สแตนเลส คืออะไร ?

สแตนเลส คืออะไร ?
สแตนเลส หรือ ตามศัพท์บัญญัติเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม เป็นเหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนต่ำ(น้อยกว่า 2%)ของน้ำหนัก มีส่วนผสมของโครเมียม อย่างน้อย 10.5% กำเนิดขึ้นในปี พ.ศ.1903 เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่า การเติมนิเกิล โมบิดินัม ไททาเนียม ไนโอเนียม หรือโลหะอื่นแตกต่างกันไปตามชนิด ของคุณสมบัติเชิงกล และการใช้ลงในเหล็กกล้าธรรมดา ทำให้เหล็กกล้ามีความต้านทานการเกิดสนิมได้

ประเภทของสแตนเลส+++
– เกรด ออสเตนิติก (Austenitic) แม่ เหล็ดดูดไม่ติด นอกจากส่วนผสมของโครเมียม 18%แล้ว ยังมีนิเกิลที่ช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนอีกด้วย ชนิดออสเตนิติกเป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางมากที่สุด ในบรรดาสแตนเลสด้วยกัน ส่วนออสเตนิติกที่มีโครเมียมผสมอยู่สูง 20% ถึง 25% และนิกเกิล 1%ถึง 20% จะสามารถทนการเกิดออกซิไดซ์ได้ที่อุณหภูมิสูง ซึ่งใช้ในส่วนประกอบของเตาหลอม ท่อนำความร้อน และแผ่นกันความาร้อนในเครื่องยนต์ จะเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม ชนิดทนความร้อน (Heat Resisting Steel)
– เกรดเฟอร์ริติก (Ferritic) แม่เหล็กดูดติด มีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำ และมีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลัก คือประมาณ 13% หรือ 17%

คุณสมบัติทางกายภาพของสแตนเลส++++
คุณสมบัติทางกายภาพของ สแตนเลส เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุประเภทอื่น ค่าที่แสดงในตารางที่1 เป็นเพียงค่าประมาณ เนื่องจากการเปรียบเทียบทำได้ยาก ค่าความหนาแน่นสูงของสแตนเลสแตกต่างจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของคุณสมบัติเกี่ยวกับความร้อนความสามารถ ทนความร้อนของสแตนเลส มีข้อสังเกต 3 ประการคือ
– การที่มีจุดหลอมเหลวสูง ทำให้มีอัตราความคืบดี เมื่อเทียบกับเซรามิก ที่อุณหภูมิ ต่ำกว่า 1000 องศา C?
-การที่มีค่านำความร้อนระดับปานกลาง ทำให้สแตนเลสเหมาะที่จะใช้ในงานที่ต้องทนความร้อน (คอนเทนเนอร์) หรือต้องการคุณสมบัตินำความร้อนได้ดี (เครื่องถ่ายความร้อน)
-การมีค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวระดับปานกลาง จึงสามารถใช้ความยาวมากๆได้ โดยใช้ตัวเชื่อมน้อย (เช่น ในการทำหลังคา)

คุณสมบัติเชิงกลของสแตนเลส++++
สแตนเลสโดยทั่วไปจะ มีส่วนผสมของเหล็กประมาณ 70-80% จึงทำให้มีคุณสมบัติของเหล็กที่สำคัญ 2 ประการคือ ความแข็งและความแกร่ง ในตารางที่ 2นี้ เป็นการเปรียบเทียบคุณสมบัติเชิงกลกับวัสดุชนิดอื่น จะเห็นได้ว่าพลาสติกซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางมีความแข็งแรง และโมดูลัส ความยืดหยุ่นต่ำ ส่วนเซรามิกมีความแข็งแรงและความเหนียวสูงแต่มีความแกร่งหรือความสามารถรับ แรงกระแทกโดยไม่แตกหักต่ำ สแตนเลสให้ค่า ที่เป็นกลางของทั้งความแข็ง ความแกร่ง และความเหนียว เรนื่องจากมีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยุ่มาก และจะมีเพิ่มขึ้นอีกในชนิดออสเตนิติก และตารางที่ 3 จะแสดงให้เห็นค่าความแข็งแรงสูงสุด (Ultimate Tensile Strength) ของสแตนเลส ไม่ว่าจะชนิดที่อ่อนตัวง่าย ซึ่งสามารถทำให้ขึ้นรูปเย็นได้ดี เช่น การขึ้นรูปลึก (Deep Drawing) จนถึงชนิดความแข็งแรงสูงสุด ซึ่งได้จากการขึ้นรูปเย็นหรือการทำให้เย็นตัวโดยเร็ว (Quenching) หรือชนิดชุบแข็ง แบบตกผลึก (Preciptation Hardening) ซึ่งเหมาะใช้ทำสปริง

  ติดต่อช่าง                                  

What is stainless steel?

Stainless steel or as the terminology is called. stainless steel It is a steel with low carbon content (less than 2% of weight A mixture of chromium at least 10.5% originated in 1903 when scientists found that The addition of nickel, mobidinum, titanium, nionium or other metals varies by type. of mechanical properties and its use in ordinary steel Make the steel resistant to rust.

Type of stainless steel+++

- Austenitic grade, non-absorbing magnet In addition to the composition of 18% chromium, it also contains nickel that improves corrosion resistance. The austenitic type is the most widely used. among stainless steel Austenitics with a high content of 20% to 25% chromium and 1% to 20% nickel are resistant to oxidizing at high temperatures. which is used in furnace components heat pipe And the heat shield in the engine is called stainless steel. Heat Resisting Steel

– Ferritic grade (Ferritic) magnet. Contains a low carbon content and contains chromium as the main ingredient, which is about 13% or 17%

Physical properties of stainless steel ++++

Physical properties of stainless steel in comparison with other materials The values ​​shown in Table 1 is just an estimate because it is difficult to compare The high density of stainless steel differs from other construction materials. clearly in terms of thermal properties The heat resistance of stainless steel has three observations:

- having a high melting point make a good creep rate Compared to ceramics at temperatures below 1000 degrees C?

- having a moderate thermal conductivity This makes stainless steel suitable for use in applications that require heat resistance. (Container) or require good thermal conductivity (heating machine)

- having a moderate expansion coefficient therefore can use a large length by using less connectors (e.g. in roof construction)

Mechanical properties of stainless steel ++++

Stainless steel is generally It contains approximately 70-80% of steel, so there are two important properties of steel, namely hardness and toughness. In Table 2, this is a comparison of mechanical properties with other materials. It can be seen that plastic, a widely used material, has low strength and modulus of elasticity. Ceramic parts have high strength and toughness but have toughness or bearability. Impact strength without breakage is low stainless steel Neutral of both strength, toughness and toughness Because it contains a lot of iron. And there will be more in the austenitic type, and Table 3 shows the ultimate tensile strength of stainless steel, whether it is easily malleable. which can make good cold forming, such as deep drawing (Deep Drawing) to the highest strength type which is obtained by cold forming or quenching or preciptation hardening

  ติดต่อช่าง                                  

什么是不锈钢？

不锈钢或如术语所称。不锈钢 它是一种低碳含量（小于 重量的 2% 至少 10.5% 的铬混合物起源于 1903 年，当时科学家发现 添加的镍、钼、钛、钆或其他金属因类型而异。机械性能 及其在普通钢材中的应用 使钢材抗锈。

不锈钢类型+++

- 奥氏体级，非吸收性磁铁 除了含有 18% 铬的成分外，它还含有提高耐腐蚀性的镍。奥氏体型是应用最广泛的。在不锈钢之间 含铬 20% 至 25% 和镍 1% 至 20% 的高含量奥氏体钢在高温下具有抗氧化性。用于熔炉组件 热管 而发动机中的隔热罩则称为不锈钢。耐热钢

– 铁素体级（铁素体）磁铁。含碳量低 并含有铬为主要成分，约为13%或17%

不锈钢物理性能++++

与其他材料相比，不锈钢的物理特性 数值见表1 只是一个估计 因为很难比较 不锈钢的高密度不同于其他建筑材料。清楚地 在热性能方面 不锈钢的耐热性有三点观察：

- 具有高熔点 获得良好的蠕变率 与温度低于 1000 摄氏度的陶瓷相比？

- 具有适中的导热性 这使得不锈钢适用于需要耐热性的应用。（容器）或需要良好的导热性 （加热机）

- 具有适中的膨胀系数 因此可以使用大长度 通过使用更少的连接器（例如在屋顶结构中）

不锈钢机械性能++++

不锈钢一般是 它含有大约70-80%的钢，所以钢有两个重要的性能，即硬度和韧性，表2中这是与其他材料的力学性能对比。可见，塑料作为一种广泛使用的材料，其强度和弹性模量较低。陶瓷零件具有较高的强度和韧性，但具有韧性或可承受性。不断裂的冲击强度低 不锈钢 强度、韧性和韧性均呈中性 因为它含有大量的铁。而奥氏体型的会更多，表3显示了不锈钢的极限抗拉强度，是否易延展。可产生良好的冷成型，如深冲（Deep Drawing）至最高强度型 通过冷成型或淬火或沉淀硬化获得

  ติดต่อช่าง