กุนซือพันธุ์ถึก ท้าชนทั่วปฐพี

หัวข้อ:

กุนซือพันธุ์ถึก ท้าชนทั่วปฐพี

ใครว่ากุนซือทำได้แค่ฮีลแต่บู๊ไม่เป็น ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ซะแล้วล่ะ เพราะกุนซือสายกายนั้นสามารถทำได้ทุกอย่างกระทั่งชนบอส กุนซือจะมีบทบาทมากทั้งตอนวอร์ และล่าบอสด้วยคุณสมบัติฮีลหมู่ที่แรงเพียงพอต่อเพื่อนร่วมทีม

ในส่วนของวิธีการเล่นนั้นผู้เล่นแต่ละคนอาจมีเทคนิคที่ต่างกันออกไป กุนซือสายกายนี้จะเป็นการเน้นกายเพื่อให้มีเลือดเพียงพอต่อการล่าบอสหรือวอร์ได้สบายๆ ไม่ร่วงตกม้าง่ายจนเกินไปนัก และมีการอัพค่าคุมให้เพียงพอต่อการคุมทหารน้อยหรือรถตามที่ต้องการ

คุมทหารเต็มพิกัด พร้อมแล้วลุย !!!

คุมทหารพร้อมรถก็โหดไปอีกแบบ ยึดเมืองเลยยย

การอัพค่าสแตท

กุนซือสายนี้จะมีการอัพค่าคุมไปประมาณ 200 เพื่อคุมทหารน้อยขั้น 72 ได้ 8 ตัวพอดีหรือคุมรถผสมกับทหารน้อยเพื่อไปวอร์ และล่าบอสได้ แล้วเน้นไปที่ค่ากายเพื่อเพิ่มเลือดและค่าป้องกัน โดยค่าคุมอาจได้เพิ่มอีกจากยศขุนนางซึ่งจะมียศที่เพิ่มค่าคุมให้ด้วยหรืออาจได้จากชุด อาวุธ ส่วนปัญญาหรือตบะจะไม่มีการเน้นมากนัก ซึ่งผู้เล่นบางคนอาจจะไม่อัพปัญญาเลยก็ได้ เพราะสามารถทดแทนได้ด้วยการบวกไม้เท้า หรือพัดให้ได้สูงๆ

ข้อดี

กุนซือสายกายมีข้อดีตรงที่สามารถล่าบอสหรือวอร์ได้ดีกว่าสายปัญญาซึ่งจะเปราะมาก กุนซือสายกายนี้จะมีการอัพค่ากายให้สูงๆ ไว้เพื่อให้มีเลือด และค่าป้องกันที่เยอะขึ้น ทำให้การชนบอสหรือยืนหยัดในวอร์เพื่อคอยฮีลให้เพื่อนในทีมได้ไม่ต้องกังวลว่าจะตกจากหลังม้าให้เสียจังหวะ หรือกระทั่งการล่าบอสคนเดียวก็สามารถทำได้ง่ายๆ

ข้อเสีย

แน่นอนว่าเมื่อเน้นไปที่อัพค่าคุม และกายแล้ว ค่าปัญญาจะต้องน้อยมาก นั่นมีผลทำให้การฮีลเบากว่ากุนซือสายปัญญา เพียงแต่เรื่องนี้อาจไม่นับว่าเป็นข้อเสียมากนักก็ได้ เพราะกุนซือสายกายแม้จะไม่อัพค่าปัญญามาก่อนแต่หากมีไม้ที่บวกสูงๆ ก็เพียงพอต่อการทำให้ฮีลแรงได้แล้ว เช่น +9 ไม้พลอง หรือ +9 ป้ายคุมต่างๆ ทำให้ข้อเสียตรงการที่ฮีลเบาสามารถมีสิ่งชดเชยกันได้ ขอเพียงมีกำลังทรัพย์ในการบวก ^ ^”

บทบาทในการล่าบอส

ชนบอสแล้วคอยฮีล

ในตอนล่าบอสนั้น กุนซือสามารถคุมทหารน้อยได้ 8 คนซึ่งควรเน้นไปที่ทหารระยะประชิดหรือทหารที่สามารถทำค่าดาเมจได้เร็วและแรง เช่น ทวนเทพ ดาบเทพ ในขณะที่รถเช่นรถทะลวงนั้น สามารถนำไปล่าบอสใหญ่ๆ ได้ เพราะมีคุณสมบัติคือถึก และเลือดเยอะพอที่จะชนบอสเหล่านั้นได้ ส่วนตัวเราก็คอยฮีลเท่านั้น และที่สำคัญ อย่าลืมใช้สกิลกายแกร่ง ตามาร และม่านคุ้มกัน เพื่อลดค่าดาเมจที่บอสจะมีต่อเรา และทหารหรือรถของเราด้วย ส่วนสกิลข้อมือเหล็กนั้นตัวเราไม่จำเป็นต้องใช้ ให้บัฟให้ทหาร หรือรถของเราเพื่อเพิ่มค่าดาเมจของเราด้วย

บทบาทในยามสงคราม

รุมกันจัง > <”

ในตอนวอร์นั้น การจัดทีมแต่ละทีมไม่พ้นที่จะต้องมีหน่วยฮีลซึ่งก็คือกุนซือหรือจอมยุทธ์ที่ฮีลแรงๆ อยู่ในทีมด้วย กุนซือนั้นส่วนมากจะถือไม้พลองซึ่งสามารถถือโล่เล็กได้ ทำให้ค่าป้องกันค่อนข้างต่ำ ดังนั้นการเล่นกุนซือสายกายจึงมีประโยชน์ตรงจุดนี้ เพราะจะทำให้มีเลือดเพียงพอที่จะยืนฮีลให้ตัวเอง และเพื่อนในทีมได้นาน รวมทั้งการชุบก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกุนซือจะสามารถใช้สกิลฟื้นชีพที่เพิ่มเลือดได้ถึง 50% ที่ขั้น 10 อีกด้วย ในส่วนของการคุมทหารกับรถยามสงครามนั้น ทหารน้อยสายยิงจะมีประโยชน์มากที่สุดในตอนนี้ เช่น พลองครักษ์ พลธนูกล้า หรือนักลอบสังหารก็ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยมในยามวอร์ หรือคุมรถทะลวงเพื่อแหกประตูเมืองและทำการยึดเมือง

สรุปแล้ว กุนซือสายกายจะมีประโยชน์มากกว่าสายปัญญาที่ถึงแม้จะฮีลแรงแต่เลือดก็น้อยมากทำให้ตายได้ง่ายๆ ในตอนวอร์หรือล่าบอส ในขณะที่สายกายนั้นแม้จะฮีลเบากว่าแต่ก็สามารถชดเชยได้จากการบวกไม้สูงๆดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ซึ่งการฮีลนั้นอาจจะไม่แรงเท่าสายปัญญาโดยตรงแต่ก็เพียงพอต่อการใช้ในการล่าบอส บอท และวอร์