我们爱英文简介!พระสงฆ์กับงานแพร่ธรรม..


我们爱英文简介!
พระสงฆ์กับงานแพร่ธรรม

"..คริสตชนคาทอลิกทุกคนได้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการประกาศข่าวดีหรืองานแพร่ธรรมสู่ปวงชนของพระศาสนจักร โดยส่งเสริมให้ทุกคนสวดภาวนาเพื่อการประกาศข่าวดี และการบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจการด้านการประกาศข่าวดีให้ทุกคนได้คิดให้ไกลจากความต้องการของตนเอง มองไปยังสถานที่ ท้องถิ่น หรือบุคคลที่มีความลำบากกว่าตนเอง และช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยเพื่อเสริมสร้างพระอาณาจักรสวรรค์ในทุกแห่งทั่วโลก ฝึกสมาชิกของเราให้เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ.."
PMS...
http://www.thaicatholicmission.com/main/2008-11-13-01-39-27/50-news-2010/445-pms-34-

http://www.pmsthailand.com/
สมณองค์กรสหพันธ์ธรรมทูตของพระสงฆ์และนักบวช
( Pontifical Missionary Union of Clegy)
        มีคุณพ่อเปาโลมานนา สงฆ์คณะ PIME เป็นผู้ก่อตั้งในปี 1917 มีจุดมุ่งหมายที่จะให้กำลังใจ บรรดาพระสงฆ์-นักบวช ให้ดำรงชีวิตมั่นคงในกระแสเรียก อีกทั้งมีจิตใจเป็นธรรมทูตในพื้นที่ที่ทำงาน โดยถืออุดมคติว่า "พระศาสนจักรทั้งหมดร่วมใจกันทำงานแพร่ธรรม เพื่อการกลับใจ ของคนทั้งโลก"
องค์กรนี้ได้พิมพ์หนังสือนิตยสารชื่อ "ออมนิส แตรรา" เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์งานด้านการแพร่ธรรมของสงฆ์ และนักบวชทั่ว

"หัวใจของงานแพร่ธรรม?"

พระเยซูเจ้าได้ตรัสไว้อย่างชัดเจนว่า  "ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทุกคน"  (มก.16,15)  นี่เป็นคำสั่ง มิใช่เป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น  ยิ่งกว่านั้นงานแพร่ธรรมยังถือเป็นงานสำคัญอันดับหนึ่ง  ไม่ใช่อันดับรอง ฉะนั้นทุกคนจะต้องทุ่มเท  สรรพกำลัง ทั้งหลายแหล่ให้แก่งานนี้ มากยิ่งกว่างานอื่นๆ 

องค์ประกอบแรกที่สำคัญและจำเป็น จะขาดเสียมิได้ในการแพร่ธรรมคือ ตัวบุคคลซึ่งจะทำหน้าที่แพร่ธรรม  เพราะการแพร่ธรรมเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตที่ได้สัมผัสกับพระเจ้า  จึงไม่มีเครื่องมืออื่นใดที่จะมาทำหน้าที่แทนได้  นักบุญเปาโลกล่าวไว้ว่า  "ความเชื่อเกิดจากการฟัง"(รม.10:171) ก็หมายความว่าต้องมีผู้ประกาศ จะมีอย่างอื่นทุกอย่างแล้วไม่มีผู้ประกาศไม่ได้  เมื่อผู้ประกาศหรือผู้แพร่ธรรมมีความสำคัญเช่นนี้ สิ่งแรกที่ควรนำมาพิจารณาในการปรับปรุงการแพร่ธรรมของเราก็คือ  ตัวบุคคลที่จะทำการแพร่ธรรมนั้นมีเพียงพอแล้วหรือยัง  และมีประสิทธิภาพในการแพร่ธรรมเพียงไร

พูดถึงการแพร่ธรรม    แต่เดิมเราก็เข้าใจกันว่าเป็นหน้าที่เฉพาะของพระสงฆ์นักบวช ส่วนฆราวาสเป็นเพียงผู้รับฟังเท่านั้น ฉะนั้นจึงเห็นว่าผู้ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปประกาศพระศาสนานั้นจึงเป็นพระสงฆ์นักบวชเสียส่วนใหญ่  และเราก็ยังเห็นอีกว่า ลำพังพระสงฆ์และนักบวชนั้นมีจำนวนน้อยมาก  ไม่พอกับจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงพูดได้เต็มปากว่า  ถ้าจะจำกัดวงการแพร่ธรรมให้เป็นหน้าที่เฉพาะของพระสงฆ์  นักบวชแล้ว  ก็ไม่มีวันที่เราจะบอกว่าผู้แพร่ธรรมของเรามีจำนวนพอแล้ว  มาในสมัยสังคายนาวาติกันที่  2 ความเข้าใจเรื่องการแพร่ธรรมมีความลึกซึ้งกว้างขวางยิ่งขึ้น  ในเอกสารของสังคายนาว่าด้วย  "ฆราวาสแห่งธรรม"  มีกล่าวไว้ชัดแจ้งว่า"แม้แต่ฆราวาสก็เช่นเดียวกัน  ย่อมมีส่วนในหน้าที่สงฆ์ หน้าที่ประกาศกและหน้าที่ปกครองของพระคริสตเจ้า  ดังนั้นฆราวาสจึงมีบทบาทหน้าที่ของตนเฉพาะในภารกิจของประชากร  ของพระเจ้าในพระศาสนจักรและในโลกทั้งหมด  (บทที่1 ข้อ  2)  บทบาทเหล่าฆราวาสทุกคนได้มาทางศีลล้างบาป ซึ่งทำให้พวกเขาร่วมสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า และโดยทางศีลกำลังซึ่งทำให้พวกเขามีพละกำลังเข้มแข็งโดยอำนาจของพระจิต  เหมาะสมกับงานแพร่ธรรมนี้  (บทที่1 ข้อ 3)

 นอกจากนั้น  เอกสารสังคายนาวาติกันที่  2 ว่าด้วย"งานแพร่ธรรมของพระศาสนจักร" ยังกล่าวไว้อีกว่า  "พระศาสนจักรเป็นผู้แพร่ธรรมโดยธรรมชาติ" (บทที่  1 ข้อ  2)  พระศาสนจักรในความหมายนี้มิได้หมายถึงเฉพาะพระสงฆ์  นักบวช  อย่างที่เคยเข้าในมาก่อน แต่หมายถึงประชากรของพระเป็นเจ้าทั้งหมดรวมกัน(ธรรมนูญว่าด้วย "พระศาสนจักร"  บทที่ 2  ข้อ 8) ซึ่งประกอบด้วยพระสงฆ์  นักบวช  และฆราวาสทุกคนนั่นเอง ฆราวาสจึงมีส่วนในงานแพร่ธรรม มิใช่เพียงในฐานะผู้ช่วยแบ่งเบาภาระของพระสงฆ์ หรือรับมอบหมายหน้าที่จากพระสงฆ์มากระทำ แต่เป็นผู้ร่วมงานของพระสงฆ์โดยแท้จริง  โดยสิทธิและอำนาจที่ได้รับมาจากศีลล้างบาป

อ้างอิง http://www.catholic.or.th/spiritual/article/article06/arti088.html


ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon สอนร้องเพลง 5 อ่าน 2,074 14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
caicomputer Icon Saint the Star.. เซนต์ เดอะ สตาร์... Saint Smart Team Work อ่าน 1,026 14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
caicomputer Icon โชคดี ตรุษจีน ปีกระต่ายทอง อ่าน 1,047 14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
14 ปีที่ผ่านมา
15 ปีที่ผ่านมา