7) เจ็บก่อนแล้วจะเจ๋ง
จริงๆ วันนี้จะเขียนเรื่อง You can be a star. พวกเราทุกคนก็เป็นดาวได้ (ตอนที่ 3) แต่บังเอิญอาจารย์ได้ไปเจอเรื่องที่น่าสนใจที่น่าจะมีประโยชน์ต่อพวกเราทุกคน ตอนเย็นเมื่อวานนี้ ก็เลยขอคั่นรายการเขียนเรื่องนี้ก่อนนะ เดี๋ยวลืม
พวกเราคงเคยได้ยินอักษรย่อ Q ที่มาจากคำว่าเช่น quotient (โคว’เชินท) ที่มีความหมายกว้างๆ คือผลลัพธ์ที่ได้จากเทียบเคียงสิ่งอื่นๆ (ช่างมันเหอะ ไม่ต้องไปสนใจที่มาที่ไปมันนักหรอกครับ) ไอ้เจ้าสารพัด Q นี่ ก็ยกตัวอย่างเช่น IQ (intelligence quotient) ความฉลาดทางสติปัญญา, EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์, PQ (Physical Quotient) ความฉลาดทางกายภาพหรือร่างกาย, SQ(Spiritual Quotient) ความฉลาดทางจิตวิญญาณ, MQ(Moral Quotient) ความฉลาดทางศีลธรรม, AQ(Adversity Quotient, Advancement Quotient) ความฉลาดในการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วแต่นักวิชาการท่านจะประดิษฐ์คำขึ้นมาให้เราได้เรียนรู้กัน
ตัวย่อที่เราคุ้นเคยมากที่สุดก็คือ IQ ซึ่งส่วนใหญ่พวกเราก็มักจะมีกันค่อนข้างเยอะอยู่แล้วใช่ไหมครับ ไม่งั้นก็คงไม่มาเสียเวลาอ่านบทความที่อาจารย์เขียนอยู่นี่หรอก หิ หิ หิ ไอ้เจ้า IQ เนี่ย ถ้าเราไปโรงเรียน ไปมหาวิทยาลัย เรียนปริญญาโท ปริญญาเอก อ่านหนังสือ ฝึกฝนทำแบบฝึกหัดมันก็จะมีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุถูกไหมครับ ซึ่งอาจารย์ว่าพวกเราที่มีช่วงอายุใกล้ๆ กันนี่ นี่คงมี IQ ห่างกันไม่เท่าไรหรอกครับ (เช่นเทียบคนอายุแถว 25-26 ด้วยกัน ไม่ใช่ไปเทียบกับเด็ก 8 ขวบนะ) แต่ค่า Q อีกค่าที่มีความสำคัญมากๆๆๆ ไม่แพ้ IQ ในบางครั้งอาจจะมากกว่าซะด้วยซ้ำไปก็คือ EQ (Emotional Quotient) คำว่า Emotional (อิโม’ชันเนิล) เป็น adjective มีความหมายว่า เกี่ยวกับอารมณ์ สะเทือนอารมณ์ ครับ
เราจะเห็นในหลายๆ ครั้งที่คนที่เรียนจบสถาบันสูงๆ ปริญญาโท ปริญญาเอก เป็นหมอ เป็นนักธุรกิจใหญ่โต ร่ำรวย ก็ทำอะไรไม่ได้เรื่อง เช่น ขี้โมโห ยิงตัวตาย ไปฆ่าคนรักที่ไปมีคนใหม่ ทะเลาแล้วเอามีดแทงกัน ไป post ด่าคนอื่นใน facebook ไปกรีดรถของคนอื่นที่ตัวเองอยากได้แต่ไม่มีปัญญาซื้อ นินทา อิจฉาริษยาพร้อมที่จะทำลายคนที่ได้ดีกว่า แม้คุณพ่อ คุณแม่ บางท่านก็ด่าว่าลูกแรงๆ เมื่อไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองคาดหวังไว้ เช่นเรียนได้เกรดบางวิชาไม่ดี สอบไม่ได้อันดับสูงๆ ของห้อง หรือขัดใจไม่ทำตามสิ่งที่ตัวเองสั่ง (เหมือนชดเชยปมตัวเองในตอนเด็ก) แต่เวลาทำดีกลับไม่คอยชมกันเลยแฮะ
ถ้าจะพูดกันง่ายๆ EQ ก็คือความสามารถที่เราจะมีสติ ควบคุมอารมณ์ และตัดสินใจในการกระทำสิ่งต่างๆ เมื่อต้องเจอเหตุการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดี ซึ่งส่วนใหญ่เวลาเหตุการณ์ดีๆ นี่ไม่ค่อยมีปัญหาหรอกครับ ไม่ว่าจะตัดสินใจหรือทำยังไง แนวโน้มมันก็คงไม่ติดลบแน่นอน แต่เวลาเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีนี่ซิครับ ถ้าตัดสินใจไม่ดี ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ความซวยจะมาเยือนได้ง่ายๆ ซึ่งอาจารย์เชื่อว่าคงมีหลายครั้งในชีวิตที่พวกเรามาคิดย้อนหลังว่า รู้งี้ ตอนนั้นไม่ทำอย่างนั้นดีกว่า ใช่ไหมครับ รวมทั้งตัวอาจารย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งบางครั้งการที่เราไม่รู้จักทนต่อสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะเรื่องที่เราไม่ค่อยชอบ ไม่อยากเจอ การตัดสินใจชั่ววูบอาจเปลี่ยนชีวิตของเราทั้งชีวิตไปเลยนะครับ
ที่เขียนเรื่องนี้ก็เพราะ เมื่อเย็นวานนี้ อาจารย์มีนัดทาน dinner สุดหรู เอ๊ย! ไม่ใช่ คือแบบว่ามีรุ่นพี่โทรมาบอก เฮ้ย..มาช่วยให้คำปรึกษาหน่อย มีน้องจะเข้าประกวด Miss Thailand Universe มาช่วยดู แนะนำให้หน่อยว่าต้องทำไงบ้าง (รุ่นพี่คนนี้เขาเห็นว่า AC’CESS จัดประกวด AC’CESS Fresh Idol แล้วค่อนข้าง work อย่างพี่เบสท์นี่ก็เป็นนางเอกหนังไปแล้ว ส่วนน้องแคร์ น้องครีม นี่ก็เซ็นต์สัญญา Miss Teen Thaniland ปีล่าสุดไปเรียบร้อยแล้ว ก็นี่ล่ะครับคือสิ่งที่อาจารย์บอกกว่าทุกคนก็เป็นดาวได้ไงครับ เอาไว้หัวข้อนี้เราจะพูดกันต่อไปนะครับ)
คุยไปคุยมา ปัญหาก็คือขาด sponsor ส่งประกวด แบบจะให้ โรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษ อาจารย์ชัชชัย หรือ AC’CESS ส่งเข้าประกวด ชื่อก็คงจะยาวเกินสายสะพาย มันคงดูตลกๆ แหม่งๆ สุดท้าย ก็เลยได้รุ่นน้องคนหนึ่ง (อายุซัก 30 ปีกว่าๆ ) น้องในที่นี้หมายถึงอายุน้อยกว่าอาจารย์นะครับ ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริษัทแห่งหนึ่ง มาเป็น sponsor ก็ดูแล้วน่าจะ OK กว่า น้องคนนี้อาจารย์ไม่รู้จักมาก่อนนะครับ แต่พอรุ่นพี่คนที่มาหาอาจารย์ โทรไป รุ่นน้องคนนี้ก็รีบขับรถมาหาและตกลงเซ็นต์เอกสารเป็น sponsor ให้ทันที ครั้งแรกที่อาจารย์เห็นนี่ ความรู้สึกแรกของอาจารย์ดูว่าเขาเป็นคนที่นอบน้อม ดูค่อนข้างซื่อ และชุดที่ใส่มานี่แบบนุ่งกางเกงปีศาจแดง แมนยู เสื้อยืด รองเท้าแตะ ADDA มาเลยนะครับ ดูแล้วเหมือนอาเจ็กขายโจ๊กหน้าปากซอยมากกว่า แต่โทษที่ครับเขาเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกเศษเหล็กไปหลอมในหลายๆ ประเทศ มีเงินนี่ไม่น่าต่ำกว่า 5-6 ร้อยล้านนะครับ
รุ่นน้องคนนี้บอกว่านี่เพิ่งไปประชุมกับลูกน้องเสร็จในห้องเซาวน่า พอรุ่นพี่โทรมาปุ๊บก็รีบขับรถมาหาเลย เลยไม่ได้เตรียมตัว และที่มาทันทีนี่ ก็เพราะรุ่นพี่ของอาจารย์มีบุญคุณต่อเขา บอกให้เขาทำอะไร เขาทำให้ได้ทั้งนั้น แล้วแต่บัญชา ซึ่งนี่ก็คือคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของคนที่ประสบความสำเร็จ คือ gratitude (แกรท’ทิทูด) ความกตัญญูรู้คุณ เหมือนที่หนังสือ The Secret เน้นตลอดทั้งเล่มไงครับ อ้อ… ลืมบอกว่ารุ่นพี่คนนี้ซึ่งจริงๆ ซึ่งก็มีฐานะดีมากๆ ก็มีส่วนช่วยให้อาจารย์วางแผนอิสระทางการเงิน ทำให้อาจารย์มั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุดในอีก 10 ปีข้างหน้า อาจารย์จะมีรายได้จากเงินปันผลทุกๆ เดือน ในระดับที่น่าพอใจโดยไม่ต้องทำงานตลอดชีวิต อาจารย์ถึงได้มาเจอและรู้จักกับรุ่นน้องคนนี้ เป็นระบบเครือข่ายเพิ่มขึ้นอีก ก็เป็นไปตาม Law of Attraction: กฎแห่งแรงดึงดูด หรือ Like attracts Like. ซึ่งก็คือคนประเภทเดียวกันจะดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้ามาหาไงครับ
รุ่นน้องคนนี้เล่าว่าตอนแรกๆ เรียนจบเริ่มทำธุรกิจ แล้วประสบความสำเร็จ จึงฮึกเหิมขยายกิจการ จนบริหารงานผิดพลาด ถูกโกง จนเป็นหนี้ระดับร้อยล้านใกล้ล้มละลาย จึงหนีออกนอกประเทศ แต่รุ่นพี่คนนี้ให้คำแนะนำ ให้มาสู้กับปัญหา ค่อยๆ แก้กันไปด้วยความซื่อสัตย์ เขาจึงกลับมาต่อสู้ อดทน และฝ่าฟัน ค่อยๆ ทะยอยจ่ายหนี้ ด้วยความสามารถที่มี ธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้เลยให้แปลงหนี้เป็นหุ้นส่วนกันเลยครับ จนทุกวันนี้ประสบความสำเร็จอีกครั้ง และเล่าให้อาจารย์ฟังว่าเขามีความตั้งใจที่จะทำให้ตัวเองมีหนึ่งพันล้านให้ได้ก่อนอายุสี่สิบ ซึ่งอาจารย์ว่าเขาน่าจะทำได้ ดูจากวัย ความตั้งใจ และเวลาที่มี เหมือนที่อาจารย์บอกในห้องเรียนไงครับ ว่า Time is money. เวลานี่ก็เป็นทรัพย์สินที่สำคัญนะครับ ใช้แล้วมันก็หมดไปเรื่อยๆ เหมือนกัน นี่คือความสำคัญของ EQ ถ้าเป็นบางคนที่มี EQ ต่ำๆ ป่านนี้บางคนหนีไปเลยทิ้งหนี้สินไว้ให้คนข้างหลังรับเคราะห์ไปอีก บางคนก็ฆ่าตัวตายไปเลย เหมือนที่พวกเราเห็นตามข่าวกันแทบทุกวี่ทุกวัน รุ่นน้องคนนี้ มี EQ ที่ดี เมื่อเขาเจอกับอุปสรรคก็นำมาเก็บเป็นประสบการณ์ อดทนเพื่อแก้ไข และปรับรุงไม่ให้สิ่งนั้นเกิดซ้ำขึ้นอีก ทำให้ยากที่เขาจะกลับตกต่ำไปเหมือนเดิมอีก
เขาบอกว่าเดิมครอบครัวก็ไม่ได้มีฐานะดีอะไร จบปริญญาตรีทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์มา ความรู้เรื่องการเงิน การบริหารก็ไม่มี ไม่รู้จักใครในด้านธุรกิจที่ทำเลย อาศํยหาข้อมูล ไปติดต่อ และหาประสบการณ์จนนานเข้าได้รับความเชื่อถือ เป็นคนกลางในการติดต่อซื้อขาย และที่สำคัญสิ่งที่ต้องใช้มากที่สุดในการทำธุรกิจก็คือภาษาอังกฤษ เขาเล่าว่าเขาไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย ไม่ได้เรียน inter แต่ถ้าใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้ อ่านไม่ได้ ตกลงการค้าไม่ได้ ธุรกิจก็พัง ดังนั้น ไม่ได้ ก็ต้องได้ ต้องฝึกจนคล่อง สังเกตไหมครับ ว่าถ้าเราอยากมีรายได้ที่ค่อนข้างสูง เราต้องทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ หรือแม้แต่เป็นลูกจ้าง บริษัทต่างชาติหรือบริษัทที่ทำธุรกิจกับต่างชาติก็มักจะให้เงินเดือนผลตอบแทนที่สูงกว่า เพราะเราอย่าลืมว่าถ้าเทียบกับทั้งโลกนี่ประเทศไทยของเรานี่เล็กนิดเดียว มูลค่าบริษัททั้งหมดในเครือ ปตท ของเราทั้งๆ ที่มีทั้งโรงกลั่นน้ำมัน แท่นขุดเจาะ ปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีต่างๆ ยังเล็กกว่าบริษัท Google ที่ให้บริการเน้นเฉพาะข้อมูลอยู่มากเลยนะครับ เพราะ Google นี่เขาหากินได้กับคนทั้งโลก และภาษาสากลกลางที่เขายอมรับกันคือภาษาอังกฤษครับ ดังนั้นถ้าหากเราต้องการประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่นๆ มีความฝันอันยิ่งใหญ่ Think Big ต้องรู้จักวางแผนให้ดี มองไปในอนาคต พิจารณาว่าสิ่งใดที่จะเป็นสิ่งสนับสนุนเราจริงๆ ไม่ใช่เรียนมั่ว ให้น้ำหนักทุกวิชา หรือทุกเรื่องเท่ากันไปหมด ใครพูดอะไรก็เชื่อ ก็ฟังไปหมด มีเหตุและผล อย่าเอาแต่ความชอบหรืออารมณ์อย่างเดียว ในระยะยาวเราน่าจะไปได้ไกลกว่าคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันนะครับ
สรุปง่ายๆ นอกจากภาษาแล้ว EQ นี่สำคัญมากๆ นะครับ ทุกครั้งที่เจออะไรแย่ๆ ฝึกยับยั้งชั่งใจ อย่าไปโกรธอะไรมากมายนะครับ ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ปล่อยวางอะไรได้สบายๆ เอง โกรธได้แต่อย่าโกรธนาน แต่ถ้าให้ดีอย่าโกรธเลยจะดีกว่านะครับ
อ้อ… วันนั้นอาจารย์ต้องขอบคุณลูกศิษย์คนสำคัญคือ น้องกิจ ที่ตอนนี้เรียนอยู่ปี 1 เศรษฐศาสตร์ inter ธรรมศาสตร์ ที่มาในเย็นวันนั้นด้วย ขอบคุณที่มาช่วยงานอาจารย์ในหลายๆ เรื่องนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงให้น้องอป AC’CESS Fresh Idol 2010 คนล่าสุดที่ไปแข่ง Thailand’s Got Talent จนเข้าไปได้ในรอบลึก หรือติดต่องานด้านอื่นๆ ให้อาจารย์ และที่สำคํญขอบตุณน้องๆ ลูกศิษย์ AC’CESS ทุกๆ คนที่น่ารัก เป็นแรงผลักดันให้อาจารย์ยังมีไฟในการเรียนรู้ในด้านต่างๆ อยู่ครับ ขอบคุณจริงๆ