คู่มือแนวข้อสอบ กรมบัญชีกลาง ทุกตำแหน่งที่เปิดสอบ อัพเดทล่าสุด
จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบกรมบัญชีกลาง
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ
- ความรู้เกี่ยวกับกรมบัญชีกลาง
- แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมบัญชีกลาง
- แนวข้อสอบ ข่าว และเหตุการณ์ปัจจุบัน การเมืองเศรษฐกิจและสังคม
- สรุป + แนวข้อสอบพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ
นิติกรปฏิบัติการ
นักวิชาการคลังปฏิบัติการ
นักบัญชีปฏิบัติการ
นักวิชาการคอมพิวเตอร์
****1. ไฟล์ PDF ส่งทางอีเมลล์ ราคา 399 บาท จัดส่งทุกวันถึงเที่ยงคืน ****
****2. สั่งปรินท์ เป็นหนังสือ ราคา 899 บาท (ส่ง EMS ทางไปรษณีย์)***
@@@จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบ update ใหม่ล่าสุดของตำแหน่งที่กำลังเปิดสอบ@@@
รายละเอียดภายในไฟล์ประกอบด้วย :
- แนวข้อสอบทุกวิชาที่ใช้สอบของแต่ละหน่วยงาน
- รวมข้อสอบเก่าเด็ดๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก พร้อมเฉลย
- รวบรวมจากหนังสือมากกว่าสิบเล่ม และรุ่นพี่ที่สอบจากสนามจริง
- รายละเอียดเอกสารแนวข้อสอบ จดลิขสิทธิ์ถูกต้อง
******แนวข้อสอบความเหมาะสมกับตำแหน่ง เลือกตามตำแหน่งที่สอบ*******- แนวข้อสอบทุกวิชาที่ใช้สอบของแต่ละหน่วยงาน
- รวมข้อสอบเก่าเด็ดๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก พร้อมเฉลย
- รวบรวมจากหนังสือมากกว่าสิบเล่ม และรุ่นพี่ที่สอบจากสนามจริง
- รายละเอียดเอกสารแนวข้อสอบ จดลิขสิทธิ์ถูกต้อง
สนใจสอบถาม/ติดต่อสั่งซื้อ :
โทร : 080 450 5746Line ID : muktit
E-mail : vijjadh@gmail.com
Facebook : https://www.facebook.com/ebookkhosob
แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมบัญชีกลาง
- ข้อใดคือเว็ปไซด์ของกรมบัญชีกลาง
ข. http:// www.dgr.go.th ง. http:// www.cgd.go.th
ตอบ ง. http:// www.cgd.go.th
- ข้อใดคือชื่อย่อของกรมบัญชีกลาง
ข. กบ. ง. บชก.
ตอบ ค. บก.
- อธิบดีกรมบัญชีกลางคนปัจจุบันคือใคร
ข. นายมนัส แจ่มเวหา ง. นายอุทิศ ธรรมวาทิน
ตอบ ข. นายมนัส แจ่มเวหา
- ปัจจุบันรองอธิบดี กรมบัญชีกลางมีกี่คน
ข. 2 คน ง. 4 คน
ตอบ ง. 4 คน ได้แก่
1. นางกิตติมา นวลทวี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง
2. นางจินดา สังข์ศรีอินทร์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง
3. นายณพงศ์ ศิริขันตยกุล รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง
4. น.ส.ชุณหจิต สังข์ใหม่ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง
- กรมบัญชีกลางได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อใด
ข. 7 ตุลาคม พ.ศ. 2442 ง. 7 กันยายน พ.ศ.2433
ตอบ ค. 7 ตุลาคม พ.ศ.2433
เดิมกรมบัญชีกลางมีชื่อว่าอะไร
ก. กรมสารบัญชี ค. กรมกระสาปนสิทธิการ
ข. กรมศุลกากร ง. กรมพระคลังกลาง
ตอบ ก. กรมสารบัญชี
- กรมบัญชีกลาง เกิดจากการรวมกันของกรมใดในอดีต
ข. กรมตรวจกับกรมกระสาปนสิทธิการ
ค. กรมส่วยกรมสารบัญชี
ง. กรมสรรพภาษีกรมสารบัญชี
ตอบ ก.กรมตรวจกับกรมสารบัญชี
- ข้อใดคือชื่อภาษาอังกฤษกรมกรมบัญชีกลาง
ข. Department of Public Works and Town & Country Planning
ค. TheComptroller General’s Department
ง. Department The Customs
ตอบ ค. The ComptrollerGeneral’s Department
- กรมบัญชีกลางตั้งอยู่ที่เขตใดของกรุงเทพมหานคร
ข. ลาดพร้าว ง.พญาไท
ตอบ ง. พญาไท
- วันสถาปนากรมบัญชีกลางครั้งแรกตรงกับวันใด
ข. 15 กันยายน 2549 ง. 15 ตุลาคม 2549
ตอบ ก.18 กันยายน 2459
- ข้อใดคือวิสัยทัศน์ของกรมบัญชีกลาง
ข. กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ค. เป็นศูนย์ข้อมูลสารสนเทศทางการคลัง
ง. บริหารเงินสดภาครัฐบริหารการรับ-จ่ายเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบ
ตอบ ข. กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- ข้อใดคือพันธกิจของกรมบัญชีกลาง
ข. กำหนดมาตรฐานหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติด้านกฎหมายการคลังการบัญชีการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ
ค. บริหารเงินสดภาครัฐบริหารการรับ-จ่ายเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
พันธกิจ ( Mission )
- กำหนดมาตรฐานหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติด้านกฎหมายการคลังการบัญชีการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐการตรวจสอบภายในค่าตอบแทนและสวัสดิการ เงินนอกงบประมาณลูกจ้างและความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้สอดคล้องกับการรักษาวินัยและความยั่งยืนทางการคลัง
- บริหารเงินสดภาครัฐบริหารการรับ-จ่ายเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- สนับสนุนการบริหารเศรษฐกิจการคลังในส่วนภูมิภาค
- พัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรภาครัฐทางด้านการบริหารการเงินภาครัฐ
- เป็นศูนย์ข้อมูลสารสนเทศทางการคลัง
- ข้อใดคือค่านิยมของกรมบัญชีกลาง
ข. การยึดมั่นและยืนหยัดทําในสิ่งที่ถูกต้อง
ค. ความซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบ
ง. การปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
ตอบ ก.ซื่อสัตย์โปร่งใส บริการด้วยใจ รักษา
- ประเด็นยุทธศาสตร์กรมบัญชีกลาง มีกี่ข้อ
ข. 2 ข้อ ง. 5 ข้อ
ตอบ ค. 3 ข้อ
- ข้อใด ไม่ใช่ ประเด็นยุทธศาสตร์กรมบัญชีกลาง
ข. การปรับภาวการณ์คลังให้เข้าสู่สมดุล
ค. การเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กร
ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน
ตอบ ง.การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน
- ปัจจุบันกรมบัญชีกลางเป็นกรมสังกัดกระทรวงใด
ข. กระทรวงมหาดไทย
ค. กระทรวงแรงงาน
ง. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ก. กระทรวงการคลัง
17. ข้อใดคือเว็ปไซด์ของกระทรวงการคลัง
ก. http:// www.moac.go.th ค. http://www.moi.go.th
ข. http://www. mof.go.th ง. http://www.mnre.go.th
ตอบ ข. http://www. mof.go.th
18. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนปัจจุบันคือใคร
ก. นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ค.นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์
ข. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ง. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
ตอบ
19. ปลัด กระทรวงการคลัง คนปัจจุบันคือใคร
ก. นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ค. นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม
ข. นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ง. นายพงศ์ภาณุ เศวตรุนทร์
ตอบ ค. นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม
วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / ยุทธศาสตร์
****************************
วิสัยทัศน์ ( Vision )
กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พันธกิจ ( Mission )
- กำหนดมาตรฐานหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติด้านกฎหมายการคลังการ บัญชีการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐการตรวจสอบภายในค่าตอบแทนและสวัสดิการ เงินนอกงบประมาณลูกจ้างและความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้สอดคล้องกับการรักษาวินัยและความยั่งยืนทางการคลัง
- บริหารเงินสดภาครัฐบริหารการรับ-จ่ายเงิน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- สนับสนุนการบริหารเศรษฐกิจการคลังในส่วนภูมิภาค
- พัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรภาครัฐทางด้านการบริหารการเงินภาครัฐ
- เป็นศูนย์ข้อมูลสารสนเทศทางการคลัง
ค่านิยม
ซื่อสัตย์โปร่งใส บริการด้วยใจ รักษา
ประเด็นยุทธศาสตร์
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1
การเป็นกลไกหลักของนโนยบายการคลังที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (Fiscal Stimulus)
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2
การปรับภาวะการคลังให้เข้าสู่สมดุล (Fiscal Consolidation)
ประเด็นยุทธสาสตร์ที่ 3
การเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กร (Strengthen the CGD Organization)
ประวัติ
********************
ใน พ.ศ.๒๔๑๖ (จ.ศ.๑๒๓๕) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงตราพระราชบัญญัติ สำหรับหอรัษฎากรพิพัฒน กำหนดให้มีเจ้าพนักงานบาญชีกลางเพื่อทำหน้าที่จัดบัญชีอากรทั้งปวงบรรดาที่ขึ้นอยู่ในหอรัษฎากรพิพัฒนให้เป็นหลักฐาน จะได้ทราบฐานะการเงินของแผ่นดินได้แน่นอน โดยตั้งอยู่ในหอรัษฎาพิพัฒน ในพระบรมมหาราชวัง
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๑๘ (จ.ศ. ๑๒๓๗) ได้ทรงตราพระราชบัญญัติกรมพระคลังมหาสมบัติว่าด้วยกรมต่าง ๆ ซึ่งจะเบิกเงินส่งเงิน เหตุผลในการตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นมีว่า การภาษีอากรซึ่งเป็นเงินขึ้นสำหรับแผ่นดินได้จับจ่ายราชการ ทนุบำรุงบ้านเมือง และใช้จ่ายเป็นเบี้ยหวัดเงินเดือนข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือนนั้น พระคลังมหาสมบัติยังไม่มีอย่างธรรมเนียมรับธรรมเนียมจ่ายเงินให้เรียบร้อย เงินจึงได้ติดค้างเจ้าภาษีนายอากรเป็นอันมาก ไม่พอจับจ่ายใช้ราชการทนุบำรุงบ้านเมืองให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขยิ่งขึ้นได้ จึงทรงพระราชดำริปรึกษาพร้อมด้วยท่านเสนาบดีและเคาน์
ซิลลอร์ออฟสเตด ตั้งเป็นพระราชบัญญัตินี้ขึ้น หลักการของพระราชบัญญัตินี้คือ การจัดระเบียบราชการในกรมพระคลังมหาสมบัติให้มีอธิบดีเป็นประธาน และรองอธิบดีช่วยราชการท่านผู้เป็นอธิบดี มีเจ้าพนักงานใหญ่ ๕ นาย คือ ปลัดอธิบดีนาย ๑ เจ้าพนักงานบาญชีกลางนาย ๑ เจ้าพนักงานบาญชีรับเงินนาย ๑ เจ้าพนักงานบาญชีจ่ายนาย ๑ เจ้าพนักงานเก็บเงินนาย ๑ กับให้มีเจ้าพนักงานเป็นรองเจ้าพนักงานใหญ่อีกนายละ ๑ คน พร้อมทั้งกำหนดอำนาจหน้าที่ของบรรดาเจ้าพนักงานขึ้นไว้โดยชัดแจ้ง นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีออดิตอเยเนอราล เป็นเจ้าพนักงานสำหรับตรวจบาญชีและสิ่งของซึ่งเป็นรายขึ้นในแผ่นดินทุก ๆ ราย และจัดวางระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อใช้ในกรมพระคลังมหาสมบัติ (กรมพระคลังมหาสมบัติ คือ กระทรวงการคลังในปัจจุบัน)
อย่างไรก็ดี การดำเนินงานของกรมพระคลังมหาสมบัติที่ตั้งขึ้นใหม่ ยังมีอุปสรรคและยังไม่เหมาะสม เนื่องจากกิจการบ้านเมืองเจริญก้าวหน้ามากขึ้นและกรมพระคลังมหาสมบัติได้ รับการยกฐานะขึ้นเป็นกระทรวงแล้ว ดังนั้น ในปี ๒๔๓๓ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติพระธรรมนูญหน้าที่ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติขึ้นเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ร.ศ.๑๐๙ (พ.ศ. ๒๔๓๓) กำหนดให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ มีหน้าที่สำหรับรับสำหรับจ่ายและรักษาเงินแผ่นดินทั้งสรรพราชสมบัติพัสดุทั้งปวงกับถือบาญชีพระราชทรัพย์สำหรับในกระทรวงสิทธิขาด นับเป็นกรมเจ้ากระทรวงและกรมขึ้น รวมเป็นกรมใหญ่ ๑๓ กรม ดังนี้