ซื่อ บื้อ อาจเป็นสรรพนามที่คุณเคยใช้เรียก ตูบประจำบ้านเวลาที่คุณสั่งสอนอะไรแล้วรู้สึกว่าไม่ได้ดั่งใจ ! แต่กี่ครั้งมาแล้วแหละที่คุณต้องยอมแพ้ให้กับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือ รือร้น สายตาที่เว้าวอน อุ้งเท้าที่คอสะกิดขาคุณ นั่นเพราะ แม้สุนัขที่ขึ้นชื่อว่าสมองเล็กที่สุดในโลกก็ยังสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้
หนึ่ง ในเหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสุนัขในฐานะเพื่อนแท้และ สัตว์เลี้ยงจึงยืนยันมาได้หลายพันปีโดยไม่มีท่าทีเสื่อมคลาย คือ วิธีการสื่อสารที่ทั้งสองสายพันธุ์ต่างก็เข้าใจกันดี เมื่อสุนัขคาบลูกเทนนิส มาวางตรงหน้าคุณ คุณก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าตูบจอมแสบซ่ากำลังบอกคุณว่า เจ้านายจ๋า ได้เวลาเล่นกับผมแล้วนะ มาเล่นกันเถอะ ประการต่อมาคือ สุนัขนั้นเรียนรู้พฤติกรรมที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้อีกไม่รู้จบ
แต่ ถึงกระนั้นก็ตาม การสื่อสารของพวกมันผ่านภาษากาย ท่าทางในแบบสุนัขซึ่งเข้าใจได้ไม่อยาก โปรดจำไว้ว่า วิธีการสื่อสารของพวกมันนั้นแตกต่างจากวิธีที่มนุษย์อย่างเราสื่อสารกันเอง การสื่อสารในแบบหมาๆ เป็นผลมาจากความสามารถในการมองเห็นของสุนัข ที่มองเห็นแสงน้อยกว่ามนุษย์ ส่งผลให้ทำให้พวกมันตอบสนองกับสีสันต่างๆ และยังสามารถขยับหูไปมาอย่างรวดเร็ว สามารถหาที่มาของเสียงได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังมีจมูกที่เป็นสุดยอดการดมกลิ่นอีกด้วย
นอกเหนือจากความแตกต่างทางกายภาพ แล้ว ความแตกต่างในเรื่องของกระบวนการทางจิตใจก็แปลกพอๆ กัน ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงเข้าใจในเหตุและผลจากการปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ต่างออกไป ความแตกต่างที่สังเกตได้ง่ายที่สุด มาจากทฤษฎีสุดคลาสสิคอย่างเรื่องของสิ่งกระตุ้น ตามทฤษฎีกล่าวไว้ว่า สิ่งกระตุ้นทำให้เกิดการตอบสนอง มนุษย์เราเองก็สามารถสร้างแรงกระตุ้นขึ้นได้เองเช่นเดียวกับภาวะที่ร่างกายของ เราป่วย ความเจ็บป่วยกระตุ้นให้เราต้องหายารับประทานหรือไปพบแพทย์ แต่สำหรับสุนัขแล้ว แรงกระตุ้นนั้นมีพลังอำนาจต่อความรู้สึกของพวกมันมากยิ่งขึ้น และยังถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกสุนัขอีกด้วย
นอกจาก เรื่องแรงกระตุ้นแล้ว การกำหนดเงื่อนไขขึ้นมา เป็นอีกจุดสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจถึงเหตุและผล ในการเสริมแรงกระตุ้นเชิงบวก เช่น การชมเชยสุนัข การลูบหรือตบเบาๆ บริเวณสีข้างลำตัวสุนัข และการเสริมแรงกระตุ้นเชิงลบ เช่น การใช้เสียงเข้ม ต่ำ การดึงปลอกคอเพื่อให้สุนัขหยุด หรือการไม่ให้อาหารจนกว่าสุนัขจะยอมเชื่อฟัง
ตัวอย่างการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น ของสุนัข เช่น เมื่อใดก็ตามที่คุณพาสุนัขออกไปเล่นขว้างลูกเทนนิสนอกบ้า และคุณเลือกพาสุนัขออกทางประตูหลัง และเมื่อใดที่คุณปล่อยให้สุนัขได้วิ่งเล่นอย่างอิสระโดยไม่มายืนคุมอยู่ใกล้ๆ สุนัขจะเรียนรู้ได้ในเวลาอันรวดเร็วและเข้าใจว่า หากเจ้านายของพวกมันพาเดินออกประตูหลัง แสดงว่า พวกมันกำลังจะได้เล่นขว้างลูกเทนนิส และมันจะเดินพ้นประตูบ้านออกมาได้ก็ต่อเมื่อเห็นคุณถือลูกเทนนิสไว้ในมือเท่า นั้น
สิ่งสำคัญที่จะทำให้การเรียนรู้ของสุนัขส่งผลดีต่อการฝึกต่อไป คือ การใช้น้ำเสียงและท่ามือประกอบคำสั่งที่แน่นอน เสียงดังฟังชัด ซึ่งจะช่วยให้สุนัขเกิดการเรียนรู้ในพฤติกรรมอื่นๆ อีก เช่น นอน กลิ้ง ปล่อย มานี่ นั่งหรือคอย
แต่ ปัญหาหนึ่งที่รบกวนความใจเย็นของคนเป็นเจ้าของสุนัขหนีไม่พ้นเรื่องสุนัขชอบกินของ ที่หล่นอยู่ตามพื้น เนื่องจากสุนัขนั้นไม่สามารถเชื่อมโยงเหตุและผลจากอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นหลัง จากกินเศษอาหารที่ตกหล่นอยู่ตามพื้นได้ภายใน 2-3 ชั่วโมงหรือนิสัยตะกละกินไม่เลือก ซึ่งหากจะแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก
ต่อให้สุนัขของคุณจะมี สายพันธุ์ที่ว่าฉลาดที่สุดในโลกหรือ บื้อที่สุดในโลก คุณจะพบว่าสามารถสอนให้พวกมันรู้จักหรือเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากมายไม่จบสิ้น ตราบใดที่คุณสอนให้มันเข้าใจได้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ