การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดรับสมัครสอบเป็นพนักงาน 689 อัตราปี 2559
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดรับสมัครสอบบุคคลทั่วไป เพื่อจ้างและบรรจุเป็นพนักงาน ประจำปี 2559 จำนวน 689 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 5 - 22 มกราคม 2559
ประกาศฝ่ายทรัพยากรบุคคล ที่ 1/2559 เรื่อง การรับสมัครงาน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไป เพื่อจ้างและบรรจุเป็นพนักงาน ประจำปี 2559 โดยได้ปรับปรุงในเรื่อง ผลคะแนนทดสอบ TOEIC จะต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสมัคร และหากไม่เข้ารับการทดสอบเบื้องต้น จะไม่มีสิทธิ์สมัครงานกับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันทดสอบ รายละเอียดการรับสมัครงานมีดังนี้
คุณสมบัติของผู้สมัคร
ปวช. - ปวส. อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ในวันสมัคร เกรดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2.50
ปริญญาตรี อายุไม่เกิน 28 ปีบริบูรณ์ในวันที่สมัคร เกรดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2.50 TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร*
ปริญญาโท - ปริญญาเอก อายุไม่เกิน 32 ปีบริบูรณ์ในวันที่สมัคร TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร*
*ในกรณีที่ผู้สมัครระดับคุณวุฒิปริญญา ผ่านการทดสอบข้อเขียนของ กฟผ. ในเบื้องต้น กฟผ. จะส่งผลคะแนนการทดสอบภาษาอังกฤษ TOEIC ไปตรวจสอบ หากไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ ผู้สมัครจะต้องทดสอบ TOEIC ใหม่ และนำผลคะแนนมายื่นภายในระยะเวลาที่ กฟผ. กำหนด
ประเภทอัตราที่เปิดรับสมัคร
1. อัตราภูมิภาค หมายถึง ผู้สมัครต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดที่ผู้สมัครเลือกตามประกาศรับสมัครงาน ทั้งนี้ ผู้สมัครจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือ บิดาและหรือมารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัคร โดยกำหนด รับสมัครระหว่างวันที่ 5 - 12 มกราคม 2559
2. อัตราทั่วไป หมายถึง ผู้สมัครสามารถปฏิบัติงานได้ทุกพื้นที่ตามที่ กฟผ. กำหนด โดยกำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 15 - 22 มกราคม 2559
ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องเลือกสมัครอัตราภูมิภาคหรืออัตราทั่วไป ตามกำหนดเวลารับสมัคร โดยสมัครได้เพียงอัตราเดียวเท่านั้น (ผู้ที่สมัครอัตราภูมิภาคแล้วไม่สามารถสมัครอัตราทั่วไปได้อีก)
เอกสารประกอบการสมัคร
1. รูปถ่าย หน้าตรงไม่สวมหมวก ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
2. ใบแสดงผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ (Transcript หรือใบระเบียน) ที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสม (GPA) ตามที่กำหนด สำหรับผู้ที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2558 และยังไม่ได้รับใบแสดงผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ อนุโลมให้ใช้ใบแสดงผลการศึกษาก่อนภาคเรียนสุดท้ายและหนังสือรับรองที่ระบุคุณวุฒิ สาขาวิชา และ ผลคะแนนเฉลี่ยสะสม (GPA) ตามที่กำหนด เมื่อสำเร็จการศึกษาให้ส่งผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ให้ กฟผ. ภายในเวลาที่ กฟผ. กำหนด
3. ผลคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ (TOEIC) เฉพาะผู้สมัครระดับปริญญา ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน และมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันที่สมัคร
4. สำเนาทะเบียนบ้าน กรณีผู้สมัครในอัตราภูมิภาคจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือ บิดาและหรือมารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัคร
5. ผู้สมัครตำแหน่งวิศวกร คุณวุฒิปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ ในสาขาวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกำหนด (วิศวกรรมไฟฟ้า โยธา เครื่องกล เหมืองแร่ อุตสาหการ เคมี และสิ่งแวดล้อม) ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ในกรณีที่ใช้คุณวุฒิปริญญาโทสมัครในสาขาวิศวกรรมควบคุม ต้องแนบคุณวุฒิปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมควบคุม และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาใดสาขาหนึ่ง
ทั้งนี้ หากไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมมายื่นในวันที่สมัครต้องนำมายื่นภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเข้าทำงานกับ กฟผ. หากไม่สามารถดำเนินการได้ กฟผ. จะให้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน โดยการให้ออก
หมายเหตุ
1. ผู้สมัครตำแหน่งวิศวกร ในสาขาวิศวกรรมควบคุม ให้ตรวจสอบหลักสูตรของท่านว่าสามารถขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมจากสภาวิศวกรได้หรือไม่
2. เอกสารประกอบการสมัครให้จัดทำเป็นไฟล์
(1) ไฟล์รูปถ่าย จะต้องเป็นนามสกุล jpg เท่านั้น ขนาดไม่เกิน 70 กิโลไบต์ (kb)
(2) ไฟล์เอกสารประกอบการสมัคร ประกอบด้วย ไฟล์ใบแสดงผลการศึกษา (คุณวุฒิ/Transcript) ไฟล์ผลคะแนน TOEIC (เฉพาะระดับปริญญา) ไฟล์ทะเบียนบ้าน (ตนเองหรือบิดามารดา) ไฟล์ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต่างๆ และไฟล์อื่นๆ จะต้องเป็นนามสกุล pdf เท่านั้น โดยแนบแต่ละไฟล์ขนาดไม่เกิน 200 กิโลไบต์ (kb)
3. ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดคุณวุฒิ สาขาวิชา และคุณสมบัติที่จะรับสมัคร รวมทั้งการสมัครได้ทางเว็บไซต์ของ กฟผ. http://www.egat.co.th
4. ปี 2559 กฟผ. กำหนดทดสอบข้อเขียนเบื้องต้นในวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2559 โดยผู้สมัครที่มีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบข้อเขียนเบื้องต้น หากไม่เข้ารับการทดสอบ จะไม่มีสิทธิ์สมัครงานกับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันทดสอบ
การสรรหาบุคลากรของกฟผ. เป็นกระบวนการที่มีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ โปรดอย่าหลงเชื่อการแอบอ้างของบุคคล หรือเอกสารใดๆ ว่าจะช่วยให้เข้าทำงาน กฟผ. ได้
การรับสมัครสอบ
สมัครผ่านทางระบบใบสมัครออนไลน์ ทางเว็บไซต์ของ กฟผ. https://recruit.egat.co.th/recruit/
อัตราภูมิภาค กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 - 12 มกราคม 2559
อัตราทั่วไป กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 - 22 มกราคม 2559
รายละเอียดเพิ่มเติม
- ไฟล์ประกาศรับสมัครสอบ
- อัตราส่วนภูมิภาค
- อัตราส่วนทั่วไป
- ขั้นตอนรับสมัครสอบ
ประกาศฝ่ายทรัพยากรบุคคล ที่ 1/2559 เรื่อง การรับสมัครงาน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไป เพื่อจ้างและบรรจุเป็นพนักงาน ประจำปี 2559 โดยได้ปรับปรุงในเรื่อง ผลคะแนนทดสอบ TOEIC จะต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสมัคร และหากไม่เข้ารับการทดสอบเบื้องต้น จะไม่มีสิทธิ์สมัครงานกับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันทดสอบ รายละเอียดการรับสมัครงานมีดังนี้
คุณสมบัติของผู้สมัคร
ปวช. - ปวส. อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ในวันสมัคร เกรดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2.50
ปริญญาตรี อายุไม่เกิน 28 ปีบริบูรณ์ในวันที่สมัคร เกรดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 2.50 TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร*
ปริญญาโท - ปริญญาเอก อายุไม่เกิน 32 ปีบริบูรณ์ในวันที่สมัคร TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับถึงวันที่สมัคร*
*ในกรณีที่ผู้สมัครระดับคุณวุฒิปริญญา ผ่านการทดสอบข้อเขียนของ กฟผ. ในเบื้องต้น กฟผ. จะส่งผลคะแนนการทดสอบภาษาอังกฤษ TOEIC ไปตรวจสอบ หากไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ ผู้สมัครจะต้องทดสอบ TOEIC ใหม่ และนำผลคะแนนมายื่นภายในระยะเวลาที่ กฟผ. กำหนด
ประเภทอัตราที่เปิดรับสมัคร
1. อัตราภูมิภาค หมายถึง ผู้สมัครต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดที่ผู้สมัครเลือกตามประกาศรับสมัครงาน ทั้งนี้ ผู้สมัครจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือ บิดาและหรือมารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัคร โดยกำหนด รับสมัครระหว่างวันที่ 5 - 12 มกราคม 2559
2. อัตราทั่วไป หมายถึง ผู้สมัครสามารถปฏิบัติงานได้ทุกพื้นที่ตามที่ กฟผ. กำหนด โดยกำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 15 - 22 มกราคม 2559
ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องเลือกสมัครอัตราภูมิภาคหรืออัตราทั่วไป ตามกำหนดเวลารับสมัคร โดยสมัครได้เพียงอัตราเดียวเท่านั้น (ผู้ที่สมัครอัตราภูมิภาคแล้วไม่สามารถสมัครอัตราทั่วไปได้อีก)
เอกสารประกอบการสมัคร
1. รูปถ่าย หน้าตรงไม่สวมหมวก ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
2. ใบแสดงผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ (Transcript หรือใบระเบียน) ที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสม (GPA) ตามที่กำหนด สำหรับผู้ที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาปีการศึกษา 2558 และยังไม่ได้รับใบแสดงผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ อนุโลมให้ใช้ใบแสดงผลการศึกษาก่อนภาคเรียนสุดท้ายและหนังสือรับรองที่ระบุคุณวุฒิ สาขาวิชา และ ผลคะแนนเฉลี่ยสะสม (GPA) ตามที่กำหนด เมื่อสำเร็จการศึกษาให้ส่งผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ให้ กฟผ. ภายในเวลาที่ กฟผ. กำหนด
3. ผลคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษ (TOEIC) เฉพาะผู้สมัครระดับปริญญา ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน และมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันที่สมัคร
4. สำเนาทะเบียนบ้าน กรณีผู้สมัครในอัตราภูมิภาคจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือ บิดาและหรือมารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามพื้นที่จังหวัดที่สมัคร
5. ผู้สมัครตำแหน่งวิศวกร คุณวุฒิปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ ในสาขาวิศวกรรมควบคุมตามที่กฎหมายกำหนด (วิศวกรรมไฟฟ้า โยธา เครื่องกล เหมืองแร่ อุตสาหการ เคมี และสิ่งแวดล้อม) ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ในกรณีที่ใช้คุณวุฒิปริญญาโทสมัครในสาขาวิศวกรรมควบคุม ต้องแนบคุณวุฒิปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมควบคุม และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมสาขาใดสาขาหนึ่ง
ทั้งนี้ หากไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมมายื่นในวันที่สมัครต้องนำมายื่นภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเข้าทำงานกับ กฟผ. หากไม่สามารถดำเนินการได้ กฟผ. จะให้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน โดยการให้ออก
หมายเหตุ
1. ผู้สมัครตำแหน่งวิศวกร ในสาขาวิศวกรรมควบคุม ให้ตรวจสอบหลักสูตรของท่านว่าสามารถขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมจากสภาวิศวกรได้หรือไม่
2. เอกสารประกอบการสมัครให้จัดทำเป็นไฟล์
(1) ไฟล์รูปถ่าย จะต้องเป็นนามสกุล jpg เท่านั้น ขนาดไม่เกิน 70 กิโลไบต์ (kb)
(2) ไฟล์เอกสารประกอบการสมัคร ประกอบด้วย ไฟล์ใบแสดงผลการศึกษา (คุณวุฒิ/Transcript) ไฟล์ผลคะแนน TOEIC (เฉพาะระดับปริญญา) ไฟล์ทะเบียนบ้าน (ตนเองหรือบิดามารดา) ไฟล์ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต่างๆ และไฟล์อื่นๆ จะต้องเป็นนามสกุล pdf เท่านั้น โดยแนบแต่ละไฟล์ขนาดไม่เกิน 200 กิโลไบต์ (kb)
3. ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดคุณวุฒิ สาขาวิชา และคุณสมบัติที่จะรับสมัคร รวมทั้งการสมัครได้ทางเว็บไซต์ของ กฟผ. http://www.egat.co.th
4. ปี 2559 กฟผ. กำหนดทดสอบข้อเขียนเบื้องต้นในวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2559 โดยผู้สมัครที่มีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบข้อเขียนเบื้องต้น หากไม่เข้ารับการทดสอบ จะไม่มีสิทธิ์สมัครงานกับ กฟผ. เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันทดสอบ
การสรรหาบุคลากรของกฟผ. เป็นกระบวนการที่มีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ โปรดอย่าหลงเชื่อการแอบอ้างของบุคคล หรือเอกสารใดๆ ว่าจะช่วยให้เข้าทำงาน กฟผ. ได้
การรับสมัครสอบ
สมัครผ่านทางระบบใบสมัครออนไลน์ ทางเว็บไซต์ของ กฟผ. https://recruit.egat.co.th/recruit/
อัตราภูมิภาค กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 - 12 มกราคม 2559
อัตราทั่วไป กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 - 22 มกราคม 2559
รายละเอียดเพิ่มเติม
- ไฟล์ประกาศรับสมัครสอบ
- อัตราส่วนภูมิภาค
- อัตราส่วนทั่วไป
- ขั้นตอนรับสมัครสอบ

เอาหละครับ มาลองทำแนวข้อสอบการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ปี 2559 กัน
1.วัดความถนัดทางเชาว์ปัญญา Aptitude test คุณวุฒิ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี
โจทย์แบบเลข อนุกรม
1) 1 3 5 7 9 ……
2) 1 2 4 7 11 ……
3) 2 4 8 16 32 ……
4) 2 4 12 48 …….
5) 1 2 6 15 31 ……
6) 9 7 5 3 1 ……
7) 11 7 4 2 1 ….
8) 10 11 19 46 110 …….
9) 1 3 6 8 16 ……
10) 1 7 3 10 5 13 ……
11) 10 5 15 15 2 13 13 5 18 13 5 …..
12) 4128 1284 2841……
13) 5 1 5 5 2 10 5 3 ……
14) 1 2 3 3 4 7 5 6 …..
15) 212 326 4312 …..
16) 24 12 36 24 48 36 60 …..
17) 2 10 4 8 40 16 32 …..
18) 1 2 3 4 7 29 5 8 …..
19) 1 2 3 6 12 …..
20) 10 10 20 60 240 …..
มาดูเฉลยกันเลย ....Aptitude test 1 ค่อยทำความเข้าใจนะครับ.....
1) 1 3 5 7 9 ……12 เพิ่มด้วยค่าคงที่
2) 1 2 4 7 11 ……16 เพิ่มขึ้นที่ละ 1,2,3…
3) 2 4 8 16 32 ……64 เพิ่มด้วยตัวคูณคงที่
4) 2 4 12 48 …….240 เพิ่มด้วยตัวคูณเลขเรียง (x2,x3,x4,…..)
5) 1 2 6 15 31 ……56 เพิ่มด้วยเลขเรียงยกกำลัง (1,4,9,16,25,…)
6) 9 7 5 3 1 ……-1 ลดลงด้วยค่าคงที่
7) 11 7 4 2 1 …...1 ลดลงที่ละ 1
8) 10 11 19 46 110 …….235 เพิ่มด้วยเลขเรียงกำลังยกสาม(1,8,27,64….)
9) 1 3 6 8 16 ……18 เพิ่มค่าบวกและค่าคูณคงที่สลับกัน(+2,x2)
10) 1 7 3 10 5 13 ……7 พิจารณาเป็นอนุกรม 2 ชั้น 1,3,5,7 และ 7,10,13,16
11) 10 5 15 15 2 13 13 5 18 13 5 …..8 เป็นค่าบวกและลบสลับกันไป
12) 4128 1284 2841……8412 เป็นเลขเรียงสลับในกลุ่ม
13) 5 1 5 5 2 10 5 3 ……15 ตัวแรกคูณตัวที่สอง=ตัวที่สาม,ตัวที่สี่คูณตัวที่ห้า=ตัวที่หก
14) 1 2 3 3 4 7 5 6 …11 ตัวที่หนึ่งบวกตัวที่สอง=ตัวที่สาม, ตัวที่สี่บวกตัวที่ห้า=ตัวที่หก
15) 212 326 4312 …..5420 เป็นเลขคูณภายในกลุ่ม
16) 24 12 36 24 48 36 60 …..48 บวกด้วยค่า 12 แบ่งออกเป็นสองชุด
17) 2 10 4 8 40 16 32 …..160 คูณด้วย 4 แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม
18) 1 2 3 4 7 29 5 8 …..41 ตัวที่ 1คูณตัวที่ 2บวกด้วย1, ตัวที่3คูณตัวที่4บวกด้วย1
19) 1 2 3 6 12 …..24 ตำแหน่งเลขคี่คูณด้วย 2เป็นตำแหน่งเลขคู่
20) 10 10 20 60 240 ….. 1200 คูณด้วยค่าเพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2 เป็น 3 ……
ผมว่าต้องลองทำบ่อยๆนะครับ อนุกรมมีหลายอย่างมาก มีตั้งแต่โจทย์ง่ายๆ ไปจนถึงยาก แต่จากประสบการณ์ในการทำข้อสอบมานั้นถ้าเราฝึกทำบ่อยๆ เราจะจับประเด็นได้เอง และไม่ว่าโจทย์จะพลิกแพงอย่างไง เราน่าจะไม่พลาดนะครับ
มาลองกันต่อ กันเลย......
คอลัมไหนมีผลบวกเท่ากับ 179 และ 196
A B C D E F G H
15 27 39 48 31 11 38 2
8 30 5 9 15 41 1 34
25 13 21 17 31 8 19 25
24 4 22 16 3 30 21 19
10 13 9 11 17 27 9 18
6 14 17 8 4 19 16 7
32 24 12 15 21 10 19 18
26 11 16 20 13 6 29 22
8 17 34 18 21 29 32 28
15 8 3 17 14 15 2 16
ลองบวกดูเองนะครับ อันนี้ต้องแข่งกับเวลาสักหน่อยครับ ถ้าใครไม่มีเวลาควรเอาไว้ก่อนนะจะ
อีกแบบ SCANNING ใช้เวลา 5 นาที ลองหาเทคนิคในการทำดูนะครับ
เทคนิค - ลองทำตัวที่เป็นภาษาอังกฤษก่อนครับง่ายกว่า โดยการอ่านเป็นประโยคเลย เช่น ข้อ 19. อ่านว่า ลุค บุค ฟูท กูด บูท กูน อีกข้างเทียบกัน ลุค บุค ฟูด กูด บูท นูด
ลองดูครับเผื่อมีเทคนิคดีๆๆฝากไว้ที่คอมเม้นเลยนะจะ
ลองดูครับเผื่อมีเทคนิคดีๆๆฝากไว้ที่คอมเม้นเลยนะจะ
อ่านจับใจความสำคัญ ใช้เวลา 3 นาทีจ้า....
THIS IS FLIGHT QF 560. TYPE OF THE AIRCRAFT IS AIRBUS 340-300, FROM SYDNEY TO FRANKFURT. BETWEEN ROUTE, THIS FLIGHT WILL MAKE LANDINGS FOR CHANGING PASSENGERS, AIR CREWS AND REFUELING. THEY ARE SINGAPORE, CALCUTTA AND DUBAI. FLIGHT TIME FROM SYDNEY TO SINGAPORE IS 6 HOURS AND 20 MINUTES, FROM SINGAPORE TO CALCUTTA IS 4:30, FROM CALCUTTA TO DUBAI IS 3 HOURS AND FROM DUBAI TO FRANKFURT IS 5: 10 HOURS. THEY ARE 12 PASSENGERS IN FIRST CLASS, BUSINESS CLASS 43 AND ECONOMY 208 PASSENGERS. ON THE CABIN 14 AIRCREWS ARE WORKING UNTIL SINGAPORE, THEN IT WILL CHANGE THE ALL OF AIRCREWS THERE. IN SINGAPORE 26 PASSENGERS IN BUSINESS CLASS GET OFF AND 8 GET ON. 167 PASSENGERS IN ECONOMY CLASS GET OFF AND 245 GET ON. IN DUBAI 6 NEW PASSENGERS GET ON THE FIRST CLASS AND 7 PASSENGERS IN BUSINESS GET OFF THERE. FOR DEPARTURE USE THE PILOTS RUNWAY 23 FOR TAKE OFF. WHEN REACHING 2500 THEY ARE VECTERED TO TURN RIGHT HEADING 280 FOR INTERCEPT THE AIRWAY AND THEY ARE CLERED FOR CLIMBING TO MAINTAIN 39000 ft. FOR FINAL LEVEL.
มาดูคำตอบเลย
ความรู้เกี่ยวกับ
การไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศไทย : กฟผ.
Electricity Generating Authority of Thailand : EGAT
วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / ค่านิยมองค์การ / ทิศทางยุทธศาสตร์
วิสัยทัศน์
เป็นองค์การชั้นนำในกิจการไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในระดับสากล
พันธกิจ
ให้บริการด้านพลังงานที่มี่คุณภาพ เชื่อถือได้ ในราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม และรักษาสมดุลกับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสรรค์สร้างพัฒนาคุณภาพชีวิต และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
ค่านิยมองค์การ
1. ตั้งมั่นในความเป็นธรรม
2. ยึดมั่นในคุณธรรม
3. สำนึกในความรับผิดชอบและหน้าที่
4. เคารพในคุณค่าของคน
5. มุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการทำงานเป็นทีม
ทิศทางยุทธศาสตร์
1. พัฒนาองค์การสู่ความเป็นเลิศ
2.เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก
3. สร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
4. เป็นองค์การที่ห่วงใยสังคมและสิ่งแวดล้อม
5. เป็นองค์การที่พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง
โครงสร้างการจัดการองค์การ
ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 กำหนดให้มีคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( คณะกรรมการ กฟผ.) ประกอบด้วยประธานกรรมการ และกรรมการอื่นๆอีกไม่เกิน 10 ท่านรวมทั้งผู้ว่าการซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง รวมเป็น 11 ท่าน
คณะกรรมการ กฟผ. ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลทั่วไป ซึ่งกิจการของ กฟผ. และเพื่อให้การบริหารจัดการองค์การเป็นไปอย่างโปร่งใส ตามหลักการกำกับดุแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) คณะกรรมการ กฟผ. จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อกลั่นกรองงานของคณะกรรมการ กฟผ. ได้แก่ คณะกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการ กฟผ. คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คระกรรมการสรรหารองผู้ว่าการและคณะกรรมการสรรหาผู้ช่วยผู้ว่าการและผู้อำนวยการฝ่าย
อนึ่ง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 22 มีนาคม 2549 กฟผ. มีสภาพเป็น บมจ.กฟผ. และจากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2549 เป็นผลให้ กฟผ. กลับมีสถานะเช่นเดิม
การไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศไทย : กฟผ.
Electricity Generating Authority of Thailand : EGAT
วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / ค่านิยมองค์การ / ทิศทางยุทธศาสตร์
วิสัยทัศน์
เป็นองค์การชั้นนำในกิจการไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในระดับสากล
พันธกิจ
ให้บริการด้านพลังงานที่มี่คุณภาพ เชื่อถือได้ ในราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม และรักษาสมดุลกับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสรรค์สร้างพัฒนาคุณภาพชีวิต และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
ค่านิยมองค์การ
1. ตั้งมั่นในความเป็นธรรม
2. ยึดมั่นในคุณธรรม
3. สำนึกในความรับผิดชอบและหน้าที่
4. เคารพในคุณค่าของคน
5. มุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการทำงานเป็นทีม
ทิศทางยุทธศาสตร์
1. พัฒนาองค์การสู่ความเป็นเลิศ
2.เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก
3. สร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
4. เป็นองค์การที่ห่วงใยสังคมและสิ่งแวดล้อม
5. เป็นองค์การที่พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง
โครงสร้างการจัดการองค์การ
ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 กำหนดให้มีคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( คณะกรรมการ กฟผ.) ประกอบด้วยประธานกรรมการ และกรรมการอื่นๆอีกไม่เกิน 10 ท่านรวมทั้งผู้ว่าการซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง รวมเป็น 11 ท่าน
คณะกรรมการ กฟผ. ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลทั่วไป ซึ่งกิจการของ กฟผ. และเพื่อให้การบริหารจัดการองค์การเป็นไปอย่างโปร่งใส ตามหลักการกำกับดุแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) คณะกรรมการ กฟผ. จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อกลั่นกรองงานของคณะกรรมการ กฟผ. ได้แก่ คณะกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการ กฟผ. คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คระกรรมการสรรหารองผู้ว่าการและคณะกรรมการสรรหาผู้ช่วยผู้ว่าการและผู้อำนวยการฝ่าย
อนึ่ง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 22 มีนาคม 2549 กฟผ. มีสภาพเป็น บมจ.กฟผ. และจากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2549 เป็นผลให้ กฟผ. กลับมีสถานะเช่นเดิม
รายนามคณะผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ.
โครงสร้างผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ. (ปรับใหม่แล้ว)
นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกรรมการ กฟผ.
(โดยตำแหน่ง) และทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ กฟผ.
นางสินีนาถ สิทธิรัตนรังสี ผู้บริหารใหญ่ด้านการเงิน (CFO)
นายชโลทร หาญศักดิ์วงศ์ รองผู้ว่าการการประจำสำนักผู้ว่าการฯ (รวสก.)
นายนพพร พันแสงดาว รองผู้ว่าการการประจำสำนักผู้ว่าการฯ (รวสก.)
นายพฤติชัย จงเลิศวณิชกุล รองผู้ว่าการการประจำสำนักผู้ว่าการฯ (รวสก.)
นายสหัส ประทักษ์นุกูล รองผู้ว่าการนโยบายและแผน (รวผ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นางสินีนาถ สิทธิรัตนรังสี รองผู้ว่าการบัญชีและการเงิน (รวบ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ รองผู้ว่าการบริหาร (รวห.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายบรรพต แสงเขียว รองผู้ว่ากิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม (รวศ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายสมบูรณ์ อารยะสกุล รองผู้ว่าการพัฒนา (รวพ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายสุรศักดิ์ ศุภวิฑิตพัฒนา รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า (รวฟ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายธนากร พลูทวี รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง (รวช.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายรัตนพงษ์ จงดำเกิง รองผู้ว่าการระบบส่ง (รวส.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
คณะกรรมการบริหารของ กฟผ. (ปรับใหม่แล้ว)
ลำดับที่ รายนามกรรมการ ตำแหน่ง วันที่ได้รับแต่งตั้ง
1 นายพรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการ 28 ต.ค. 2551
2 พลเอกอภิชาต เพ็ญกิตติ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
3 นายพีระพล ไตรทศาวิทย์ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
4 นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
5 นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี กรรมการ 28 ต.ค. 2551
6 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
7 นายเกษมสันต์ จิณณวาโส กรรมการ 28 ต.ค. 2551
8 นายแล ดิลกวิทยรัตน์ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
9 นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ กรรมการและเลขานุการ 29 ต.ค. 2552
นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกรรมการ กฟผ.
(โดยตำแหน่ง) และทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ กฟผ.
นางสินีนาถ สิทธิรัตนรังสี ผู้บริหารใหญ่ด้านการเงิน (CFO)
นายชโลทร หาญศักดิ์วงศ์ รองผู้ว่าการการประจำสำนักผู้ว่าการฯ (รวสก.)
นายนพพร พันแสงดาว รองผู้ว่าการการประจำสำนักผู้ว่าการฯ (รวสก.)
นายพฤติชัย จงเลิศวณิชกุล รองผู้ว่าการการประจำสำนักผู้ว่าการฯ (รวสก.)
นายสหัส ประทักษ์นุกูล รองผู้ว่าการนโยบายและแผน (รวผ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นางสินีนาถ สิทธิรัตนรังสี รองผู้ว่าการบัญชีและการเงิน (รวบ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ รองผู้ว่าการบริหาร (รวห.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายบรรพต แสงเขียว รองผู้ว่ากิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม (รวศ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายสมบูรณ์ อารยะสกุล รองผู้ว่าการพัฒนา (รวพ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายสุรศักดิ์ ศุภวิฑิตพัฒนา รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า (รวฟ.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายธนากร พลูทวี รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง (รวช.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายรัตนพงษ์ จงดำเกิง รองผู้ว่าการระบบส่ง (รวส.)
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
คณะกรรมการบริหารของ กฟผ. (ปรับใหม่แล้ว)
ลำดับที่ รายนามกรรมการ ตำแหน่ง วันที่ได้รับแต่งตั้ง
1 นายพรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการ 28 ต.ค. 2551
2 พลเอกอภิชาต เพ็ญกิตติ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
3 นายพีระพล ไตรทศาวิทย์ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
4 นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
5 นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี กรรมการ 28 ต.ค. 2551
6 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
7 นายเกษมสันต์ จิณณวาโส กรรมการ 28 ต.ค. 2551
8 นายแล ดิลกวิทยรัตน์ กรรมการ 28 ต.ค. 2551
9 นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ กรรมการและเลขานุการ 29 ต.ค. 2552
ผู้ว่าการ กฟผ. (กรรมการโดยตำแหน่ง)
ทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ กฟผ.
ทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ กฟผ.
ลำดับที่ 1 – 8 แต่งตั้งโดย มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2551
ลำดับที่ 9 แต่งตั้งโดย มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2552
องค์ประกอบและการแต่งตั้งคณะกรรมการ กฟผ.
องค์ประกอบและการสรรหา แต่งตั้ง ถอดถอน หรือพ้นจากตำแหน่งคณะกรรมการ กฟผ.ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ประกอบกับพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 สรุปสาระสำคัญดังนี้
1. คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย ประธานกรรมการ
และกรรมการอื่นอีกไม่เกินสิบคนรวมทั้งผู้ว่าการซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการอื่นซึ่งมิใช่กรรมการโดยตำแหน่ง
2. ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งที่มิใช่กรรมการโดย
ตำแหน่งอยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีก
3. นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรี
แต่งตั้งจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อ ตาย ลาออก คณะรัฐมนตรีไล่ออก และเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามเมื่อประธานกรรมการหรือกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ คณะรัฐมนตรีอาจแต่งตั้งผู้อื่นเป็นประธานกรรมการ หรือกรรมการแทนได้ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามวรรคสองอยู่ในตำแหน่งตามวาระของประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งแทน
ขอบเขตอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ กฟผ.
ภายใต้พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 คณะกรรมการ กฟผ. มีอำนาจหน้าที่วางนโยบาย และควบคุมดูแลทั่วไปซึ่งกิจการของ กฟผ. รวมทั้งออกระเบียบและข้อบังคับ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ขององค์การ เช่น
1. ออกระเบียบหรือข้อบังคับการดำเนินกิจการของคณะกรรมการ กฟผ.
2. ออกระเบียบหรือข้อบังคับการจัดแบ่งส่วนงานและวิธีปฏิบัติงาน
3. กำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างของพนักงานหรือลูกจ้าง
4. ควบคุมดูแลจัดให้มีเงินสำรองและเป็นค่าใช้จ่ายในการขยายกิจการและลงทุน
5. ให้ความเห็นชอบการบรรจุ แต่งตั้ง เลื่อนลด ตัดเงินเดือนค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยสำหรับพนักงานชั้นผู้อำนวยการฝ่ายหรือเทียบเท่าขึ้นไป
การประชุมคณะกรรมการ กฟผ.
คณะกรรมการมีกำหนดประชุมโดยปกติเป็นประจำทุกวันศุกร์ที่สี่ของเดือน และอาจมีการประชุมคณะกรรมการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม โดยเลขานุการคณะกรรมการ กฟผ. จัดส่งหนังสือเชิญประชุมพร้อมระเบียบวาระการประชุมและเอกสารประกอบให้กรรมการก่อนการประชุม 5 วันทำการเว้นแต่ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนเพื่อให้คณะกรรมการได้มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอโดยมีการจดบันทึกการประชุมเป็นลายลักษณ์อีกษรอย่างครบถ้วนและจัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจัดส่งให้กระทรวงการคลัง และพร้อมให้คณะกรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้
ขอบเขตอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ว่าการ
ผู้ว่าการมรหน้าที่บริหารกิจการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ตามนโยบายของรัฐบาลระเบียบหรือข้อบังคับของ กฟผ. รวมทั้งมติคณะกรรมการ กฟฟ. และมีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้าง
ประวัติความเป็นมา
กฟผ. จัดขึ้นตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 โดยการรวมหน่วยงาน ด้านการผลิตและส่งงานไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้ายันฮี การลิกไนท์ และการไฟฟ้ตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเป็นหน่วยงานเดียวกัน มีฐานะเป็นนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2512 เรียกชื่อย่อว่า “กฟผ.” พระราชบัญญัติฉบับนี้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 มีสาระสำคัญโดยสรุปคือ ไห้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สามารถดำเนินธุรกิจเกี่ยวกบพลังงานไฟฟ้าหรือร่วมทุนกับบุคคลอื่นเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว และให้มีอำนาจใช้สอยและครอบครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อสำรวจหาแหล่งพลังงาน ตลอดจนสถานที่สำหรับใช้ในการผลิตหรือพัฒนาพลังงานไฟฟ้าโดยใช้ค่าทดแทนที่เป็นธรรม และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวกับคุณภาพไฟฟ้า เทคนิคทางวิศวกรรม และความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ในกรณีที่เอกชนประสงค์จะเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กฟผ. มีสิทธิเพิ่มวงเงินในการกู้ยืมและในการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ คณะกรรมการมีอำนาจจำหน่ายทรัพย์สินออกจากบัญชีได้ทุกกรณีโดยไม่จำกัดวงเงินโดยสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ส่วนสาระสำคัญที่ยังคงเดิม คือ คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งประธานคณะกรรมการกับกรรมการ (ซึ่งต้องไม่มีตำแหน่งทางการเมือง) และคณะกรรมการเหล่านี้เป็นผู้แต่งตั้งผู้ว่าการ กฟผ. จึงเป็นวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ในเดือยมิถุนายน 2535 กฟผ. นำเสนอต่อรัฐบาลขอเข้าโครงการรัฐวิสาหกิจที่ดีและผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นรัฐวิสาหกิจที่ดี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2537 การนี้จะส่งผลให้ กฟผ. มีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการลดบทบาทการควบคุมรัฐวิสาหกิจลงให้น้อยที่สุดและสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจมีความสามารถที่จะแข่งขันกับธุรกิจเอกชน
กฟผ. ได้รับรางวัลจากการประกาศรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปี 2549 ของกระทรวงการคลัง
2 รางวัล ได้แก่
1. รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ซึ่งได้รับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และ
2. รางวัลรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการเพื่อสังคมดีเด่น
วิสัยทัศน์ของแบรนด์ กฟผ.
กฟผ.เป็นหน่วยงานชั้นนำที่เสริมสร้างระบบเศรษฐกิจและเอื้ออำนวยความเป็นอยู่ให้สะดวก
และมีคุณภาพมากขึ้น อันนำมาซึ่งความสำเร็จและความผาสุกของทุกชีวิต
บุคลิกภาพของแบรนด์
* ความเป็นมืออาชีพ (เป็นธรรม, ขยันขันแข็ง,ใจกว้าง พร้อมรับฟังผู้อื่น, มีประสิทธิภาพ)
* สร้างสรรค์ (มีพลังสร้างสรรค์, เป็นคลังความรู้, มีความเป็นสากลและทันสมัย,มองการณ์ไกล)
* คล่องตัว (มีความสามารถหลากหลาย,ยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย
* เอื้ออาทร (มีมิตรไมตรี,ห่วงใยใส่ใจ, เข้าถึงง่าย, ทุ่มเท)
* เชื่อใจได้ (เป็นที่ไว้วางใจ, พึงพาได้, โปร่งใส,เป็นที่ยอมรับ
การวางตำแหน่งแบรนด์ กฟผ.
ดีกว่าหน่วยงานด้านธุรกิจพลังงานขนาดใหญ่ทั้งหลายในภูมิภาคสำหรับผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีการสร้างสรรค์วัตกรรม ในราคาที่สามารถซื้อและวางใจได้ในคุณภาพ รวมทั้งบริการที่เป็นมิตรจากหน่วยงานที่ดำเนินการอย่างโปร่งใส เป็นที่เชื่อถือ และยอมรับของสังคมเพราะ กฟผ.พร้อมสรรด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ทีมงานที่เปี่ยมด้วยศักยภาพและประสบการณ์อย่างมืออาชีพ ซึ่งยึดมั่นในความเอื้ออาทรต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่มมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อันนำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ลำดับที่ 9 แต่งตั้งโดย มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2552
องค์ประกอบและการแต่งตั้งคณะกรรมการ กฟผ.
องค์ประกอบและการสรรหา แต่งตั้ง ถอดถอน หรือพ้นจากตำแหน่งคณะกรรมการ กฟผ.ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ประกอบกับพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 สรุปสาระสำคัญดังนี้
1. คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย ประธานกรรมการ
และกรรมการอื่นอีกไม่เกินสิบคนรวมทั้งผู้ว่าการซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการอื่นซึ่งมิใช่กรรมการโดยตำแหน่ง
2. ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งที่มิใช่กรรมการโดย
ตำแหน่งอยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีก
3. นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรี
แต่งตั้งจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อ ตาย ลาออก คณะรัฐมนตรีไล่ออก และเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามเมื่อประธานกรรมการหรือกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ คณะรัฐมนตรีอาจแต่งตั้งผู้อื่นเป็นประธานกรรมการ หรือกรรมการแทนได้ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามวรรคสองอยู่ในตำแหน่งตามวาระของประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งแทน
ขอบเขตอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ กฟผ.
ภายใต้พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 คณะกรรมการ กฟผ. มีอำนาจหน้าที่วางนโยบาย และควบคุมดูแลทั่วไปซึ่งกิจการของ กฟผ. รวมทั้งออกระเบียบและข้อบังคับ เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ขององค์การ เช่น
1. ออกระเบียบหรือข้อบังคับการดำเนินกิจการของคณะกรรมการ กฟผ.
2. ออกระเบียบหรือข้อบังคับการจัดแบ่งส่วนงานและวิธีปฏิบัติงาน
3. กำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างของพนักงานหรือลูกจ้าง
4. ควบคุมดูแลจัดให้มีเงินสำรองและเป็นค่าใช้จ่ายในการขยายกิจการและลงทุน
5. ให้ความเห็นชอบการบรรจุ แต่งตั้ง เลื่อนลด ตัดเงินเดือนค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยสำหรับพนักงานชั้นผู้อำนวยการฝ่ายหรือเทียบเท่าขึ้นไป
การประชุมคณะกรรมการ กฟผ.
คณะกรรมการมีกำหนดประชุมโดยปกติเป็นประจำทุกวันศุกร์ที่สี่ของเดือน และอาจมีการประชุมคณะกรรมการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม โดยเลขานุการคณะกรรมการ กฟผ. จัดส่งหนังสือเชิญประชุมพร้อมระเบียบวาระการประชุมและเอกสารประกอบให้กรรมการก่อนการประชุม 5 วันทำการเว้นแต่ในกรณีจำเป็นเร่งด่วนเพื่อให้คณะกรรมการได้มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอโดยมีการจดบันทึกการประชุมเป็นลายลักษณ์อีกษรอย่างครบถ้วนและจัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจัดส่งให้กระทรวงการคลัง และพร้อมให้คณะกรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้
ขอบเขตอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ว่าการ
ผู้ว่าการมรหน้าที่บริหารกิจการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ตามนโยบายของรัฐบาลระเบียบหรือข้อบังคับของ กฟผ. รวมทั้งมติคณะกรรมการ กฟฟ. และมีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้าง
ประวัติความเป็นมา
กฟผ. จัดขึ้นตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 โดยการรวมหน่วยงาน ด้านการผลิตและส่งงานไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้ายันฮี การลิกไนท์ และการไฟฟ้ตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเป็นหน่วยงานเดียวกัน มีฐานะเป็นนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2512 เรียกชื่อย่อว่า “กฟผ.” พระราชบัญญัติฉบับนี้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 มีสาระสำคัญโดยสรุปคือ ไห้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สามารถดำเนินธุรกิจเกี่ยวกบพลังงานไฟฟ้าหรือร่วมทุนกับบุคคลอื่นเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว และให้มีอำนาจใช้สอยและครอบครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อสำรวจหาแหล่งพลังงาน ตลอดจนสถานที่สำหรับใช้ในการผลิตหรือพัฒนาพลังงานไฟฟ้าโดยใช้ค่าทดแทนที่เป็นธรรม และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวกับคุณภาพไฟฟ้า เทคนิคทางวิศวกรรม และความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ในกรณีที่เอกชนประสงค์จะเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กฟผ. มีสิทธิเพิ่มวงเงินในการกู้ยืมและในการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ คณะกรรมการมีอำนาจจำหน่ายทรัพย์สินออกจากบัญชีได้ทุกกรณีโดยไม่จำกัดวงเงินโดยสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ส่วนสาระสำคัญที่ยังคงเดิม คือ คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งประธานคณะกรรมการกับกรรมการ (ซึ่งต้องไม่มีตำแหน่งทางการเมือง) และคณะกรรมการเหล่านี้เป็นผู้แต่งตั้งผู้ว่าการ กฟผ. จึงเป็นวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ในเดือยมิถุนายน 2535 กฟผ. นำเสนอต่อรัฐบาลขอเข้าโครงการรัฐวิสาหกิจที่ดีและผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นรัฐวิสาหกิจที่ดี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2537 การนี้จะส่งผลให้ กฟผ. มีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการลดบทบาทการควบคุมรัฐวิสาหกิจลงให้น้อยที่สุดและสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจมีความสามารถที่จะแข่งขันกับธุรกิจเอกชน
กฟผ. ได้รับรางวัลจากการประกาศรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปี 2549 ของกระทรวงการคลัง
2 รางวัล ได้แก่
1. รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น ซึ่งได้รับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และ
2. รางวัลรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการเพื่อสังคมดีเด่น
วิสัยทัศน์ของแบรนด์ กฟผ.
กฟผ.เป็นหน่วยงานชั้นนำที่เสริมสร้างระบบเศรษฐกิจและเอื้ออำนวยความเป็นอยู่ให้สะดวก
และมีคุณภาพมากขึ้น อันนำมาซึ่งความสำเร็จและความผาสุกของทุกชีวิต
บุคลิกภาพของแบรนด์
* ความเป็นมืออาชีพ (เป็นธรรม, ขยันขันแข็ง,ใจกว้าง พร้อมรับฟังผู้อื่น, มีประสิทธิภาพ)
* สร้างสรรค์ (มีพลังสร้างสรรค์, เป็นคลังความรู้, มีความเป็นสากลและทันสมัย,มองการณ์ไกล)
* คล่องตัว (มีความสามารถหลากหลาย,ยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย
* เอื้ออาทร (มีมิตรไมตรี,ห่วงใยใส่ใจ, เข้าถึงง่าย, ทุ่มเท)
* เชื่อใจได้ (เป็นที่ไว้วางใจ, พึงพาได้, โปร่งใส,เป็นที่ยอมรับ
การวางตำแหน่งแบรนด์ กฟผ.
ดีกว่าหน่วยงานด้านธุรกิจพลังงานขนาดใหญ่ทั้งหลายในภูมิภาคสำหรับผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีการสร้างสรรค์วัตกรรม ในราคาที่สามารถซื้อและวางใจได้ในคุณภาพ รวมทั้งบริการที่เป็นมิตรจากหน่วยงานที่ดำเนินการอย่างโปร่งใส เป็นที่เชื่อถือ และยอมรับของสังคมเพราะ กฟผ.พร้อมสรรด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ทีมงานที่เปี่ยมด้วยศักยภาพและประสบการณ์อย่างมืออาชีพ ซึ่งยึดมั่นในความเอื้ออาทรต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่มมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อันนำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จอย่างยั่งยืน
แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1. พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ ให้ไว้ ณ วันใด
ก. ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ ค. ๓o พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๑
ข. ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ ง. ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๑
ตอบ ข. ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๑
2. พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด
ก. ๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๑ ค. ๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๑
ข. ๓ พฤศจิกายน ๒๕๑๑ ง. ๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๑
ตอบ ก. ๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๑
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
3. พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีกี่ฉบับ
ก. 2 ฉบับ ค. 4 ฉบับ
ข. 3 ฉบับ ง. 5 ฉบับ
ตอบ ก. 2 ฉบับ ได้แก่
พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๗
พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๐
พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๓๕
4. พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ มีกี่หมวด กี่มาตรา
ก. 5 หมวด 58 มาตรา ค. 6 หมวด 59 มาตรา
ข. 5 หมวด 59 มาตรา ง. 6 หมวด 60 มาตรา
ตอบ ค. 6 หมวด 59 มาตรา
5. ใครคือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑
ก. ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ข. คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน*รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
รายละเอียดภายในไฟล์ประกอบด้วย :
- อัพเดทแนวข้อสอบทุกวิชาที่ใช้สอบของแต่ละหน่วยงาน ล่าสุด
- อัพเดท และ รวมข้อสอบเก่าเด็ดๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก พร้อมเฉลย ล่าสุด
- อัพเดทและ รวบรวมแนวข้อสอบจากรุ่นพี่ที่สอบจากสนามจริง ล่าสุด
รวมที่สุดของแนวข้อสอบที่ใช้สอบทั้งหมดในครั้งนี้ ในรูปแบบไฟล์ PDF ส่งทางอีเมล์
เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในการรับไฟล์ และปริ้นอ่านได้ทันที วันเดียวได้ โดยไม่ต้องรอนาน
อ่านได้ง่าย เข้าใจง่าย เข้าใจเร็ว ครบ ตรงประเด็น อัดแน่นด้วยคุณภาพ ไว้ในไฟล์เดียว
เราเก็งแนวข้อสอบพร้อมเฉลย และ สรุปสาระสำคัญ ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ไฟล์ในราคาเพียง 389 บาท เป็นเล่ม 679 รวมค่าส่ง ems
แนวข้อสอบที่น่าสนใจคลิกเลยนะค่ะ
คลิ๊กเลย!!!แนวข้อสอบนักส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
คลิ๊กเลย!!!แนวข้อสอบ กรมสรรพาวุธทหารบก 2559
คลิ๊กเลย!!!แนวข้อสอบ กรมสรรพาวุธทหารบก 2559
สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร : 095-6187887
ID line : bm.tam
e-mail : tomtam.chok27@gmail.com
โอนเงินชำระค่าเอกสาร
1. ธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 476-0-42385-0 นายทรรศ วิเชียร
2. ธนารคารกสิกรไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 006-1-96581-5 นายทรรศ วิเชียร
3. ธนาคารทหารไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 517-222649-9 นายทรรศ วิเชียร
!!!ส่งเร็วทันใจได้ไฟล์ทันทีหลังการโอนเงิน




