5 วิธีดูแลรถบรรทุกแบบมือโปร

lookmoo1981 profile image lookmoo1981

บริการรถบรรทุก 4ล้อ 6ล้อ 10ล้อ 
รถบรรทุกรับจ้าง ขนของ ขนสินค้า ขนย้ายบ้าน

บขนย้ายรถบด แม็คโคร รถไถ

                             ติดต่อสอบถาม

 

5 วิธีดูแลรถบรรทุกแบบมือโปร
สำหรับหลายคนแล้ว รถยนต์นับเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากที่สุด เมื่อซื้อแล้วก็ย่อมอยากให้อยู่กับเราไปนานๆ โดยเฉพาะรถใหญ่ที่เป็นเหมือนเครื่องมือทำมาหากินของเราไปแล้วอย่างรถบรรทุก ดังนั้นการดูแลรักษารถเพื่อไม่ให้เสียหายก่อนอายุการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่เราควรทำ
สำหรับหลายคนแล้ว รถยนต์นับเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากที่สุด เมื่อซื้อแล้วก็ย่อมอยากให้อยู่กับเราไปนานๆ โดยเฉพาะรถใหญ่ที่เป็นเหมือนเครื่องมือทำมาหากินของเราไปแล้วอย่างรถบรรทุก ดังนั้นการดูแลรักษารถเพื่อไม่ให้เสียหายก่อนอายุการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่เราควรทำ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเครื่องยนต์ รวมไปถึงภายนอก ตลอดจนวิธีการขับรถที่ถูกวิธีด้วยเช่นกันครับ และวันนี้เรามาลองดู 5 วิธีดูแลรถบรรทุกแบบมือโปรกันดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง

1) เช็คลมยางสม่ำเสมอ
รถบรรทุกคือยานพาหนะขนาดใหญ่ที่สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป ฐานของตัวรถบรรทุกจึงควรได้รับการดูแลรักษามากกว่ารถยนต์ปกติ โดยเฉพาะยางรถบรรทุก ดังนั้นการตรวจเช็คลมยางเป็นการดูแลรถที่ง่ายที่สุด โดยสามารถทำได้โดยการสังเกตล้อยางก่อนการออกเดินทาง และเติมลมให้เรียบร้อยเมื่อมีโอกาส โดยลมยางที่เหมาะสมนั้นต้องคำนึงถึงน้ำหนักรถ น้ำหนักสิ่งของที่บรรทุก ความเร็วที่ใช้ และพื้นถนนที่เราต้องวิ่งผ่าน เราสามารถเติมลมยางได้ตั้งแต่ 85-100 psi ขึ้นอยู่กับขนาดยาง หากอยู่ที่ตำแหน่งพ่วงหรือล้อลากที่ต้องรับน้ำหนักการบรรทุกเยอะๆ ให้เพิ่มแรงดันเป็น 100-125 psi ตามขนาดยาง และยังสามารถเติมลมยางได้มากกว่า 130 psi ในยางขนาดใหญ่มากๆ นั่นเองครับ
2) เติมน้ำฉีดกระจกปัดน้ำฝน
หลายครั้งที่เรามักจะละเลยการเติมน้ำฉีดกระจกปัดน้ำฝน แต่ในยามที่เราต้องฉีดน้ำล้างกระจกกลับเป็นสิ่งที่เราทำบ่อยเช่นกัน ดังนั้นควรเปลี่ยนจากการละเลยมาเป็นการตรวจที่ปัดน้ำฝนและกระจกปัดน้ำฝนเดือนละครั้ง ซึ่งวิธีการเช็คไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่สังเกตสัญลักษณ์ที่ปัดน้ำฝนในห้องเครื่องรถบรรทุกเพื่อหาถังน้ำฉีดกระจก จากนั้นก็เติมน้ำสะอาดลงไปให้ถึงขีดที่กำหนด เพียงเท่านี้ น้ำสำหรับฉีดกระจกปัดน้ำฝนก็จะไม่ขาดเมื่อถึงยามที่เราต้องใช้งาน ถือเป็นอีกวิธีดูแลรถบรรทุกที่เราทำกันได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองเลยครับ
3) ตรวจหม้อน้ำ
อีกวิธีวิธีดูแลรถบรรทุกก็คือการตรวจสอบหม้อน้ำครับ ซึ่งต้องบอกว่าหม้อน้ำนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนมีรถที่ควรจะต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ไม่เพียงแต่รถบรรทุกเท่านั้นนะครับ แม้แต่รถเล็กก็ควรที่จะต้องตรวจสอบเป็นประจำเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าหม้อน้ำของรถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ ซึ่งการตรวจวัดระดับน้ำในหม้อน้ำควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เราสามารถที่จะเติมน้ำสะอาดลงไปในหม้อน้ำจนถึงขีดที่กำหนดหากพบว่าระดับน้ำพร่องลง เพื่อช่วยให้ระบบระบายความร้อนภายในรถเป็นไปอย่างสมบูรณ์
4) เช็คลมยางอะไหล่
ยางอะไหล่รถเป็นอีกอุปกรณ์ที่เราต้องมีติดรถ
ไว้ตลอดเวลา และอีกวิธีการดูแลรถบรรทุกที่ต้องใช้งานอยู่แทบทุกวันนั้นก็คือเรื่องของการเช็คยางอะไหล่ที่ถูกเก็บไว้ภายในรถนั่นเองครับ เพราะยางอะไหล่นั้นจะถูกเก็บไว้เพื่อรอการใช้งาน เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้งานขึ้นมายางอะไหล่จะต้องพร้อมอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อวันเวลาผ่านไปลมที่อยู่ภายในยางอะไหล่จะถูกคายออกทีละน้อยตลอดเวลา เราจึงควรตรวจเช็คยางอะไหล่อย่างน้อยเดือนละครั้ง และเติมลมยางให้มากกว่าปกติไว้เล็กน้อยอยู่เสมอครับ แต่สำหรับยางอะไหล่ที่ถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลาเกิน 5 ปีแล้ว ควรที่จะต้องตรวจสอบให้ดียิ่งขึ้น และไม่ควรนำมาใช้ในระยะทางไกลเกินคู่มือกำหนดครับ
5) เช็คน้ำมันเครื่อง
และวิธีสุดท้ายนี้ส่วนใหญ่แล้วเราจะได้รับการตรวจเช็คเมื่อต้องนำรถเข้าศูนย์บริการเท่านั้น ก็คือการเช็คน้ำมันเครื่องนั่นเองครับ แต่ใช่ว่าวิธีนี้เราจะไม่สามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการที่เราสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเองนั้นควรทำทุกสองถึงสามสัปดาห์เพื่อเป็นการตรวจเช็คสภาพ และระดับปริมาณน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้การเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพดี และรักษาระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะสามารถดูแลรถได้แบบมือโปรนั่นเองครับ
จะเห็นได้ว่าการดูแลรถบรรทุกคู่ใจของเราให้มีสภาพดีและพร้อมใช้งานอยู่เสมอนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ และ วิธีดูแลรถบรรทุกที่เรานำมาบอกเล่าในวันนี้ก็เป็นวิธีดูแลรถบรรทุกแบบมือโปรที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ทั้งนี้นอกจากจะช่วยไม่ให้รถของเราเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุการใช้งานแล้ว ยังเป็นอีกวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทั้งต่อตัวเราและเพื่อนร่วมทางด้วยครับ

ใบขับขี่ประเภท 2
ใบอนุญาตขับขี่ถือว่าเป็นเอกสารที่มีความสำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่ขับรถ ใบขับขี่แต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะ ใบขับขี่ประเภท 2 ซึ่งเป็นใบขับขี่ชนิดที่เอาไว้ใช้สำหรับการขับรถทุกประเภท เช่น รถกระบะ รถเก๋ง แต่โดยส่วนมากแล้วคนจะนิยมทำ ใบขับขี่ชนิดที่ 2 เพื่อเอาไว้ใช้สำหรับการขับรถสาธารณะมากกว่า
ในบทความนี้เราจะลองไปดูกันค่ะ ว่าใบขับขี่ประเภท 2 คืออะไร ใบขับขี่ประเภท บ.2 และใบขับขี่ประเภท ท.2 นั้นแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงก็จะมาบอกเล่าด้วยว่าการทำใบขับขี่ประเภท 2 ใช้เอกสารอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ใบขับขี่ประเภท 2 คืออะไร
สรุปแบบง่าย ๆ ใบขับขี่ประเภท 2 คือ ใบขับขี่ที่เอาไว้ใช้สำหรับการขับรถทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งส่วนบุคคล รถกระบะส่วนบุคคล หรือว่าการขับรถเพื่อการขนส่ง การบรรทุกเชิงพาณิชย์ ใบขับขี่รถยนต์ประเภท 2 ก็จะตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งหมด
แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้ามีความจำเป็นขับแค่รถส่วนบุคคล ก็ไม่ควรทำใบขับขี่ประเภท 2 ค่ะ เพราะมันค่อนข้างจะกว้างไปนิดนึง ทางเจ้าหน้าที่ขนส่งจะแนะนำให้เราทำใบอนุญาตขับขี่แบบธรรมดาส่วนบุคคลแทนค่ะ
แต่ถ้าเพื่อน ๆ นั้นมีความจำเป็นต้องขับรถบรรทุกสินค้า หรือรถขนส่งเป็นประจำอยู่แล้ว การทำ ใบขับขี่สาธารณะประเภท 2 นั้นก็ยิ่งตอบโจทย์สุด ๆ ไปเลยแหละค่ะ

ใบขับขี่ประเภท 2 มีกี่ชนิด
1. ใบขับขี่ประเภท บ. 2 >>> เป็นใบขับขี่ประเภท 2 ที่เอาไว้ใช้สำหรับขับรถขนส่งบรรทุกประเภทส่วนบุคคล ไม่ใช่เพื่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์
2. ใบขับขี่ประเภท ท.2 >>> เป็นใบขับขี่ประเภท 2 ที่เอาไว้ใช้ขับรถขนส่ง หรือรถบรรทุกได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งแบบส่วนบุคคล หรือการขนส่งในเชิงพาณิชย์ก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น การขับรถขนส่งสินค้า

เอกสารทำใบขับขี่ประเภท 2 ใช้อะไรบ้าง
- บัตรประชาชน (ตัวจริง + สำเนา)
- เอกสารใบรับรองแพทย์ ขอไว้ไม่เกิน 1 เดือน
- ใบขับขี่ส่วนบุคคล

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เอกสารทำใบขับขี่ ท.2 และ บ.2 เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็จะเป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายนั่นเอง

ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่ประเภท 2
สำหรับค่าธรรมเนียมในการทำใบขับขี่ประเภท 2 ราคา อยู่ที่ 200 บาท
ในการทำ ใบขับขี่ประเภท 2 เราสามารถทำเรื่องได้เลยที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ ที่สำคัญคืออย่าลืมเตรียมเอกสารทำใบขับขี่ประเภท 2 ให้ครบถ้วนด้วย ถ้าต้องการขับรถส่วนบุคคลอย่างเดียวก็ขอแนะนำให้ทำใบขับขี่ส่วนบุคคลทั่วไปจะดีกว่า แต่ถ้ามีความเป็นต้องขับรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ การทำใบขับขี่ประเภท 2 ติดตัวเอาไว้ก็จะเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เช่นกันค่ะ

รถเทเลอร์เชียงราย
รถเทเลอร์เชียงใหม่
รถเทเลอร์น่าน
รถเทเลอร์พะเยา
รถเทเลอร์แพร่
รถเทเลอร์แม่ฮ่องสอน
รถเทเลอร์ลำปาง
รถเทเลอร์ลำพูน
รถเทเลอร์อุตรดิตถ์
รถเทเลอร์กาฬสินธุ์
รถเทเลอร์ขอนแก่น
รถเทเลอร์ชัยภูมิ
รถเทเลอร์นครพนม
รถเทเลอร์นครราชสีมา
รถเทเลอร์บึงกาฬ
รถเทเลอร์บุรีรัมย์
รถเทเลอร์มหาสารคาม
รถเทเลอร์มุกดาหาร
รถเทเลอร์ยโสธร
รถเทเลอร์ร้อยเอ็ด
รถเทเลอร์เลย
รถเทเลอร์สกลนคร
รถเทเลอร์สุรินทร์
รถเทเลอร์ศรีสะเกษ
รถเทเลอร์หนองคาย
รถเทเลอร์หนองบัวลำภู
รถเทเลอร์อุดรธานี
รถเทเลอร์อุบลราชธานี
รถเทเลอร์อำนาจเจริญ
รถเทเลอร์กำแพงเพชร
รถเทเลอร์ชัยนาท
รถเทเลอร์นครนายก
รถเทเลอร์นครปฐม
รถเทเลอร์นครสวรรค์
รถเทเลอร์นนทบุรี
รถเทเลอร์ปทุมธานี
รถเทเลอร์พระนครศรีอยุธยา
รถเทเลอร์พิจิตร
รถเทเลอร์พิษณุโลก
รถเทเลอร์เพชรบูรณ์
รถเทเลอร์ลพบุรี
รถเทเลอร์สมุทรปราการ
รถเทเลอร์สมุทรสงคราม
รถเทเลอร์สมุทรสาคร
รถเทเลอร์สิงห์บุรี
รถเทเลอร์สุโขทัย
รถเทเลอร์สุพรรณบุรี
รถเทเลอร์สระบุรี
รถเทเลอร์อ่างทอง
รถเทเลอร์อุทัยธานี
รถเทเลอร์จันทบุรี
รถเทเลอร์ฉะเชิงเทรา
รถเทเลอร์ชลบุรี
รถเทเลอร์ตราด
รถเทเลอร์ปราจีนบุรี
รถเทเลอร์ระยอง
รถเทเลอร์สระแก้ว
รถเทเลอร์กาญจนบุรี
รถเทเลอร์ตาก
รถเทเลอร์ประจวบคีรีขันธ์
รถเทเลอร์เพชรบุรี
รถเทเลอร์ราชบุรี
รถเทเลอร์กระบี่
รถเทเลอร์ชุมพร
รถเทเลอร์ตรัง
รถเทเลอร์นครศรีธรรมราช
รถเทเลอร์นราธิวาส
รถเทเลอร์ปัตตานี
รถเทเลอร์พังงา
รถเทเลอร์พัทลุง
รถเทเลอร์ภูเก็ต
รถเทเลอร์ระนอง
รถเทเลอร์สตูล
รถเทเลอร์สงขลา
รถเทเลอร์สุราษฎร์ธานี
รถเทเลอร์ยะลา
รถเทเลอร์กรุงเทพมหานคร

 

 

 

 

ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

2 เดือนที่ผ่านมา
2 เดือนที่ผ่านมา