เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟ คาเฟอีน & ภาวะต่างๆ
- โรคกระเพาะอาหาร คาเฟอีนจะไปเพิ่มการหลั่งของกรด ในกระเพาะอาหาร อาจทำให้เกิด การระคายเคืองหรือแผลใน กระเพาะอาหาร อาจกำเริบหรือ ลุกลามมากขึ้น ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าคาเฟอีน แค่ไหน จึงจะส่งผลต่อโรค กระเพาะอาหาร แต่คาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นกระเพาะอาหาร ให้หลั่งกรดออกมาเพื่อช่วย ย่อยอาหารอยู่แล้ว
- โรคไต คาเฟอีนจะไปกระตุ้นการ ถ่าย ปัสสาวะ ซึ่งก็คือการเพิ่มภาระ ให้ไตที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ให้ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น กาแฟมีคุณสมบัติเป็นยาระบาย และยาขับปัสสาวะอย่างอ่อนๆ อยู่แล้วการดื่มที่มากเกิน 2-3 แก้วต่อวันอาจสร้างปัญหากับไต ได้
- โรคหัวใจ มีความเชื่อกันว่า ผู้ป่วยที่มีอาการ หัวใจพิบัติ (Heart Attack) ห้ามดื่ม กาแฟโดยเด็ดขาดและปัจจุบันก็ยัง คงเป็นเช่นนี้ อยู่หลายๆคน ผลการศึกษาในอังกฤษ และ สหรัฐพบว่า การดื่มกาแฟ แบบกรอง (Filtered Coffee) ไม่ได้เป็นสาเหตุให้หัวใจเต้น ผิดปรกติ ในผู้ที่เคยมีอาการ หัวใจพิบัติมาก่อน แต่เมื่อเรา ดื่มกาแฟสักถ้วย หัวใจจะเต้น เร็วขึ้น และความดันโลหิตจะ สูงขึ้นเล็กน้อยเป็นปรกติ การนอนหลับ สารคาเฟอีนในกาแฟเป็นตัว กระตุ้นให้ต่าสว่าง และทำให้สมอง ตื่นตัวซึ่งอาจส่งผลต่อการนอน หลับได้ การเลี่ยงกาแฟตั้งแต่ช่วงบ่าย ร่างกายจะสามารถ ปรับสภาวะ ได้เนื่องจากคาเฟอีนจะถูกขับ ออกจาก ร่างกายในรูปแบบของ ปัสสาวะ เป็นส่วนใหญ่ และ กระตุ้นให้ตาสว่าง เพียง 2-3 ชั่วโมง หลังจากที่ดื่มกาแฟ เข้าไปแล้วเท่านั้น
- โรคซึมเศร้า สารคาเฟอีนในกาแฟเป็นตัว กระตุ้นให้ต่าสว่าง และทำให้สมอง ตื่นตัวซึ่งอาจส่งผลต่อการนอนหลับ ได้ การดื่มกาแฟวันละ 4 ถ้วย อาจทำให้ได้รับคาเฟอีนมาก เกินไปและอาจ ส่งผลให้อาการ ซึมเศร้าแย่ลงได้จริง จึงไม่ควร ดื่มชาหรือกาแฟตั้งแต่ช่วงบ่าย เป็นต้นไป อาการปวดศรีษะ ปริมาณคาเฟอีน ที่มากเกินไป อาจทำให้ปวดศรีษะ เนื่องจากเกิด การเปลี่ยแปลงของเลือด ที่ส่งไป สมอง การถอนคาเฟอีน อย่างเร็ว อาจทำให้ ปวดศรีษะอย่างแรง กระสับกระส่าย และง่วงนอน การดื่มกาแฟไม่เกิน 2-3 ถ้วย ต่อวันทำให้ปริมาณ คาเฟอีน ไม่เป็นโทษ ต่อร่างกาย การดื่ม กาแฟแต่น้อยช่วยแก้ อาการ ปวดศรีษะบ่อยๆได้ ไม่ควรเลิก กาแฟโดยทันที ควรทำอย่างค่อย เป็นค่อยไป ค่อยๆลดปริมาณ การดื่มลง ลดความถี่ในการดื่ม ด้วย งานวิจัยล่าสุดจากสหรัฐชี้ว่า คาเฟอีนอาจช่วยรักษา อาการ ปวดศรีษะ จากความเครียด โดยเป็นตัวเร่ง ให้ยาแก้ปวด ชนิด ไอบิวโพรเฟนออกฤทธิ์ ไวขึ้น
- อาการปวดหลัง นักดื่มกาแฟหลายคน รู้สึกว่าเมื่อ ดื่มกาแฟ แล้วรู้สึกปวดหลังมากขึ้น หากมีอาการปวดหลัง ควรงด เครื่องดื่ม ที่มีคาเฟอีนเนื่องจาก คาเฟอีนจะไป กระตุ้นให้ปลาย เส้นโลหิตฝอยตีบลง ซึ่งจะทำให้ เลือดและสารอาหารต่างๆไหล ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อ ของกระดูก สันหลัง ได้น้อยลง อาจทำให้หาย จากอาการปวด หลังได้ช้าลง
- วิตกกังวล การได้รับคาเฟอีนในปริมาณ ที่มากเกินไป อาจทำให้กระวน กระวาย ร่างกายตื่นตัวมากเกินไป โดยเฉพาะคนที่ไวต่อสารคาเฟอีน อาจทำให้อาการวิตกกังวลแย่ลง ยอมรับว่าการดื่มกาแฟในปริมาณ ที่มากเกินไป ส่งผลต่อความวิตก กังวลได้จริง ผู้ดื่มกาแฟจึงควร สังเกต ตัสเองว่าไวต่อคาเฟอีน แค่ไหน แล้วค้นหาปริมาณกาแฟ ที่เหมาะสมกับตัวเอง
- กระดูกพรุน คาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์ ขับแคล เซียมออกจาก กระแสโลหิต อาจทำ ให้ผู้หญิงอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อโรค กระดูกพรุนมากขึ้น ยอมรับว่าคาเฟอีนในปริมาณ มากเกิน 300 มก.ต่อวัน จะเข้าไป ขัดขวางการ ดูดซึมของแคลเซียม และเป็นตัวเร่งอัตราการสูญเสีย แร่ธาติจากกระดูกได้ แต่ปริมาณ ดังกล่าวคือ 2-3 แก้วต่อวัน
- มะเร็งเต้านม ผู้หญิงมักรู้สึกไม่ดีกับกาแฟ มากกว่าผู้ชายเพราะ ส่งผลเสียมากกว่า และยังมีความเชื่อที่บอกต่อๆมาว่า กาแฟอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อมะเร็งเต้านมได้ นักวิจัยมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ของสถาบัน คาโลลินสกา ประเทศ สวีเดน ได้ศึกษาผู้หญิงสวีเดน จำนวนถึง 6 หมื่นคนด้วย เวลา ยาวนานถึง 13 ปี พบว่ากาแฟ ไม่ได้เป็น ความเสี่ยงหนึ่งของ โรคร้ายนี้แต่อย่างใด
- โรคหอบ เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่บอกต่อๆ กันมาว่ากาแฟเป็น สาเหตุหนึ่งของโรคหอบ คาเฟอีนในกาแฟจะระงับ การตึง เครียดของ ประสาทสำรอง อันเป็น ส่วนที่ทำให้เกิด โรคหอบหากถูก กระตุ้น ละลายไขมัน ยังไม่มีข้อกล่าวหาว่ากาแฟ ทำให้อ้วนขึ้น การดื่มกาแฟเล็กน้อยหลังอาหาร ช่วยให้ไขมันแตกตัว ทำให้น้ำย่อย ในกระเพาะ และตับอ่อนหลั่งดีขึ้น ช่วยในการเผาผลาญไขมัน
- ความต้องการทางเพศ คาเฟอีนทำให้ความต้องการ ทางเพศลดลง ไม่สามารถหาข้อมูลมายืนยัน ได้ว่าข้อกล่าวหานี้จริงหรือไม่ แต่การมีระดับโคเลสเตอรัลสูง การเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือการใช้ยาบางชนิดก็มีผลทำให้ สมรรถภาพทางเพศเสื่อมลง ได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://content.weloveshopping.com
ความคิดเห็น
ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน
12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา