การใส่ปุ๋ยยางพารา
ดินปลูกยางส่วนใหญ่ของประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกยางซ้ำที่เดิมในสวนสงเคราะห์ปลูกแทนนั้น ได้มีการนำเอาธาตุอาหารในรูปของน้ำยาง และส่วนต่างๆ ของต้นยางออกไปจากสวนยางเก่า จึงทำให้ธาตุอาหารในดินมีปริมาณน้อยลง เพื่อให้สวนยางเจริญเติบ
โตอย่างปกติ และเมื่อเปิดกรีดจะให้น้ำยางสูงสม่ำเสมอ จึงจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยถ้าหากไม่ใส่ปุ๋ยให้ต้นยาง ต้นยางจะแคระแกร็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการใช้ปุ๋ยในสวนยาง
- ชนิดของเนื้อดิน แบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
-กลุ่มดินร่วน
-กลุ่มดินทราย- ชนิดของปุ๋ย แบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
-ปุ๋ยอนินทรีย์ คือปุ๋ยที่ได้จากสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ปุ๋ยวิทยาศาสตร์
-ปุ๋ยอินทรีย์ คือปุ๋ยที่ได้จากสิ่งที่มีชีวิต เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด- สูตรปุ๋ย เนื่องจากความต้องการปุ๋ยของต้นยางมีความแตกต่างกัน ตามสภาพของเนื้อดินและอายุของต้นยาง จึงต้องใช้ปุ๋ยสูตรต่างกัน
- เวลาที่ใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยให้ได้ประโยชน์เต็มที่ ควรใส่เมื่อดินมีความชุ่มชื้น
- บริเวณใส่ปุ๋ย มีอยู่หลายวิธี จะเลือกใช้วิธีไหนขึ้นอยู่กับสภาพของสวน วิธีที่นิยมใ้ช้มี
ก. ใส่รองก้นหลุม เช่น ปุ๋ยหินฟอสเฟต
ข. การใส่ปุ๋ยแบบหว่าน ใช้กับสวนยางที่อยู่บนพื้นที่ราบ และควรเป็นพื้นที่ที่ปราบวัชพืชด้วยสารเคมี เพราะซากพืชที่เหลือในแถวยาง จะช่วยป้องกันการชะล้างในช่วงที่ฝนตกชุก
ค. ใส่เป็นแถบ การใส่ปุ๋ยเป็นแถบยาวตามแถวยางวิธีนี้ควรใช้กับพื้นที่ลาดเทเล็กน้อยหรือพื้นที่ที่ทำขั้นบันได โดยเซาะเป็นร่อง ใสุ่ปุ๋ยแล้วกลบ
ง. ใส่แบบหลุม เป็นวิธีการใส่ปุ๋ยให้ต้นยาง โดยใส่แบบขุดหลุมใส่ปุ๋ยแล้วกลบ เหมาะกับพื้นที่ลาดเทและไม่ได้ทำขั้นบันไดการใช้ปุ๋ยในยางเล็กก่อนเปิดกรีด
ปุ๋ยยางในระยะที่ต้นยางยังไม่ให้ผลผลิต คือ ปุ๋ยที่ใส่ตั้งแต่เริ่มปลูกจนต้นโตได้ขนาดเปิดกรีด ปุ๋ยที่ใช้แบ่งได้เป็น 2 พวก คือ
- ปุ๋ยรองก้นหลุม
- ปุ๋ยบำรุง
- ปุ๋ยรองก้นหลุม ที่นิยมใช้ได้แก่ปุ๋ยหินฟอสเฟต เป็นปุ๋ยที่เร่งให้รากงอกและแผ่ขยายได้เร็ว ทำให้ต้นยางตั้งตัวในระยะแรกได้ดี สร้างระบบรากให้แข็งแรงจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยรองก้นหลุม เพราะดินปลูกยางส่วนใหญ่มีธาตุอาหารนี้น้อยมาก ปุ๋ยหินฟอสเฟตมีจำหน่ายในขณะนี้ ได้แก่ 0-3-0 เป็นปุ๋ยที่ผลิตได้ภายในประเทศ
สำหรับในแหล่งปลูกยางใหม่ ซึ่งเป็นเขตแห้งแล้งหรือค่อนข้างแห้งแล้ง ในการการปลูกสร้างสวนยาง ควรใส่ปุุ๋๋ยอินทรีย์รองก้นหลุมเพิ่มเติมไปด้วย ปุ๋ยอินทรีย์มีประโยชน์ในด้านปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพของดินให้ดีขึ้น เช่น ช่วยให้รากต้นยางชอนไชได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ดินเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นาน ปุ๋ยอินทรีย์จะให้ธาตุอาหารในปริมาณที่น้อย เมื่อเทียบกับปุ๋ยเคมี และปริมาณธาตุอาหารของปุ๋ยอินทรีย์แต่ละชนิดจะแตกต่างกันไป มีอัตราส่วนไม่แน่นอนแหล่งที่มาของปุ๋ยวิธีใส่ปุ๋ยรองก้นหลุม
- ในแหล่งปลูกยางเดิม ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร แยกดินที่ขุดเป็น 2 พวก คือดินชั้นบน และดินชั้นล่าง ใช้ดินชั้นบนกลบลบไปก่อน ส่วนดินล่างใช้ คลุกกับปุ๋ยฟอสเฟต จำนวน 170 กรัมต่อหลุม แล้วกลบดินล่างที่คลุกปุ๋ยลงไปให้เต็มหลุม
- ในแหล่งปลูกยางใหม่ การเตรียมหลุมปลูกสำหรับการปลูกลึก ถ้าใช้แรงงานคนขุด ใช้ขนาดหลุม 50x50x50 เซนติเมตร แต่ถ้าใช้สว่านติดท้ายรถแทรกเตอร์เจาะหลุม ในกรณีที่ใช้ยางชำถุงขนาด 2 ฉัตร ควรเจาะหลุมให้ลึกกว่าปกติ คือใช้ค่าเฉลี่ยความสูงจากก้นถุงถึงฉัตรที่ 1 ของวัสดุปลูกเป็นขนาดความลึกของหลุม ซึ่งปกติจะลึกประมาณ 60-70 เซนติเมตร ใช้ดินทั้งหมดที่ขุดขึ้นมาจากหลุมผสมคลุกเคล้ากับปุ๋ยหมัก 5 กิโลกรัม และปุ๋ยหินฟอสเฟต จำนวน 60 กรัม คลุกให้เข้ากัน ค่อยทยอยกลบดินที่ผสมปุ๋ยแล้วลงหลุมให้เต็มและอัดดินให้แน่นเสมอระดับดินเดิม
2. ปุ๋ยบำรุง เป็นปุ๋ยที่ใส่เพื่อเร่งให้ต้นยางโตได้ขนาดกรีดเร็วขึ้น ต้นยางที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ยบำรุงเลย จะกรีดได้เมื่ออาุยุประมาณ 8 ปี หรือเมื่ออายุมากกว่านั้น แต่ต้นยางที่ใส่ปุ๋ยบำรุงจุโตได้ขนาดกรีดเมื่ออายุประมาณ 5 ปีครึ่ง ถึง 6ปีครึ่ง
ตารางการใช้ปุ๋ยในยางเล็กก่อนเปิดกรีด
หมายเลขสูตรปุ๋ย สูตรปุ๋ยเม็ด สูตรปุ๋ยผสม ชนิดของดิน อายุของต้นยาง สูตร 1 11-6-4 8-14-3 ดินร่วน น้อยกว่า 42 เดือน สูตร 2 18-4-5 13-9-4 ดินร่วน 42 เดือน ถึงได้ขนาดกรีด สูตร 3 10-5-9 8-13-7 ดินทราย น้อยกว่า 42 เดือน สูตร 4 14-4-9 11-10-7 ดินทราย 42 เดือน ถึงได้ขนาดกรีดเวลาและอัตราการใส่ปุ๋ย
ปุ๋ยสำหรับยางเล็กมีเวลาที่ใส่ปุ๋ย และอัตราการใช้แตกต่างกันตามความต้องการของต้นยางและฤดูกาลที่ใส่ปุ๋ยตามตาราง