อย่าปล่อยให้โรคกระดูกพรุนทำลายชีวิต ตรวจเช็คสุขภาพกระดูกตั้งแต่วันนี้

chutikanjida profile image chutikanjida

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)

     ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือโรคที่ความหนาแน่นของเนื้อกระดูกน้อยลงจากการสะสมกระดูกน้อยเกินไปในขณะที่กำลังเจริญเติบโต หรือมีการสูญเสียมวลกระดูกอย่างมากหลังจากเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ทำให้กระดูกเปราะบางไม่สามารถรับน้ำหนักและแตกหักตามมา อาจเกิดมาจาก 2 ปัจจัย คือ พันธุกรรมและการดำเนินชีวิตที่มีผลต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุนได้เร็วขึ้น โดยปกติมักพบมากในเพศหญิง แต่เพศชายสามารถพบได้ 20 เปอร์เซ็นต์ โรคนี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถพบได้ในวัยหนุ่มสาว

โรคนี้สำคัญอย่างไร
     โรคกระดูกพรุนเป็นลักษณะบ่งบอกถึงความชรา พบมากในหญิงสูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้นโอกาสเป็นโรคนี้ก็มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกระดูกบางถึงระดับที่ไม่สามารถรับน้ำหนักหรือแรงกระแทกได้ก็จะเกิดกระดูกหัก ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในขณะทำกิจวัตรประจำวันตามธรรมดาหรือเกิดขึ้นเมื่อได้รับอุบัติเหตุหกล้ม แม้ว่าอุบัติเหตุนั้นจะดูเล็กน้อยก็ตาม กระดูกที่มักจะหัก ได้แก่ กระดูกต้นขา และกระดูกข้อมือ

อันตรายจากกระดูกหัก
     เป็นผลอันร้ายแรงที่เกิดขึ้นหลังจากกระดูกพรุน กรณีเกิดกระดูกสันหลังหักจะมีความเจ็บปวดมาก จำเป็นต้องนอนพักในเตียงนานเป็นเดือน เมื่อขยับตัวจะเจ็บมากและจะทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยความลำบาก หลังจากนั้นหลังจะโก่ง ค่อมลง ส่วนกระดูกต้นขามักจะหักตอนหกล้ม ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจะได้รับการผ่าตัดเพื่อใส่เหล็กที่กระดูกต้นขาใหม่แทนส่วนที่หัก บางคนไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัด อาจเป็นเพราะมีโรคประจำตัวที่ทำให้มีความเสี่ยงในการผ่าตัดสูงขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ป่วยกระดูกต้นขาหักทั้งที่ได้รับการผ่าตัด และไม่รับการผ่าตัดมากกว่าครึ่งจะไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป จะต้องใช้ชีวิตอยู่แต่บนเตียงและต่อมามักจะสียชีวิตเนื่องจากมีโรคแทรกซ้อนตามมา เช่น ปอดบวม มีแผลกดทับที่สะโพก สำลักอาหาร เป็นต้น เป็นภาระมากขึ้น จะเห็นว่าเป็นปัญหาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต

ภัยที่น่ากลัวกว่านี้ก็คือ
     โรคกระดูกพรุนมักเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นสะสมในร่างกายมานานโดยที่ผู้ป่วยไม่ทราบเพราะไม่มีอาการแต่อย่างใด จนกว่าจะเกิดอุบัติเหตุกระดูกหัก จึงทำให้คนจำนวนมากไม่ทราบว่าสภาวะกระดูกของตนเองนั้นบางไปมากน้อยเพียงใดแล้ว และไม่ได้สนใจที่จะดูแลป้องกันภาวะกระดูกพรุนอย่างจริงจัง

โรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
- หญิงวัยหมดประจำเดือน : จะพบว่ามีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียเนื้อกระดูกมากขึ้น 10% ภายใน 5 ปี แรกที่หมดประจำเดือน
- อายุ 40 ปี : ร่างกายจะมีการสูญเสียเนื้อกระดูกไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ ทั้งในชายและหญิงประมาณ 0.5 – 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
- อายุ 50 ปี : ในคนเอเชียพบว่าจะมีการสูญเสียเนื้อกระดูกเพิ่มมากขึ้นเป็น 3 – 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี หลังจากช่วงนี้แล้ว อัตราการสูญเสียเนื้อกระดูกจะลดลงเข้าสู่แบบเดิมคือประมาณ 0.5 – 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

     สรุปได้ว่าเกิดจากกระบวนการสร้างกระดูกใหม่ทดแทนกระดูกเก่าที่เสื่อมสภาพไม่สมดุลกับกระบวนการสลายของกระดูก ผู้หญิงที่มีการออกกำลังกายน้อย และมีมวลกระดูกต่ำตั้งแต่อายุยังน้อยเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน

สาเหตุอื่นที่เกิดกระดูกพรุน
1.พันธุกรรม พบว่าชาวผิวขาวมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าชนผิวดำ (นิโกร) ส่วนชาวเอเชีย (รวมทั้งคนไทย) เป็นพวกเผ่ามองโกลอย จะเก็บสะสมเนื้อกระดูกได้มากกว่าชาวผิวขาวแต่น้อยกว่าชาวผิวดำ
2.ปริมาณแคลเซียมที่ได้รับและเก็บสะสมไว้ในขณะนั้น ซึ่งปริมาณแคลเซียมที่เหมาะสมของแต่ละช่วงอายุมีดังนี้

3.สารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างเนื้อกระดูก
     3.1 โปรตีน ปริมาณอาหารโปรตีนที่รับประทานจะต้องสมดุลกับปริมาณแคลเซียมด้วย มีรายงานหลายฉบับชี้ให้เห็นว่า การบริโภคโปรตีนที่มากเกินไป จะทำให้มีการสูญเสียแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะในปริมาณที่มากกว่าที่พบในกลุ่มที่บริโภคโปรตีนต่ำกว่า
     3.2 ฟลูออไรด์ แมกนีเซียม และโประแตสเซียม เหล่านี้เป็นสารที่พบปริมาณน้อย แต่มีความจำเป็นในการสร้างกระดูก
     3.3 ฮอร์โมนเพศ เพศหญิงจะเห็นได้ชัดเจนในช่วง 5 ปีแรกของการหมดประจำเดือน ซึ่งในช่วงนั้นสุขภาพสตรีทุกคนจะมีการสูญเสียเนื้อกระดูกอย่างรวดเร็ว (3-5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี) ถ้าคูณตัวเลขเหล่านี้จะเห็นว่าสูงถึง 15-25 เปอร์เซ็นต์ ของกระดูกในร่างกาย สำหรับเพศชายนั้นไม่มีช่วงที่สูญเสียเนื้อกระดูกมากๆ อย่างในหญิงวัยหมดประจำเดือน ยกเว้นว่ามีความผิดปกติของการผลิตฮอร์โมนเพศชายจะทำให้เนื้อกระดูกบางกว่าปกติ
     3.4 หญิงที่มีการผ่าตัดเอารังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง จะเกิดการสูญเสียเนื้อกระดูกในลักษณะดังกล่าวในช่วงหลังการผ่าตัด
4.ปัจจัยที่สร้างการต้านสะสมเนื้อกระดูก
     4.1 การทานโซเดียมหรือเกลือมากเกินไป ร่างกายจะต้องขับเกลือส่วนเกินออกทางปัสสาวะและจะขับแคลเซียมออกมาด้วย ทำให้มีการสูญเสียแคลเซียมไปทางปัสสาวะมากขึ้น
     4.2 แอลกอฮอล์ บุหรี่และกาแฟ จะลดการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย ทำให้การสร้างเนื้อกระดูกไม่มีประสิทธิภาพ
     4.3 ยาหลายชนิดโดยเฉพาะสเตียรอยด์ ยากลุ่มนี้จะทำให้มีการสลายของกระดูกมากขึ้น จนเกิดภาวะกระดูกพรุน จะมีอาการปวดหลังปวดกระดูกตามมา
     4.4 คนที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ (Hyperthyroidism) และโรค Cushing
5.ลักษณะการดำเนินชีวิต (Lifestyle) การทำงานออกแรงและการออกกำลังกายจะทำให้เกิดแรงกดที่กระดูก ซึ่งจะทำให้ร่างกายเสริมกระดูกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

อาการของโรคกระดูกพรุน...เป็นอย่างไร
     ช่วงแรกจะสังเกตไม่เห็นอาการ แต่หากพบว่าส่วนสูงเริ่มลดลง มีอาการหลังค่อม ต่อมารู้สึกปวดที่กระดูก โดยปวดลึกๆ ที่กระดูก เช่น ที่กระดูกหลังขา กระดูกจะหักง่ายเมื่อล้ม

     สามารถตรวจร่างกายดูว่ากระดูกพรุนได้หรือไม่ การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density : BMD) โดยเครื่องมือที่อาศัยหลักการทางการเอ็กซเรย์เป็นหลัก เครื่องนี้จะวัดว่ากระดูกมีเนื้อหรือมวลกระดูกมากน้อยเพียงใด และนำค่าที่วัดได้มาเปรียบเทียบกับค่ามวลกระดูกมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันใช้ค่ามวลกระดูกของสตรีชาวญี่ปุ่นเป็นหลัก การเอ็กซเรย์ธรรมดาไม่สามารถจะใช้ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกได้ จนกว่ากระดูกบางไปมากเกินกว่าครึ่งแล้วซึ่งถือว่าช้าเกินไป

ผู้หญิงทุกคน...ต้องตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกหรือไม่ และจะต้องทำเมื่อไหร่

     ไม่จำเป็นว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องตรวจความหนาแน่นของกระดูก แนะนำให้ตรวจเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน ได้แก่

     1.ผู้ที่มีประวัติทำงานออฟฟิศทั้งวัน ไม่โดนแดดประจำ  
     2.ผู้ที่มีโรคที่ทำให้กระดูกบางลง เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ, โรคทางลำไส้ดูดซึมอาหารไม่ดี (ควรตรวจช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือช่วงจะหมดประจำเดือน ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอตลอดเวลาด้วย)
     3.ผู้ที่จะต้องรับยาที่ทำให้มีการสูญเสียเนื้อกระดูกมากกว่าปกติ เพื่อช่วยในการรักษาโรคต่างๆ (ถ้าได้รับยาสเตียรอยด์ปริมาณมากเพื่อควบคุมโรค ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลเพื่อพิจารณาเวลาที่เหมาะสมในการติดตามดูปริมาณเนื้อกระดูก เพราะผู้ป่วยแต่ละคนจะได้รับยาในปริมาณที่แตกต่างกัน)
     4.ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเอารังไข่ออกทั้งสองข้างในช่วงก่อนหมดประจำเดือน (ควรตรวจหลังจากการทำผ่าตัดแล้วติดตามอีก 1-2 ครั้ง ภายในช่วง 5 ปีแรกหลังการผ่าตัด)

     อย่าปล่อยให้...โรคกระดูกพรุนทำลายชีวิตท่าน เราสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ด้วยตนเอง โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช้แรงหักโหมจนเกิดความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อกระดูกและร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามโภชนาการที่ร่างกายควรได้รับ บริโภคโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรดสูงและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชาหรือกาแฟ ไม่สูบบุหรี่ ระมัดระวังในการใช้ยา โดยเฉพาะยากลุ่มสเตียรอยด์ที่ต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือมาตรวจเช็คสุขภาพกระดูกของท่านตั้งแต่วันนี้...ด้วยโปรแกรมกระดูกสันหลังและโรคกระดูกพรุน ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลนนทเวชศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลนนทเวช ยินดีให้คำแนะนำและให้การรักษาอย่างมืออาชีพ ด้วยทีมศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์เฉพาะทาง ร่วมกับวิสัญญีแพทย์ และทีมสหสาขาวิชาชีพทั้งพยาบาล นักกายภาพบำบัด และเภสัชกร

ขอบคุณข้อมูล : นพ.ชัชวาล ปิยะวรรณสุทธิ์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เฉพาะทางกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนนทเวช  https://www.nonthavej.co.th/Osteoporosis.php

ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

oatgames Icon กล่องแบบเข้ามุม 45 องศา อ่าน 2 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา
14 ชั่วโมงที่ผ่านมา
clubphone Icon รับซื้อ Samsung​ Galaxy S24 Ultra อ่าน 5 1 วันที่ผ่านมา
1 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องของขวัญจากงานไม้ อ่าน 4 1 วันที่ผ่านมา
1 วันที่ผ่านมา
1 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องไม้สนแบบฝาครอบ อ่าน 9 2 วันที่ผ่านมา
2 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องไม้สนแบบฝาล็อค 1 อ่าน 10 6 วันที่ผ่านมา
6 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon แผ่นป้ายสแกนจ่าย QR Code อ่าน 12 7 วันที่ผ่านมา
7 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องไม้สีมะฮอกกานี อ่าน 10 8 วันที่ผ่านมา
8 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องฝาสไลด์ดึงขึ้นด้านบน อ่าน 13 9 วันที่ผ่านมา
9 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องใส่องค์พระพุทธรูป สีสัก อ่าน 14 11 วันที่ผ่านมา
11 วันที่ผ่านมา
12 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องใส่องค์พระพุทธรูป อ่าน 18 13 วันที่ผ่านมา
13 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon กล่องไม้สนแบบฝาล็อคอครีลิคใส อ่าน 16 14 วันที่ผ่านมา
14 วันที่ผ่านมา
oatgames Icon ถาดไม้ขนาดเล็ก อ่าน 15 15 วันที่ผ่านมา
15 วันที่ผ่านมา