โต๊ะจีน vs. ซิทดาวน์ดินเนอร์ จัดเลี้ยงงานแต่งแบบไหนแขกปลื้มไม่โดนเม้า

โต๊ะจีน vs. ซิทดาวน์ดินเนอร์ จัดเลี้ยงงานแต่งแบบไหนแขกปลื้มไม่โดนเม้า

1. โต๊ะจีน (Chinese Dinner) – เมนูวางกลาง แบ่งกันทานก็อิ่มได้
เป็นการจัดเลี้ยงอีกประเภทหนึ่งที่นิยมกันมาก แถมยังถูกใจผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนอีกด้วย การนั่งโต๊ะจีนจะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้สังสรรค์และแบ่งปันอาหารกันทานแบบคนในครอบครัว ส่วนมากจะจัดให้นั่งโต๊ะละ 8-10 คน มีพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ โดยจะเริ่มเสิร์ฟจากอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานร้อน อาหารจานหลัก และปิดท้ายด้วยของหวานซึ่งเมนูอาหารต่อ 1 เซ็ตส่วนใหญ่อยู่ที่ 6-8 เมนู

ข้อดีของโต๊ะจีนก็คือ แขกภายในงานไม่ต้องทนยืนจนเมื่อยเหมือนกับการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลจึงเหมาะสำหรับงานที่เชิญแขกผู้ใหญ่มาก และแขกจะทานอาหารกันได้อิ่มท้อง

ข้อเสียของโต๊ะจีนก็มีเช่นกัน เพราะกว่าอาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟจะต้องรอให้มีแขกมาร่วมงาน 60-70 % เปอร์เซ็นต์ซะก่อน ทำให้แขกบางคนต้องหิ้วท้องรอ อีกทั้งหากจำนวนโต๊ะเยอะก็จะทำให้การเสิร์ฟล่าช้า ทำให้ทานกันไม่ต่อเนื่อง แต่ในบางกรณีที่แขกมาช้าจะต้องเสิร์ฟตามเวลาที่ตั้งไว้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลาในการใช้สถานที่

เรื่องค่าใช้จ่ายจะคิดเป็นราคาต่อโต๊ะขึ้นอยู่กับแพ็คเกจและรายการอาหารที่เจ้าภาพต้องการ และแน่นอนว่าไม่นับรวมราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2. ซิทดาวน์ดินเนอร์ (Sit Down Dinner) – นั่งโต๊ะเดิ้นๆ แบบชาวตะวันตก

ซิทดาวน์ดินเนอร์ ฟังดูโก๋หรูแบบชาวตะวันตก ถ้าลองนึกภาพตามในหนังฝรั่งก็จะเป็นโต๊ะยาวๆ นั่งทานกันแบบจีบปากจีบคอดูดีมีระดับ หรืออาจจะปรับเป็นโต๊ะกลมโต๊ะเหลี่ยมได้ตามความสะดวก และแน่นอนค่ะว่าการจัดเลี้ยงแบบนี้ค่อนข้างเป็นทางการและเหมาะกับงานที่จำนวนแขกไม่เยอะมากหรือเน้นแค่คนสนิทใกล้ชิดกัน

ใครที่คิดจะจัดเลี้ยงแบบนี้ขอบอกว่าต้องเช็คจำนวนแขกให้เป๊ะๆ ด้วยการคอยติดตามขอคำตอบ “คอนเฟิร์ม” เข้าร่วมงานจากแขกที่เราเชิญ เพราะต้องทำป้ายชื่อระบุที่นั่งของแขกแต่ละคนแบบเฉพาะเจาะจง ต่างจากการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนที่นั่งล้อมวงกันสบายๆ และเนื่องจากจำนวนแขกน้อย มีแต่คนสนิท การเช็ครายละเอียดต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์ Line หรือ Facebook ก็จะง่ายขึ้น เพราะเราสามารถส่งเมนูอาหารเพื่อให้แขกแจ้งกลับมาว่าจะเลือกทานอาหารประเภทใด เช่น หมู เนื้อ ปลา ฯลฯ รวมถึงถ้าแขกคนไหนมีข้อจำกัดด้านอาหาร เช่น เป็นคนทานมังสวิรัตก็สามารถแจ้งโดยตรงกลับมาที่เจ้าภาพได้ทันที

จุดเด่นของซิทดาวน์ดินเนอร์ก็คือ การทานอาหารแบบไฮโซค่ะ จานใครจานมันไม่ได้ทานรวมกันเหมือนโต๊ะจีน และจะเสิร์ฟอาหารแบบเป็นคอร์ส ซึ่งส่วนมากจะอยู่ที่ 3 คอร์สต่อแขกหนึ่งคน เริ่มเสิร์ฟจาก Appetizer, Main course และ Dessert บางงานอาจเสิร์ฟมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจของแต่ละโรงแรมที่คุณเลือก แต่รับรองว่าอิ่มแน่นอน

แต่ความยุ่งยากก็อยู่ที่ การเลือกเมนูอาหารซึ่งจะต้องเดาใจแขกที่มาร่วมงานพอสมควร เจ้าภาพส่วนใหญ่จึงเลือกอาหารกลางๆ แบบที่ทุกคนทานได้ เช่น ไก่ และปลา รวมถึงมักจะหมดงบประมาณไปกับการตกแต่งโต๊ะให้ดูสวยงาม

ส่วนค่าใช้จ่ายก็เป็นแบบคิดราคาต่อหัว ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการจัดเลี้ยงแบบซิทดาวน์ดินเนอร์ก็คือ เมื่อคุณกะจำนวนคนได้แน่นอนแล้ว (จากการคอนเฟิร์มของแขก) จะทำให้จำกัดงบประมาณในการจัดเลี้ยงได้ค่อนข้างชัดเจน และเช่นเดียวกันกับการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนว่าไม่รวมราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ

แถมอีกนิดสำหรับผู้ที่ได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงแบบซิทดาวน์ดินเนอร์ ถ้าคุณแจ้งคอนเฟิร์มเข้าร่วมงานแล้วก็ขอให้ทำตัวให้ว่างจริงๆ ในวันงานด้วยนะจ๊ะ พูดง่ายๆ ว่า “สัญญาต้องเป็นสัญญา สัญญาว่ามาต้องมา” เพราะว่าเจ้าภาพเขาจ่ายเงินในส่วนของคุณไปแล้ว

ไม่ว่าบ่าวสาวจะเลือกจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนหรือซิทดาวน์ดินเนอร์ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือ ความเหมาะสมกับสไตล์งานของตนเอง สถานที่จัดงาน จำนวนแขก รวมถึงงบประมาณที่จะใช้จัดเลี้ยงด้วยนะคะ

โต๊ะจีน และข้อควรพิจารณาในการเลือก
หากเอ่ยถึงงานเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานบวช หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ แน่นอนว่าต้องนึกถึงการจัดงานแบบโต๊ะจีน (Chinese Set) เป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นที่นิยมปฏิบัติสืบทอดกันมานาน ด้วยความที่สะดวกสำหรับผู้จัดงานเองที่ไม่ดูวุ่นวายสามารถต้อนรับแขกได้โดยเฉพาะหากมีญาติหรือแขกผู้ใหญ่หลายท่าน และสำหรับตัวแขกที่มาเองก็มีโต๊ะนั่งประจำที่ไม่ต้องเดินหาเก้าอี้นั่ง และอาหารก็พร้อมเสิร์ฟให้ได้รับประทานกัน ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเดินมาเพื่อตักอาหาร

การเลือกโต๊ะจีน
สำหรับใครที่กำลังคิดอยากจัดงานแบบโต๊ะจีนอยู่ล่ะก็ ขั้นแรกต้องลองหาข้อมูลต่างๆ ของการจัดโต๊ะจีนมาประกอบการตัดสินใจนะคะ ไม่ว่าจะเป็นญาติๆ เพื่อนๆ ที่เคยจัดงานมาแล้ว หรือจะถามอากู๋ (กูเกิล) ดูก็ได้ค่ะ เสิร์จเข้าไปหาข้อมูลกันได้เลย ลองศึกษาดูก่อนว่าร้านที่รับจัดโต๊ะจีนร้านไหนน่าใช้บริการ เพราะสมัยนี้มีผู้ประกอบการหลากหลายเจ้า ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้าไหนดีไม่ดีอย่างไรหากไม่เคยใช้บริการ จะเสียเงินจ้างทั้งทีเป็นใครก็ต้องอยากได้โต๊ะจีนที่ดีแบบสมราคาจริงมั้ยคะ

หลักในการเลือกโต๊ะจีนนั้นก็ควรดูคอนเซปต์หรือธีมงานของเราว่าเป็นประเภทใด รวมทั้งเงินในกระเป๋าของเรา ตลอดจนราคาโต๊ะ เมนูอาหารต่างๆ สถานที่ในการจัดงาน และจำนวนแขกที่มาร่วมงาน (ข้อนี้สำคัญมาก) เป็นหลัก เหล่านี้ต้องดูว่าร้านที่รับจัดงานโต๊ะจีนสามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้มากที่สุด แต่หากอยากได้ร้านที่รับจัดงานโต๊ะจีนแบบเพอร์เฟกต์ดีทุกอย่างก็อาจเป็นไปไม่ได้ เพราะแต่ละร้านนั้นราคาก็แตกต่างกัน คุณภาพก็ไม่เหมือนกัน บางร้านก็อาจราคาสูง ของคุณภาพดี แต่บางร้านก็อาจราคาสูง แต่ใช้ของคุณภาพไม่เท่าราคาก็มี โดยเราต้องคำนึงถึงองค์ประกอบโดยรวมแล้วคำนวณดูว่าคุ้มค่ากับราคาที่เราต้องจ่ายหรือไม่

ราคาของการจัดงานแบบโต๊ะจีน
เนื่องจากปัจจุบันร้านที่รับจัดงานแบบโต๊ะจีนมีจำนวนมากขึ้น การแข่งขันก็สูงตามไปด้วย ทำให้ต้องแข่งกันสร้างจุดขาย ภาพลักษณ์ของตนเอง ตลอดจนการลดราคาให้ถูกกว่าคู่แข่ง ทำให้ราคาของการจัดงานแบบโต๊ะจีนนั้นมีด้วยกันหลายราคา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนโต๊ะด้วย ราคาส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ประมาณพันต้นๆ ถึงหมื่นขึ้นไป แต่เราในฐานะผู้บริโภคก็ต้องรู้จักเลือกให้เหมาะแก่งานของเรา เพราะบางครั้งราคาแพงก็ไม่ได้การันตีว่าดีเสมอไป

สไตล์ของการจัดงาน
นอกจากนี้ในการเลือกโต๊ะจีนต้องดูสถานที่จัดงานด้วยว่าเป็นงานแบบไหน ประเภทใด เป็นทางการมากน้อยแค่ไหน อย่างการจัดงานในโรงแรมราคาก็ย่อมแพงตามสถานที่ หรือจัดที่บ้านก็ช่วยประหยัดงบประมาณไปได้อีก เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงในการเลือก

อาหารจีน
อาหารส่วนใหญ่ของโต๊ะจีน

จานแรกจะเป็นออเดิร์ฟ (เรียกน้ำย่อย) อย่างพวกขนมขบเคี้ยว, ข้าวเกรียบ, ขนมจีบ, ถั่วต่างๆ เป็นต้น
- จานที่สองจะเป็นอาหารประเภทต้มร้อน (จานร้อน) อย่างพวกกระเพาะปลา, ซุปหูฉลาม เป็นต้น
- จานที่สามจะเป็นอาหารประเภทนึ่งหรืออบ (จานหลัก) อย่างพวกเป็ดย่าง, หมูหัน, ปลานึ่ง เป็นต้น
- จานที่สี่จะเป็นอาหารหนัก (อิ่มท้อง) อย่างพวกข้าวผัด, เส้นหมี่ผัด เป็นต้น

• - จานสุดท้ายจะเป็นของหวานทั้งร้อนและเย็นส่วนใหญ่จะมี 2 อย่าง เช่น บัวลอยน้ำขิง, แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน, ลูกตาลลอยแก้ว เป็นต้น รวมทั้งผลไม้สดต่างๆ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับราคา ขนาดของโต๊ะ สถานที่ และจำนวนแขกที่มาร่วมงานเป็นหลัก)

     ติดต่อสอบถาม