สหรัฐฯล้าหลังในการปกป้องคนงานจากการกลั่นแกล้งในที่ทำงาน

สหรัฐฯล้าหลังในการปกป้องคนงานจากการกลั่นแกล้งในที่ทำงาน

ในแต่ละปีสหรัฐอเมริกาตกอยู่เบื้องหลังเพื่อนร่วมงานในประชาคมระหว่างประเทศมากขึ้นเนื่องจากปัญหาสำคัญของการกลั่นแกล้งในที่ทำงาน

ประเทศอุตสาหกรรมหลายประเทศใช้ข้อห้ามการกลั่นแกล้งในที่ทำงานเมื่อหลายปีก่อนรวมถึงแคนาดาออสเตรเลียเดนมาร์กฝรั่งเศสและสวีเดน

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เมื่อเดือนที่แล้วให้สัตยาบันสนธิสัญญาระหว่างประเทศฉบับแรกเพื่อจัดการกับความรุนแรงและการล่วงละเมิดในสถานที่ทำงานซึ่งเรียกว่าอนุสัญญาความรุนแรงและการล่วงละเมิด พ.ศ. 2562 (C190) สนธิสัญญานี้ซึ่งนำมาใช้เมื่อปีที่แล้วได้รับการให้สัตยาบันผ่านการยอมรับโดยสมาชิก ILO สองรัฐคืออุรุกวัยและฟิจิ สหรัฐฯเป็นสมาชิก ISO ที่ลงคะแนนให้กับสนธิสัญญานี้ แต่ไม่ได้นำมาใช้ รวมเกมส์มือถือเล่นแล้วได้เงิน

C190 มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เนื่องจากเป็นการยืนยันสิทธิของคนงานทุกคนที่จะปราศจากความรุนแรงและการล่วงละเมิดในที่ทำงานรวมถึงการล่วงละเมิดทางจิตใจ ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าคนงานมีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพและให้เกียรติ การคุกคามอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

C190 กำหนดความรุนแรงและการล่วงละเมิดในที่ทำงานว่าเป็น“ พฤติกรรมและการปฏิบัติที่ยอมรับไม่ได้หลายประการหรือการคุกคามดังกล่าวไม่ว่าจะเกิดขึ้นครั้งเดียวหรือเกิดซ้ำซึ่งมีเป้าหมายส่งผลหรือมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดอันตรายทางร่างกายจิตใจทางเพศหรือทางเศรษฐกิจและ รวมถึงความรุนแรงและการคุกคามทางเพศ”

ในส่วนของการกลั่นแกล้งในที่ทำงานสิ่งสำคัญคือการล่วงละเมิดทางจิตใจซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อจิตใจและร่างกาย

กฎหมายของสหรัฐอเมริกา
สหรัฐฯประกาศใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางในทศวรรษ 1960 เพื่อปกป้องสมาชิกของกลุ่มเฉพาะจากการล่วงละเมิดตามสถานะที่ได้รับการคุ้มครอง (เช่นเชื้อชาติเพศศาสนาความทุพพลภาพอายุ) แต่กฎหมายเหล่านี้ไม่ครอบคลุมถึงคนงานที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ได้รับการคุ้มครองหรือโดยทั่วไป การล่วงละเมิด

C190 ใช้กับคนงานทุกคนและนายจ้างทุกคน

ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมายของสหรัฐอเมริกาต้องบังคับใช้กับเหยื่อและไม่สามารถเข้าถึงนายจ้างรายย่อยจำนวนมากได้ ตัวอย่างเช่นหัวข้อ VII ของกฎหมายสิทธิพลเมืองปี 1964 ใช้กับนายจ้างที่มีพนักงานขั้นต่ำ 15 คนเท่านั้น

เมื่อประเทศใดยอมรับ C190 รัฐบาลจะต้องดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันความรุนแรงและการล่วงละเมิดโดยการสร้างกลไกการบังคับใช้

เป็นเวลาสองทศวรรษที่มีความพยายามในสหรัฐอเมริกาในการนำกฎหมายมาใช้เพื่อให้การเยียวยาทางกฎหมายแก่เหยื่อที่ถูกกลั่นแกล้งในที่ทำงาน อย่างไรก็ตามผู้สนับสนุนได้ผลักดันการแก้ปัญหาแบบรัฐต่อรัฐที่ไม่เอื้ออำนวยต่อปัญหาและได้เสนอกฎหมายแบบจำลองที่หลายคนคิดว่าอ่อนแอเกินไป

ปัญหายังคงมีอยู่

ไม่ดีเหรอ?
ล่าสุดปัญหาการกลั่นแกล้งในที่ทำงานเกิดขึ้นที่งาน The Ellen DeGeneres Show ซึ่งมีพนักงานหลายคนตัดสินว่าสถานที่ทำงาน "เป็นพิษ"

จากข้อมูลของ BuzzFeed พนักงานของ Ellen ในอดีตและปัจจุบันหนึ่งคนสิบคนบ่นว่าพวกเขาถูกปฏิบัติอย่างสุภาพและไร้ความรู้สึก เหนือสิ่งอื่นใดพวกเขากล่าวว่าพวกเขาถูกลงโทษสำหรับการลาพักรักษาพยาบาลหรือวันปลิดชีพเพื่อไปร่วมงานศพของครอบครัวและผู้จัดการบอกว่าอย่าพูดกับ DeGeneres หากพวกเขาเห็นเธอที่สำนักงาน ต่อมาคนงานหลายสิบคนร้องเรียนผู้ผลิตว่ามีส่วนร่วมในการล่วงละเมิดทางเพศและการประพฤติมิชอบ

C190 ตระหนักถึง“ ความสำคัญของวัฒนธรรมการทำงานบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกันและศักดิ์ศรีของมนุษย์ในการป้องกันความรุนแรงและการล่วงละเมิด” และยอมรับว่า“ ความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกแห่งการทำงานส่งผลกระทบต่อจิตใจสุขภาพร่างกายและเพศของบุคคลศักดิ์ศรีและ สภาพแวดล้อมครอบครัวและสังคม ... ”

หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวผู้อำนวยการสร้างสามคนออกจากรายการ Ellen และ Ellen สัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลง

ความสนใจส่วนใหญ่เกี่ยวกับ C190 มุ่งเน้นไปที่ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศซึ่งส่งผลกระทบต่อแรงงานหญิงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก ธนาคารโลกในปี 2018 กล่าวว่า 59 จาก 189 ประเทศที่ศึกษาไม่มีบทบัญญัติทางกฎหมายเฉพาะที่ครอบคลุมการล่วงละเมิดทางเพศในการจ้างงาน

สวีเดนเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายโดยเฉพาะการกลั่นแกล้งในที่ทำงานในปี 1993