วางแผนเก็บเงินอย่างไรให้ได้แต่งงาน
วางแผนเก็บเงินอย่างไรให้ได้แต่งงาน
ชีวิตคู่หลายๆ คู่อาจจะคิดแต่งงานเมื่อเงินพร้อม แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ปัญหาอยู่ที่การเงิน การงานยังไม่มั่นคง หรือยังไม่แน่ใจว่าใช่คนนี้หรือเปล่ากันแน่ ส่วนคนที่ความรักหวานชื่นและพร้อมที่จะแชร์ทั้งสุขทุกข์ด้วยกันแล้ว เรามาวางแผนการเงินสำหรับใช้ในการแต่งงานกันค่ะ
1. วางแผนงบประมาณในการจัดงานแต่ง
ก่อนจัดงานควรลองประมาณค่าใช้จ่ายที่ใช้จัดงานแต่งงานทั้งหมด ไม่ว่าจะค่าสินสอดทองหมั้น ค่าจัดงานเลี้ยง พิธิการ งานเช้างานเย็น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ที่ต้องใช้ในงานแต่งอีกด้วย
2. กำหนดวันแต่งงาน
ใครไม่ซีเรียสเรื่องวันพิธีมงคล ก็สามารถกางปฏิทินแล้วปักหมุดวันที่อยากแต่งงานได้เลยจ้า แต่ส่วนใครที่ถือฤกษ์งามยามดี อันนี้ต้องวางแผนกันดีๆ ดูฤกษ์แต่งงานล่วงหน้าแบบข้ามปีไปเลย เผื่อเวลาเก็บเงินแต่งงานในระยะยาว แถมต้องใช้เวลาหาสถานที่ที่เหมาะสมกับงบประมาณของเราอีก จะแต่งทั้งทีก็ต้องใจเย็นๆ น้า
3. ลิสต์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
มีอะไรจำเป็นต้องจ่ายในงานแต่งบ้าง นอกเหนือจากสินสอด เช่น ค่าชุดแต่งงาน ค่าแต่งหน้าทำผมเจ้าสาว ค่าถ่ายพรีเวดดิ้ง ค่าของชำร่วย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายยิบย่อยของทั้งงาน
4. เก็บเงินให้เป็นไปตามเป้าหมาย
หากรู้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายแล้ว แบ่งความรับผิดชอบ ฝ่ายชายเก็บค่าสินสอดหรือฝ่ายสาวเก็บเงินในส่วนของจัดเลี้ยง หรือจะช่วยกับเก็บเงินทั้งคู่ ก็แล้วแต่การตกลงกันของทั้งสองฝ่าย
5. หารายได้เสริม
เมื่อเงินเดือนไม่พอเก็บ การหารายได้เสริมก็เป็นอีกทางที่ทำให้เราไปถึงเป้าได้เร็วยิ่งขึ้น หากงานยิ่งใหญ่ก็ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แต่ถ้าเราเลือกตจัดงานแต่งแบบประหยัด ก็อาจใช้ระยะเวลาไม่นานในการเก็บเงิน
6. คุมค่าใช้จ่าย
จะแต่งงานทั้งทีมันต้องยิ่งใหญ่อลังการ ค่าแบ็คดรอปเป็นดอกไม้สดเพิ่มด้วยได้ไหมคะ แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายต้องเกินจากงบที่กำหนดแน่นอน เพราะฉะนั้นเราควรคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายให้อยู่ภายในจำนวนเงินที่เราจำกัด ไม่งั้นกระเป๋าฉีกกว่าเดิมแน่ๆ หรืออีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเซฟเงินให้เป็นไปตามแผน เช่น การประดิษฐ์ของชำร่วย DIY หรือการออกแบบการ์ดแต่งงานเอง โดยไม่ต้องง้อดีไซเนอร์ เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายแถมกระชับความสัมพันธ์ ช่วยกันออกไอเดียกันอีกด้วย
7. วางแผนการออมสำหรับครอบครัว
เมื่อจัดงานแต่งให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากแต่งงานก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนการเงินสำหรับครอบครัว โดยจะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายการศึกษาบุตร ค่าใช้จ่ายในบ้านเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเนต ฯลฯ หากวางแผนการเงินผิดพลาดโดยไม่มีการออม จะทำให้ครอบครัวของเรามีปัญหาทางการเงินในอนาคตได้
โดยวันนี้ ชัปบ์ ไลฟ์ ก็จะขอนำเสนอการวางแผนการเงินไลฟ์ โพรเทคเตอร์ พลัส
อุ่นใจกับคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าด้วยแบบประกันชีวิต ไลฟ์ โพรเทคเตอร์ พลัส ที่มอบความคุ้มครองตลอดชีพอย่างครอบคลุม คุณจะสามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระกับครอบครัว หากเจ็บป่วย เป็นโรคร้ายแรง หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เพื่อมั่นใจว่าเงินออมจะไม่ได้รับผลกระทบ และยังสบายใจได้ว่าคุณจะมอบมรดกให้กับคนที่คุณรักหากต้องจากไปก่อนวัยอันควร
แต่อย่าลืมนะคะ งานแต่งที่ดีคือการช่วยกันเก็บหอมรอมริบ จับมือชูชื่นเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยกัน อย่าก่อร่างสร้างหนี้ด้วยการรไปยืมหรือกู้เงินมาแต่งเด็ดขาด ไม่งั้นอาจกลายเป็นงานวิวาห์ทั้งน้ำตาแทน อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนละ!
chubb Life วางแผนชีวิต| ใส่ใจทุกรายละเอียดของชีวิตคุณ | chubb.com
