เอาไว้ก้อไร้ประโยชน์

สวัสดีค่ะ..ผอ.ที่เคารพ
    ก่อนอื่นต้องขออภัยค่ะ ที่นำเรื่องไม่ค่อยสบายใจให้ท่านได้รับทราบ แต่เรื่องมันก้อค้างคามานานแล้วเหมือนกันนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเรื่องนี้เคยระแคะระคายถึงคุณหมอบ้างไหม คือ เรื่องของลูกเจ้าหน้าที่บางท่านที่ทำตัวเป็นนักเลงใหญ่ในโรงพยาบาลน่ะค่ะ บางครั้งพาเพื่อนวัยรุ่นเข้ามาดื่มสุรากันหน้าบ้านพัก บางครั้งก้อพากันมาซ่อมรถ(ซึงก้อไม่รู้เหมือนกันว่ามันเสียได้ยังงัยวันเว้นวัน) กลางคืน ตี1ตี2 เสียงดัง จนเมื่อ 2-3 วันก่อนเวลาประมาณ 5 ทุ่มได้ยินเสียงคนด่า ทะเลาะกันบริเวณบ้านพักพอจับใจความได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว แต่ก้อไม่มีอะไรมากมาด่าๆๆ แล้วก้อไป พอให้ชาวบ้านแถวนั้นตื่น ลูกเด็กเล็กแดงนอนกันไม่เป็นสุขต้องมาสะดุ้งตื่นตอนกลางดึก ไม่ไหวค่ะ
    แต่เมื่อคืนตั้งแต่ 4 ทุ่ม พาเพื่อนวัยรุ่น 3-4 คนเข้ามาซ่อมรถ (อีกแล้ว) สักพักก้อมีหญิง 2 คนขับรถจักรยานยนต์เข้ามา 4 ทุ่มครึ่งก้อเริ่มมีปากเสียงกันอีกครั้งแล้วเสียงมันเริ่มดังขึ้นๆ จนทนไม่ไหว ได้โทรศัพท์แจ้ง ER ให้รปภ.ตรวจสอบดูหน่อย แต่ก้อหา รปภ.ไม่เจอ สักพักได้ยินเสียงตีบอกเวลา 23.00น.ก้อโล่งใจว่ารปภ.อยู่นี่เอง แต่ปรากฎว่า รปภ.ได้แต่ยืนดูมือไพล่หลังแล้วก้อเดินไป จนไม่เกิน 5 นาทีเจ้าหน้าที่ ER และคนงานก้อเดินมาดูเหตุการณ์และได้ช่วยกันระงับเหตุ โดยขู่ว่าจะโทรแจ้งตำรวจจนฝ่ายหญิงสาวทั้ง 2 ยอมเลิกราและขับรถกำลังจะกลับออกไป แต่คุณลูกชายเจ้าหน้าที่นักเลงใหญ่กลับกระชากตัวหญิงสาว(แฟน)ลงมาจกรถและชกไปหลายครั้ง ฝ่ายหญิงก้อไม่ยอมกันสวนไปเหมือนกันจนเพื่อนทั้ง 2 ฝ่ายได้แยกออก เพื่อนๆจึงแยกย้ายกันกลับ แต่เรื่องไม่จบก่อนไปได้ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ได้ยินประมาณว่า "ดูอะไรกันนักหนา เดี๋ยวกูก้อยิงซะเลย" อืม.เค้าใหญ่จริงๆ     ถึงขั้นนี้แล้วก้อไม่น่าจะเก็บเอาไว้ให้เป็นอันตรายกับเจ้าหน้าที่นะคะ ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีวันไหนเกิดบ้าขึ้นมาเอาปืนมายิงเล่น จะแย่เอานะคะ พฤติกรรมอย่างนี้ดิฉันว่าคุณหมอพิจารณาเองดีกว่าค่ะ ว่าควรจัดการอย่างไรดี อันนี้แค่เรื่องคร่าวๆนะคะ เรื่องเค้าน่ะเยอะ นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องสุนัขปากเปราะ 2 ตัวที่ปล่อยไว้ให้พากันมาเห่าคนไข้หน้า ER กลางค่ำกลางคืนนะคะ วันนี้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวคุณหมอจะปวดศีรษะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ