ตรวจสอบสีผังเมืองจากที่ดินที่เราสนใจหรือที่เราถืออยู่นั้น ทำอะไรได้บ้าง ?
เคยสงสัยกันไหมว่าที่ดินของเรานั้นทำอะไรได้บ้าง? เวลาเราจะตัดสินใจซื้อที่ดิน หรือมีที่ดินอยู่แล้วและคิดจะสร้างอะไรซักอย่าง สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นเครื่องมือในการช่วยตัดสินใจเบื้องต้นคือ “กฎหมายผังเมือง” เพราะบางพื้นที่ก็ห้ามสร้างโรงงาน ห้ามสร้างปั๊มน้ำมัน ห้ามสร้างอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนด้านอสังหาฯ ควรจะรู้เท่านั้น คนทั่วไปก็ควรจะรู้ไว้ด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากและขั้นตอนนั้นไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดเลย ประชาชนทั่วไปสามารถดูได้ง่ายๆ
เริ่มจากมาทำความเข้าใจกับผังเมืองและกฎหมายผังเมืองกันก่อน
1.ผังเมือง
ผังเมืองออกแบบโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กำหนดความเป็นอยู่ของคนในเมืองนั้นๆ เลยทีเดียว ว่าจะมีถนนหนทางเป็นอย่างไร มีอะไรอยู่ตรงไหน ซึ่งแต่ละเมืองจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมรวมถึงแนวความคิดและวิสัยทัศน์ เมืองที่มีการออกแบบผังเมือง บ้านจะเมืองจะเป็นระเบียบเรียบร้อยค่ะ สำหรับเมืองที่มีการออกแบบพังเมืองอย่างดีนั้น เราจะสามารถเห็นแนวความคิดได้ชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศ ตัวอย่างที่ชอบหยิบยกมาศึกษา เช่น ผังเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ที่นับว่าเป็นสุดยอดของงานออกแบบผังเมืองแห่งหนึ่ง เมืองนี้ออกแบบเป็น Grid เป็นบล็อค หรือจะเป็นผังเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะออกแบบเหมือนใยแมงมุม ซึ่งต่างคนก็ต่างมีแนวทางการออกแบบ ขึ้นอยู่กับแนวคิดและสภาพแวดล้อมรวมถึงการเติบโตของเมืองนั้นๆ ด้วย
โดยตัวกฎหมายผังเมืองจะมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ
1. เนื้อหากฎหมายผังเมือง (กฎกระทรวง) เป็นลายลักษณ์อักษร ผังเมืองแต่ละจังหวัดจะอยู่กันคนละฉบับค่ะ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปอ่านที่ได้ในกฎหมายผังเมืองค่ะ โดยจะเรียงลำดับจากกฎหมายที่มีการอัพเดตกฎหมายล่าสุดก่อน ในตัวกฎหมายก็จะอธิบายถึง ความหมายคำต่างๆ, ประเภทของทีดินแบ่งเป็นกี่ประเภท, มีอะไรบ้าง, สีต่างๆ หมายถึงอะไร, รหัสตัวอักษรต่างๆ เช่น ย พ ต หมายถึงอะไร และรวมไปถึงห้ามสร้างอะไรได้บ้าง
2. แผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน หรือผังสีจะแนบท้ายตัวกฎหมาย เพื่อแสดงสีของที่ดินต่างๆ สามารถเปิดดูได้ที่นี่เลยค่ะ ซึ่งเราต้องทราบตำแหน่งของที่ดินที่เราสนใจ แล้วมาดูในผังสีนี้ค่ะ ว่าอยู่ในเขตสีอะไร ซึ่งแต่ละจังหวัดก็จะมีข้อกำหนดแตกต่างจากกรุงเทพฯ ยกตัวอย่างมาเทียบให้ดู 2 จังหวัด คือ จังหวัดกรุงเทพฯ และจังหวัดนครนายก ซึ่งก็จะเห็นว่ากรุงเทพฯ มีสีสันเยอะกว่านครนายกมาก ซึ่งก็เป็นเพราะในกรุงเทพฯ มีงานใช้งานที่ดินที่หลากหลายประเภทกว่าในจังหวัดนครนายกนั่นเองค่ะ\
1.เพื่อเป็นการรองรับความสูงของถนนที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการลาดยางหรือทำถนนคอนกรีตในอนาคตนั้นเอง อีกปัจจัยนึงคือระดับน้ำท่วมสูงสุดในบริเวณนั้น ถ้าสามารถหาข้อมูลได้เราก็ควรถมที่ดินให้สูงกว่าระดับดังกล่าวประมาณ 50 ซม.ขึ้นไป
การถมดินเพื่อสร้างบ้านเจ้าของบ้านจำเป็นต้องเผื่อการยุบตัวของดินด้วยนะครับ คือเพื่มปริมาณดินถมสูงขึ้นไปอีก 30 % เพื่อเผื่อให้ดินได้เซ็ตตัวหรือยุบตัว นั้นเอง เช่น จะถมดินสูง 50 ซม แต่ให้ถมดินไว้ที่ระดับ65 ซมนั้นเอง และควรถมดินไว้ก่อนการสร้างบ้านอย่างน้อย 4-6 เดือนยิ่งทิ้งไว้ผ่านหน้าฝนซักครั้งจะยิ่งทำให้ดินแน่นมากขึ้นทำให้ลดปัญหาดินทรุดหลังสร้างบ้านได้เป็นอย่างดี
3. ทิศทางแดดลม กับ การวางตำแหน่งบ้าน หลายๆ คนอาจจะคิดว่าไอ้เรื่องพวกนี้ มันจะสำคัญอะไรมากมายนักจะปลูกบ้านตรงไหนมันก็มีลมทั้งนั้นแหละ และที่สำคัญเราก็เปิดแอร์ทั้งวันอยู่แล้วไม่เห็นมีอะไรน่ากังวล ใครกำลังมีความคิดแบบนี้มั้งครับ ถ้ามีแนะนำว่าให้อ่านหัวข้อนี้ก่อนแล้วค่อยมาคิดอีกทีนะครับ
ทำไมต้องดูทิศทางแดด-ลม ก่อนการวางตำแหน่งบ้าน ก็เพราะว่าเราคงไม่อยากนอนในห้องนอนที่แสนจะร้อนในตอนกลางคืนหรือต้องอุดอู้อึดอัดอยู่ในบ้านที่ไม่มีลมระบายเลย เรื่องพวกนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน มีข้อสังเกตุหลายอย่างในการวางตำแหน่งบ้านเพื่อให้บ้านทั้งหลังเป็นบ้านที่อยู่อย่างสบาย มีความสุข และประหยัดพลังงาน
ปกติแสงแดดของบ้านเราจะวิ่งเป็นแนวตะวันออกแล้วอ้อมโค้งไปทางใต้ก่อนจะตกในทิศตะวันตก จะทำให้ทิศใต้ไปจนถึงทิศตะวันตกได้รับแสงมากที่สุดของวันคือตั้งแต่หลังเที่ยงไปจนถึงห้าโมงเย็น ด้านนี้จึงควรเป็นส่วนหลังบ้านและส่วนซักล้างหรือกิจกรรมอื่นที่ต้องการแสงจำนวนมากๆ ส่วนทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงอ่อนๆในตอนเช้าและแสงจะแรงมากเพียงแค่ช่วง 10 โมงเช้าจนถึงเที่ยงซึ่งก็เพียงแค่ 3 ชม ยิ่งทิศเหนือแล้วยิ่งได้รับแดดน้อยที่สุด 2 ด้านนี้จึงเหมาจะวางตำแหน่งของห้องพักผ่อนที่ต้องการแสงรบกวนน้อย เช่น ห้องนอนและห้องนั่งเล่น
เรานิยมวางแนวด้านแคบของตัวบ้านหันไปทางทิศทางรับแดด เพื่อให้ผนังที่รับแดดมีน้อยที่สุด ทำให้ผนังสามาถดูดกลืนความร้อนในปริมาณน้อยและทำให้ภายในบ้านไม่ร้อนจนเกินไปในเวลากลางคืน เพราะธรรมชาติของผนังปูนนั้นจะดูดความร้อนเมื่อแดดส่องและจะถ่ายเทความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ฉะนั้นถ้าผนังบ้านถูกแดดตะวันตกน้อยก็จะทำให้ความร้อนที่จะถ่ายออกมาเวลากลางคืนมีน้อยเช่นกัน
ส่วนลมนั้นลมประจำฤดูของบ้านเราจะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะพัดพาลมหนาวจากจีนมาในช่วงหน้าหนาว และ จากทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่จะพัดพาความชุ่มชื้นจากทะเลมาในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน บ้านที่ดีด้านยาวของบ้านจึงควรหันเข้าหาทิศทางลมเพื่อให้ลมธรรมชาติพัดเข้าตัวบ้านเพื่อระบายความร้อนออกไปให้ได้มากที่สุดและส่งผลให้ประหยัดค่าไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเป็นต้น
4. รูปแบบและราคาประเมินการก่อสร้างบ้าน รูปแบบบ้านมีหลากหลายแบบให้เลือกตามรสนิยมและความชอบส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่รูปแบบที่มีความซับซ้อนมากอย่างแบบ บ้านเรือนไทยของเราเองที่มีความซับซ้อนทั้งรูปแบบและขั้นตอนในการก่อสร้างที่ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญสูงมาก หรือแบบเรียบง่ายสมัยใหม่แบบ Modern Style ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมากนักแต่เน้นความเนียบเป็นหลัก เรื่องกระบวนการก่อสร้างนี้แหละที่ทำให้บ้านแต่ละรูปแบบบ้านราคาค่าตัวที่แตกต่างกันออกไป
5. ความต้องการพื้นฐานของเจ้าของบ้าน การที่เราจะสร้างบ้านซักหลังนั้น เราจำเป็นต้องรู้ซะก่อนว่าเราต้องการอะไร?? บ้านหลังใหญ่แค่ไหน อยู่กันกี่คน มีผู้สูงอายุไหม ต้องการรูปแบบบ้านแบบไหน มีรถยนต์กี่คัน ต้องการห้องนั้งเล่นใหญ่ๆ หรือ ต้องการห้องน้ำแบบใหญ่โตโอลาน หรือไม่ ....บลาๆๆๆๆ ทั้งหมดนั้นเราเรียกว่าความต้องการพื้นฐานในการออกแบบบ้านครับ เราต้องตอบตัวเองกับเรื่องเหล่านี้ให้ได้ก่อนจึงจะสามารถให้ผู้ออกแบบสร้างบ้านในฝันออกมาตามความต้องการเราได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง อาจทำเป็นเช็คลิสต์ ง่ายๆ ไปเดินดูบ้านตัวอย่างตามโครงการก็ได้ ชอบอะไรก็จดไว้ ไม่ต้องรีบเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆแล้วค่อยๆสรุปออกมาเป็นข้อๆให้ผู้ออกแบบ ในขั้นตอนการออกแบบเบื้องต้น
6. การวางตำแหน่งห้องต่างๆ เคยสงสัยกันไหมครับ ว่าทำไมเข้าบ้านต้องเจอห้องรับแขกก่อนทำไมไม่เข้ามาแล้วเจอห้องนอนเลยนะมันคงดีเนอะ แต่ถ้าขืนทำแบบนั้นจริงๆ ก็คงจะโดนใครต่อใครประณามได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ถ้าเราทำแบบนั้นกับคอนโดกลับมองว่ามันก็ปกติก็ห้องมันมีพื้นที่จำกัดนี้ครับ สำหรับบ้านแล้วเราควรเข้าบ้านมาเจอห้องโถงหรือห้องรับแขกก่อนแล้วจึงแยกออกไปเป็นห้องนอน ห้องอาหาร และ ครัว รวมถึงห้องน้ำที่ต้องเข้าถึงง่ายแต่มิดชิด
การวางผังบ้านแบบนี้เราจะเรียกว่าการจัดโซนนิ่งบ้าน โดยเราจะแบ่งเป็น
- ส่วนสาธารณะ เช่น โถงทางเข้า ห้องรับแขก ห้องทานอาหาร เป็นต้น ห้องเหล่านี้ทุกคนในบ้านรวมทั้งแขกที่มาบ้านจะสามารถเข้าถึงได้เหมือนๆกัน
- ส่วนกึ่งสาธารณะ เช่น ห้องคาราโอเกะ ห้องนั้งเล่น ห้องพระ เป็นต้น ห้องเหล่านี้ทุกคนในบ้านเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงได้
- ส่วนที่เป็นส่วนตัว เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน เป็นต้น ห้องเหล่านี้มีเพียงเจ้าของห้องและสมาชิคบางคนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงได้เพราะมีความเป็นส่วนตัวสูง
7. ทิศทางการวางบันได ถ้ามองเรื่องนี้ในแง่ของฮวงจุ้ย เค้าก็จะบอกว่าอย่าหันบันไดบ้านไปทางทิศตะวันตกเพราะเป็นทิศที่เกียวกับคนตายและสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งปวงใครขืนหันบันไดไปทางนี้เอาว่าไม่ซวยอย่างไดก็อย่างนึงว่างั้น แต่ถ้าว่ากันตามหลักการออกแบบแล้วก็ไม่แนะนำให้หันบันไดไปทางทิศตะวันตกเช่นกันเนื่องจากทิศตะวันตกเป็นทิศที่มีแสงบ่ายค่อนข้างแรงอาจทำให้การใช้งานบันไดที่มีแสงบ่ายส่องตาอาจทำให้เจ้าของบ้านแสบตาจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้นั้นเอง แต่ถ้าจำเป็นต้องวางก็ไม่ควรให้ผนังด้านที่บันไดมุ่งไปหานั้นมีแสงส่องผ่านมาได้ โดยอาจเปลี่ยนเป็นการนำแสงธรรมชาติลงมาจากด้านบนเพดานแทนก็ได้
8. ความสูงลูกตั้ง ลูกนอน และ จำนวนขั้นบันได เรื่องของความสูงของลูกตั้งลูกนอนบันไดนั้นมีข้อกำหนดอยู่แล้วในกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 ผู้ออกแบบทุกท่านทราบเป็นอย่างดี คือลูกตั้งไม่ควรสูงเกิน 20 ซม และกว้างไม่น้อยกว่า 22 ซม.ตัวเลขดังกล่าวใช้สำหรับบ้านพักอาศัยทั้วไป ซึงเป็นความสูงและความกว้างที่ผ่านการศึกษามาแล้วว่าเหมาะสมที่สุด ส่วนจำนวนขั้นบันไดนั้นไม่ได้มีกฏหมายกำหนดไว้ แต่ตามความเชื่อของคนไทยคือบันไดต้องจบที่เลข คี่ เนื่องจาก เลขคี่เป็นเลขของคนเป็น ส่วนเลขคู่นั้นถือว่าเป็นเลขของคนตายนั้นเอง แต่ในความเป็นจริงควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งมากกว่า
9. จะเผื่อความสูงฝ้าเพดานไว้เท่าไหร่ดี โดยปกติความสูงฝ้าโดยทั้งไป(วัดจากระดับพื้นถึงท้องฝ้า)ควรจะสูงไม่น้อยกว่า 2.40 ม.ซึ่งเป็นความสูงที่กำลังสบายไม่อึดอัดหรือรู้สึกโดนกด และประหยัดด้วย เอะ!ยังไง.....มันประหยัดยังไงกัน คำตอบก็คือปัจจุบันวัสดุกรุผนังส่วนใหญ่จะทำออกมาที่ตัวเลขรวมได้ 2.40 พอดีเช่น กระเบื้องขนาด 30ซม x 30ซม หากปู 8 แถวก็จะได้ความสูง 2.40 พอดี เพราะถ้าเราปูแค่ 7 แถวก็จะได้ความสูงฝ้าแค่ 2.10 ม.ซึ่งเป็นระดับฝ้าที่เตี้ยเกินไปนั้นเอง และยังทำให้กระเบื้องไม่เหลือเศษทิ้งให้เสียของ หากต้องกรุในปริมาณมากๆก็ช่วยลดงบในการซื้อวัสดุกรุผนังลงได้อีกเยอะเป็นต้น
10. ทิศทางการเปิดประตูภายในบ้าน อะไรนะเรื่องแบบนี้ก็ต้องมีหลักการด้วยเหรอมันจะเวอร์ไปไหม ตอบได้ครับว่ามันสำคัณมาก เพราะถ้าเราติดตั้งประตูผิดทางอาจทำให้น้ำท่วมบ้านกันได้เลยทีเดียวนะครับ จะหาว่าไม่เตือน
เริ่มกันจากประตูหน้าบ้าน ประตูหน้าบ้านด้านที่จะต้องโดนแดดโดนฝนหรือฝนสาด จะต้องเปิดออกนอกบ้านเท่านั้น เพราะการเปิดออกจะบังคับให้บังใบของวงกบประตูเป็นตัวกันน้ำที่จะเข้าบ้านไปโดยปริยายและควรลดระดับพื้นที่ขอบล่างของประตูลงซัก 1 ซม เพื่อกันน้ำย้อนเข้าบ้านนั้นเอง และที่สำคัญคือประตูหน้าบ้านควรกว้างอย่างน้อย 90 ซม เพื่อเผื่อไว้สำหรับตอนขนของชิ้นใหญ่ๆ เข้าบ้านยิ่งเป็นประตูเปิดคู่ยิ่งดีเลย
สร้างตึกสร้างโกดังคลองสาน
สร้างตึกสร้างโกดังคลองสามวา
สร้างตึกสร้างโกดังคลองเตย
สร้างตึกสร้างโกดังคันนายาว
สร้างตึกสร้างโกดังจอมทอง
สร้างตึกสร้างโกดังดอนเมือง
สร้างตึกสร้างโกดังดินแดง
สร้างตึกสร้างโกดังดุสิต
สร้างตึกสร้างโกดังตลิ่งชัน
สร้างตึกสร้างโกดังทวีวัฒนา
สร้างตึกสร้างโกดังทุ่งครุ
สร้างตึกสร้างโกดังธนบุรี
สร้างตึกสร้างโกดังบางกอกน้อย
สร้างตึกสร้างโกดังบางกอกใหญ่
สร้างตึกสร้างโกดังบางกะปิ
สร้างตึกสร้างโกดังบางคอแหลม
สร้างตึกสร้างโกดังบางซื่อ
สร้างตึกสร้างโกดังบางนา
สร้างตึกสร้างโกดังบางพลัด
สร้างตึกสร้างโกดังบางรัก
สร้างตึกสร้างโกดังบางเขน
สร้างตึกสร้างโกดังบางแค
สร้างตึกสร้างโกดังบึงกุ่ม
สร้างตึกสร้างโกดังปทุมวัน
สร้างตึกสร้างโกดังประเวศ
สร้างตึกสร้างโกดังป้อมปราบศัตรูพ่าย
สร้างตึกสร้างโกดังพญาไท
สร้างตึกสร้างโกดังพระนคร
สร้างตึกสร้างโกดังพระโขนง
สร้างตึกสร้างโกดังภาษีเจริญ
สร้างตึกสร้างโกดังมีนบุรี
สร้างตึกสร้างโกดังยานนาวา
สร้างตึกสร้างโกดังราชเทวี
สร้างตึกสร้างโกดังราษฎร์บูรณะ
สร้างตึกสร้างโกดังลาดกระบัง
สร้างตึกสร้างโกดังลาดพร้าว
สร้างตึกสร้างโกดังวังทองหลาง
สร้างตึกสร้างโกดังวัฒนา
สร้างตึกสร้างโกดังสวนหลวง
สร้างตึกสร้างโกดังสะพานสูง
สร้างตึกสร้างโกดังสัมพันธวงศ์
สร้างตึกสร้างโกดังสาทร
สร้างตึกสร้างโกดังสายไหม
สร้างตึกสร้างโกดังหนองจอก
สร้างตึกสร้างโกดังหนองแขม
สร้างตึกสร้างโกดังหลักสี่
สร้างตึกสร้างโกดังห้วยขวาง
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองนครปฐม
สร้างตึกสร้างโกดังกำแพงแสน
สร้างตึกสร้างโกดังดอนตูม
สร้างตึกสร้างโกดังนครชัยศรี
สร้างตึกสร้างโกดังบางเลน
สร้างตึกสร้างโกดังพุทธมณฑล
สร้างตึกสร้างโกดังสามพราน
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองนนทบุรี
สร้างตึกสร้างโกดังบางกรวย
สร้างตึกสร้างโกดังบางบัวทอง
สร้างตึกสร้างโกดังบางใหญ่
สร้างตึกสร้างโกดังปากเกร็ด
สร้างตึกสร้างโกดังไทรน้อย
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองปทุมธานี
สร้างตึกสร้างโกดังคลองหลวง
สร้างตึกสร้างโกดังธัญบุรี
สร้างตึกสร้างโกดังลาดหลุมแก้ว
สร้างตึกสร้างโกดังลำลูกกา
สร้างตึกสร้างโกดังสามโคก
สร้างตึกสร้างโกดังหนองเสือ
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองสมุทรปราการ
สร้างตึกสร้างโกดังบางพลี
สร้างตึกสร้างโกดังบางเสาธง
สร้างตึกสร้างโกดังพระประแดง
สร้างตึกสร้างโกดังพระสมุทรเจดีย์
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองระยอง
สร้างตึกสร้างโกดังนิคมพัฒนา
สร้างตึกสร้างโกดังเขาชะเมา
สร้างตึกสร้างโกดังบ้านฉาง
สร้างตึกสร้างโกดังปลวกแดง
สร้างตึกสร้างโกดังวังจันทร์
สร้างตึกสร้างโกดังแกลง
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองชลบุรี
สร้างตึกสร้างโกดังเกาะจันทร์
สร้างตึกสร้างโกดังบางละมุง
สร้างตึกสร้างโกดังบ่อทอง
สร้างตึกสร้างโกดังบ้านบึง
สร้างตึกสร้างโกดังพนัสนิคม
สร้างตึกสร้างโกดังพานทอง
สร้างตึกสร้างโกดังศรีราชา
สร้างตึกสร้างโกดังหนองใหญ่
สร้างตึกสร้างโกดังเกาะสีชัง
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองสมุทรสาคร
สร้างตึกสร้างโกดังกระทุ่มแบน
สร้างตึกสร้างโกดังบ้านแพ้ว
สร้างตึกสร้างโกดังมหาชัย
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองสมุทร
สร้างตึกสร้างโกดังอัมพวา
สร้างตึกสร้างโกดังบางคนที
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองราชบุรี
สร้างตึกสร้างโกดังบ้านคา
สร้างตึกสร้างโกดังจอมบึง
สร้างตึกสร้างโกดังดำเนินสะดวก
สร้างตึกสร้างโกดังบางแพ
สร้างตึกสร้างโกดังบ้านโป่ง
สร้างตึกสร้างโกดังปากท่อ
สร้างตึกสร้างโกดังวัดเพลง
สร้างตึกสร้างโกดังสวนผึ้ง
สร้างตึกสร้างโกดังโพธาราม
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองฉะเชิงเทรา
สร้างตึกสร้างโกดังคลองเขื่อน
สร้างตึกสร้างโกดังท่าตะเกียบ
สร้างตึกสร้างโกดังบางคล้า
สร้างตึกสร้างโกดังบางน้ำเปรี้ยว
สร้างตึกสร้างโกดังบางปะกง
สร้างตึกสร้างโกดังบ้านโพธิ์
สร้างตึกสร้างโกดังพนมสารคาม
สร้างตึกสร้างโกดังราชสาส์น
สร้างตึกสร้างโกดังสนามชัยเขต
สร้างตึกสร้างโกดังแปลงยาว
สร้างตึกสร้างโกดังเมืองนครนายก
สร้างตึกสร้างโกดังปากพลี
สร้างตึกสร้างโกดังบ้านนา
สร้างตึกสร้างโกดังองครักษ์