง ตาม พรบ.ศธ.46และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีฯ2546" แล้วก็ยังไม่ให้เครื่องไม้เครื่องมือ ไปดำเนินการได้ ตามท่ กฏหมายกำหนด เช่น จนท.ธุรการ/การเงิน/พัสดุ/นักวิเคราะห์นโยบายและแผน/นักวิชาการคอมฯ  นักวิชาการศึกษาฯให้แต่ครูทำหน้าท่แทน จนท.เหล่านั้น และจะเอาคุณภาพทั้งการบริหารจัดการองค์กร และคุณภาพการศึกษา ฯ เขาคงลืมไปมั้งว่าพวกเราไม่ใช่พระพรหมจะเสกอะไรก็ได้ตามใจนึก สุดท้ายกรรมไปตกอยู่ที่เด็ก และย้อนกลับมาทำร้ายพวกเราทุกคนทางอ้อม
*ถ้าการจะคิดจะทำอะไรยัง วนเวียนอยู่แต่เรื่องผลประโยชน์ ไม่ว่าการจัดทำแผนงาน ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ โครงการ ตัวชี้วัด ยึดตัวก.และพวก ก.ความหายนะของประเทศ และโลกก็ยิ่งใกล้เข้ามาเร็วขึ้น*ยิ่งคุณธรรม จริยธรรมของคน ความล้มสลายของสถาบันครอบครัว,วัด/โรงเรียน/การเมืองที่ขาดหลักธรรมาภิบาล ก็วิเคราะห์ได้ล่วงหน้าไว้ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น? น่าเศร้าใจจริง ๆ มองหาทางรอดไม่มีเลยจริง ๆ  "กรรมร่วม"

การมียศถาบันดาศักดิ์ มันก็ขึ้นอยู่กับโชควาสนาของผู้ใดผู้นั้น เช่นคนไหนจะใหญ่จะโตก็จะห้ามหรือหยุด ฉุดกระชากก็ไม่เป็นผล ดวงหรือวาสนาของใครก็ของคนนั้น เชื่อเถอะ เพราะคนเขียนถ้าไม่มาอยู่กระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้รับสายสะพายแล้ว 
(นี่ก็เหมือน....คนมันจะเหนื่อยจะจนก็คืออยู่กระทรวงเรานี้แหละ ทนทุกวันนี้เพื่อเด็กตาดำๆ ลูกหลานของเราที่น่าสงสารอย่างมากๆ........กับสังคมปัจจุบัน.

         ไม่เข้าใจจริง ๆ ของความคิดเห็นที่ ๘ ภารงานของแต่ละกลุ่มลักษณะงานไม่เหมือนกัน กลุ่มส่งเสริมปฏิบัติงานเชิงวิชาการ ต้องพัฒนาทั้งงานวิชาการ พัฒนาเด็กนักเรียน และพัฒนาครู ต้องสร้างเครือข่าววิชาการ จัดค่ายพัฒนาผู้เรียน ป้องกันยาเสพติด ประสานงานจัดหาทุน สอบนักเรียนโอลิมปิก นานาชาติ หุ่นยนต์ สอบนักเรียนวิชาการนานาชาติ งานศิลปหัตถกรรม กีฬา สพฐ.เกมส์ ประชาธิปไตย ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ค่ายธรรมะของหลายหน่วยงาน การทำงานต้องลงพื้นที่คล้าย ๆ กับ ศึกษานิเทศก์ แต่ไม่มีวิทยฐานะเท่านั้นเอง 

ที่ไม่เหมือนมันอยู่ที่ ระเบียบ กฏหมาย มันล็อคไว้ "กั้น" "แบ่งขั้ว" ว่า นี่...พวกเรา...นี่พวกมัน พวก ก....ได้อย่างนี่...พวกมันได้แค่นี้...ไอ้หลักเกณฑ์..ก็คิดเพื่อ ก..
**ทุกวันนี้...อะไร? ๆ มันแบ่งพวก... แบ่งชั้น..ให้เห็นชัดเจนแล้ว..แม้นแต่ คนไหนมีคุณธรรม ไร้คุณธรรม..มันแยกให้เห็นชัดเจนมาก ..อยู่ที่ว่าจะพูดหรือไม? เท่านั้นเอง.."เตรียมตัวตาย..ใกล้วันสุดโลกเข้ามาทุกทีแล้ว ..อย่าคิดอะไร? ปล่อยวาง แล้วเราจะมีความสุขจริง ๆ