"คนเป็นความดันต่ำ ดื่มเบียร์ ช่วยได้จริงหรือ"

mari123 profile image mari123

 

หนึ่งในความเชื่อเรื่องการรักษาอาการของความดันโลหิตต่ำที่ได้ยินบ่อยที่สุด คงจะหนีไม่พ้นการ ดื่มเบียร์ บ่อยครั้งที่ผู้ที่มีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เนื่องจากมีความดันโลหิตต่ำนั้น มักจะได้รับคำแนะนำว่า ให้ดื่มเบียร์เย็นๆ สักแก้ว แล้วอาการของ ความดันต่ำ จะดีขึ้น แต่การดื่มเบียร์นั้น สามารถช่วยรักษาอาการของภาวะความดันโลหิตต่ำได้จริงๆ น่ะเหรอ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะส่งผลอย่างไรกับความดันโลหิตของเราหรือไม่ มาหาคำตอบได้ในบทความนี้

 

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลอย่างไรกับความดันโลหิต

เราต่างก็รู้กันอยู่แล้วว่า ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้น จะได้รับคำแนะนำไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น สามารถเพิ่มระดับความดันโลหิตได้ โดยการกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดเลือดเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีแรงดันในระบบไหลเวียนโลหิตเพิ่มมากขึ้น เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ก็สามารถทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นในระยะยาวได้ และหากผู้ที่มีความดันโลหิตเพิ่มขึ้นระยะยาวนั้นกลับมาเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะสามารถลดระดับของความดันโลหิตลงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิต หรือมีระดับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง หรือสูงมากกว่า 140/90 มม.ปรอท ขึ้นไป ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหากเป็นผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอยู่แล้ว ก็ควรค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ลงมา เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มขึ้นสูงอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายวัน

สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตในเกณฑ์ปานกลางหรือปกติ ควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่ไม่เกินดังต่อไปนี้

- ผู้ชายอายุต่ำกว่า 65 ปี ไม่ควรดื่มเกิน 2 ดริงก์
- ผู้ชายอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ไม่ควรดื่มเกิน 1 ดริงก์
- ผู้หญิง ทุกช่วงวัย ไม่ควรดื่มเกิน 1 ดริงก์
(ปริมาณ 1 ดริงก์ (drink) เท่ากับ เบียร์ 12 ออนซ์ ไวน์ 5 ออนซ์ หรือสุรา 40 ดีกรี 1.5 ออนซ์)

 

คนที่มีความดันต่ำ ดื่มเบียร์แล้วจะช่วยได้จริงเหรอ

การดื่มเบียร์ สามารถช่วยแก้อาการของความดันต่ำดันได้จริง เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น สามารถเพิ่มระดับของความดันโลหิต และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ ในทางกลับกัน ผู้ที่มีระดับความดันโลหิตต่ำนั้น จึงสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยเพิ่มระดับของความดันโลหิตได้เช่นกัน แต่ใช่ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด จะเหมาะสำหรับการดื่มเพื่อช่วยรักษาอาการของความดันโลหิตต่ำได้ทั้งหมด เพราะการดื่มสุรานั้นอาจกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคที่อันตรายต่อร่างกายได้

มีงานวิจัยที่พบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง ไวน์ และเบียร์ สามารถช่วยเพิ่มระดับของความดันโลหิตได้ โดยไม่ส่งผลร้ายต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด จึงนับได้ว่าเป็นหนทางในการช่วยบรรเทาอาการของความดันโลหิตต่ำที่ปลอดภัย และไม่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ต่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ ตราบใดที่ยังรักษาระดับการดื่มให้อยู่ในslotxoปริมาณที่เหมาะสม ไม่ดื่มมากเกินไป


การจัดการกับความดันต่ำโดยไม่พึ่งแอลกอฮอล์

- กินเกลือให้มากขึ้น
โซเดียม (Sodium) นั้นสามารถเพิ่มระดับของความดันโลหิตได้ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงมักจะแนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหลีกเลี่ยงการรับประทานเกลือ แต่สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ การกินเกลือให้มากขึ้นนั้นกลับเป็นเรื่องดี แต่อย่างไรก็ตาม ระวังอย่ากินเกลือมากเกินไป เพราะอาจนำไปสู่โรคหัวใจล้มเหลว หรือโรคไตได้ โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ


- ดื่มน้ำให้มาก
น้ำสามารถเพิ่มปริมาณของเลือด และช่วยป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตต่ำได้


- ออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย จะทำให้หัวใจได้สูบฉีดเลือดเพิ่มมากขึ้น และทำให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มระดับของความดันโลหิตได้ อีกทั้งยังเพิ่มการทำงานและเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจได้อีกด้วย


- อย่าลุกพรวดพราด
ระมัดระวังเวลาลุกขึ้นเปลี่ยนท่า จากท่านั่งหรือท่านอน เพราะจะทำให้เลือดสูบฉีดไม่ทัน และทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้ ก่อนจะลุกขึ้นอาจจะลองยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อน แล้วจึงค่อย ๆ ลุก เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณการสูบฉีดเลือด ไม่ทำให้หน้ามืดและวิงเวียนเนื่องจากความดันต่ำ


- รับประทานยา

มียาอยู่มากมายที่สามารถช่วยจัดการกับปัญหาความดันโลหิตต่ำได้ โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อหายาที่เหมาะสมกับอาการของคุณ

ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา
lily9889 Icon Coronavirus: NI students in England can travel home for Christmas อ่าน 291 3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา
lily9889 Icon Covid in Scotland: Teacher worries as absences rise อ่าน 307 3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา