วัดโบสถ์แจ้ง
สถานที่ตั้ง
วัดโบสถ์แจ้ง ตำบลตลาดน้อย อำเภอบ้านหมอ
จังหวัดสระบุรี รหัสไปรษณีย์ ๑๘๑๓๐๐
โทร. ๐๓๖-๓๐๐๗๑๖ ๐๘๑-๓๗๖๘๖๙๙
โทรสาร. ๐๓๖-๒๖๑๕๕๔ เมลล์. Bost.wat@hotmail.com
วัดโบสถ์แจ้งตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๔๙ บ้านโคกกะเดื่อง หมู่ที่ ๕ ตำบลตลาดน้อย อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย
พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบสูง มีลำคลอง และถนนตัดผ่าน ทั้งทางด้านทิศใต้ และทิศเหนือ
ประวัติวัดโบสถ์แจ้ง
เกิดขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับมาและก็เข้าสู่สงครามไทยพม่าสู้รบกัน เมื่อเป็นสงครามกันขึ้น หรือเมื่อสงครามเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ไหนๆก็ตาม เป็นหลักธรรมดาอยู่เอง ว่าทั้งฝ่ายชนะและฝ่ายพ่ายแพ้ก็ต้องประสพซึ่งความพินาศย่อยยับเสียหายมากมาย ทั้งทรัพย์สินสิ่งของประชาชนพลเมืองต้องมาล้มตายบาดเจ็บพิการและสูญหายเกือบเสมอกันและศิลปะวัฒนธรรม ที่เคยเจริญรุ่งเรืองมา ก็จะค่อยๆพากันเสื่อมโทรมลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และก็เป็นไปตามหลักธรรมขององค์พระบรมศาสดา ที่ตรัสไว้ว่าสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนั้นมีเจริญและเสื่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปดังนี้
วัดโบสถ์แจ้ง เดิมทีนั้นชื่อวัดโบสถ์ ตั้งอยู่ในเขตตำบลตลาดน้อย อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี และเดิมทีนั้นในหมู่บ้านนี้มีวัดร้างอยู่ ๕ วัด ด้วยกันคือ ๑.วัดโบสถ์ ๒.วัดหลวง ๓.วัดสุด ๔.วัดขวิด ๕.วัดแจ้ง การปกครองคณะสงฆ์ในสมัยโน้น ขึ้นอยู่กับเจ้าคณะมณฑลเป็นผู้ดูแล ดังนั้นประมาณปี พ.ศ. ๒๓๑๔ หลังเสียกรุงศรีอยุธยาลงไม่นาน เจ้าคณะมณฑล ได้มอบหมายคำสั่งให้หลวงปู่ทัด ไปทำการมาบูรณปฏิสังขรณ์ใน ๕ วัด โดยเลือกเอาวัดหนึ่ง ให้เป็นวัดที่ถูกฟื้นฟู และมีพระสงฆ์สามเณรอยู่ประจำ เพื่อที่จะได้ให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลทางพระพุทธศาสนา ดังนั้นหลวงปู่ทัดจึงเดินทางมาดู และเห็นวัดโบสถ์นี้มีความร่มรื่นดีและมีโบสถ์ร้างตั้งอยู่ ถือว่าเป็นทำเลภูมิประเทศสงบสงัดดี การเดินทางในสมัยนั้นใช้เรือพายเป็นพาหนะกันเป็นหลักตามสภาพของกาลสมัย ความเจริญด้านวัตถุยังไม่เป็นเช่นทุกวันนี้ เมื่อหลวงปู่ทัดเลือกเอาวัดโบสถ์เป็นวัดที่จะพัฒนาแล้ว ก็ไปที่วัดพระพุทธบาท เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทและตั้งจิตอธิษฐาน ถ้าแม้นมีบุญมีวาสนาอยู่อยู่คู่วัดโบสถ์แล้ว ก็ขอให้การบูรณปฏิสังขรณ์เป็นไปด้วยความราบรื่นโดยตลอดด้วยเถิดจากนั้นแล้ว วัดโบสถ์ก็ค่อยเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับจนกระทั่งปัจจุบัน
อนึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ทางวัดโบสถ์ได้ขอวัดแจ้งซึ่งอยู่ติดกับวัดโบสถ์ มาบูรณปฏิสังขรณ์ และได้ขออนุมัติจากทางกรมการศาสนา และได้รับอนุมัติอนุญาตให้รวมเป็นวัดเดียวกัน แต่ต้องคงชื่อเดิมไว้ ดั้งนั้นจึงต้องเป็นวัดโบสถ์แจ้ง ตั้งแต่บัดนั้นเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้
ลักษณะของชุนชน
ลักษณะของชุนชนเป็นชุมชนนอกเมืองอยู่ในชนบท มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายส่วนมากครอบครัวขนาดใหญ่ มีสัญชาติไทย เชื้อชายไทย และนับถือศาสนาพุทธ มีความยึดมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี มีความรักใคร่สมัครสมานสามัคคี และมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรทำนา รับจ้างและค้าขาย รายได้ของ ประชาชนต่อคน ประมาณ ๖๐,๐๐๐ – ๗๐,๐๐๐ บาทต่อปี / คน
ปัจจุบัน ความเร่งด่วน ความจำเป็นในการประกอบอาชีพ ทำให้ผู้ปกครองไม่มีค่อยมีเวลาเลี้ยงดูบุตร จึงจำเป็นต้องทิ้งภาระการเลี้ยงดูให้อยู่กับญาติผู้ใหญ่ดูแลแทน
สถานภาพ เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ปูชนียสถานของวัดโบสถ์แจ้ง
วิหารวัดแจ้ง(วิหารหลวงพ่อบัวขาว)
วิหารสร้างขึ้นประมาณช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แต่ไม่มีใครทราบปีที่สร้างอย่างแท้จริง แต่เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านตำบลตลาดน้อย พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารมีสีขาว ชาวบ้านจึงขนานนามท่านว่าหลวงพ่อบัวขาว และยังมีความเชื่อที่ได้ยินจากคนเฒ่าคนแก่ว่าหากใครมาสร้างหลังคาปิดวิหาร ฟ้าจะผ่าทุกครั้งไป ทุกวันจะมีชาวบ้าน ประชาชนมาเคารพกราบไหว้ ขอพร ขอลาภสักการะอยู่บ่อยๆ
อาคารเสนาสนะ วัดโบสถ์แจ้ง
อุโบสถวัด โบสถ์แจ้ง สร้างแล้ว
เสร็จ เมื่อราว พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้รับ
พระราชทานวิสุคามสีมา พ.ศ. ๒๕๐๙
เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๔๐ เมตร ยาว
๘๐ เมตร เป็นอาคาร โครงสร้างก่ออิฐ
ถือปูน
ศาลาการเปรียญวัดโบสถ์แจ้ง ลักษณะ
เป็นทรงไทยสองชั้น เดิมกว้าง ๘ เมตร ยาว
๒๘.๔๕ เมตร ภายหลังต่อเติมด้านข้างอีก
ปัจจุบันกว้าง ๑๕.๓๐ เมตร ยาว ๒๘.๔๕
เมตร ชั้นล่างพื้นปูหินอ่อน ศาลาการเปรียญของ
วัดโบสถ์แจ้งมีลักษณะพิเศษกว่าที่อื่นคือเสา
ศาลาเป็นเสาต้นเดียวตั้งแต่โคนต้นจรดหลังคา
สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๕
โรงเรียนปริยัติธรรม วัดโบสถ์แจ้งได้ดำเนินการ
ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓
ลักษณะทรงไทย ก่ออิฐถือปูนหลังคากระเบื้อง
พื้นหินอ่อน กว้าง ๑๐.๗๐ เมตร
ยาว ๒๒.๘๐ เมตร
วิหารอดีตเจ้าอาวาส เป็นทรงไทย ชั้นเดียว ติด
กระจกรอบด้าน พื้นกระเบื้อง หลังคามุงกระเบื้อง
กว้าง ๑๐.๐๐ เมตร ยาว ๑๓.๕๐ เมตร
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งรูปเหมือนไฟเบอร์กล๊าสของ
หลวงพ่อพระครูธรรมกิจจานุกูล อดีตเจ้า
อาวาสวัดโบสถ์แจ้ง และรูปเหมือนอดีตเจ้า
อาวาสวัดโบสถ์แจ้งทุกรูป
ศาลาฌาปนสถาน สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑
เป็นแบบทรงไทยชั้นเดียวยกพื้น ก่ออิฐถือปูน
หลังคากระเบื้อง พื้นหินอ่อน
ฌาปนสถาน (เมรุ) เป็นแบบก่ออิฐถือปูน พื้นหิน
อ่อน กว้าง ๘.๗๐ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตร
ความสูงถึงยอด ๒๒.๐๐ เมตร
กุฎีสงฆ์ แบบทรงไทยสองชั้น ชั้นบนเป็น
ไม้สักฝาเฟี้ยม ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน พื้นปู
กระเบื้อง
ลำดับเจ้าอาวาส
มีเจ้าอาวาสทั้งองค์ปัจจุบันนี้นั้น ๖ รูป ด้วยกันคือ
๑. หลวงปู่
๒. พระครูศรีสรณารักษ์
๓. พระครูสมหาธรรมวิทิต( พระอุปัชฌาย์แฟง)
๔. พระครูกสิณสังวร ( ปาน ปภสฺสโร )อดีตเจ้าคณะอำเภอบ้านหมอ
๕. พระครูธรรมกิจจานุกูล ( สมบุญ ปุญฺญวฑฺฒโน ) พ.ศ. ๒๕๓๑ - ๒๕๔๘
๖. พระครูโอภาสธรรมกิตติ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ - ปัจจุบัน และยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลตลาดน้อย โดยมีพระสมุห์ปัญญา ปญฺญาคโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
พระอุโบสถ