รบกวนขอคำปรึกษา ปัญหาที่ดินค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า ตาซื้อที่ดิน ส.ค. 1 เนื้อที่ 26 ไร่ เมื่อปี 2495 โดยตาได้อยู่กินกับยาย ตั้งแต่ปี 2494 และปี 2504 จึงได้ทำการออกโฉนดที่ดินผืนนี้ ตากัยยาย มีบุตรบุญธรรม 2 คน คือ แม่ของดิฉัน (มีการจดทะเบียนรับรองบุตรปี 2508 ) และน้า (ไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร แต่แสดงออกให้คนทั่วไปรู้ว่าเป็นบุตร ) ต่อมาในปี 2513 ตากับยายได้จดทะเบียนสมรสกัน และในปี 2530 ตาได้ทำพินัยกรรมยกที่ผืนนี้ โดยให้แม่ 4 ไร่ และให้น้า 22 ไร่ หลังจากนั้นจึง โอนที่ดินให้แม่และน้า มีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ตาได้เสียชีวิตในปี 2531 และยาย ซึ่งมีชื่อเป็นผู้จัดการมรดก เสียชีวิตในปี 2552 โดยยังไม่ได้จัดการใดๆกับที่ดินผืนนี้
ตอนนี้แม่ต้องการแบ่งแยกที่ดิน แต่มีปัญหาคือ ตกลงกันไม่ได้ เพราะในภาพโฉนดที่ทั้งผืนถือเป็นที่ตาบอด เนื่องจากไม่ปรากฎว่ามีถนนในภาพโฉนด แต่ในความเป็นจริงคือ ตาได้ซื้อที่บางส่วนของที่ดินแปลงด้านหน้า (ซื้อขายโดยไม่มีเอกสาร มีแค่พยานรู้เห็น) เพื่อทำเป็นถนนออกสู่ทางสาธารณะ และภายในที่ดินก็ได้มีการทำถนนเพื่อให้รถสามารถวิ่งได้ น้าได้อ้างว่าตนมีสิทธิ์ในที่ดินมากกว่าและถือครองโฉนดอยู่จึงได้ถือสิทธิ์ในการที่จะเลือกแบ่งที่ดินตามความต้องการของตนเองซึ่งเป็นส่วนที่ลึกที่สุดของที่ดินและไม่ติดกับทางที่สามารถสัญจรได้ของที่ดินผืนนี้ (ที่ตาบอด) และไม่ยอมแบ่งที่ดินให้ทำทางใดๆ เพียงแต่อ้างด้วยวาจาว่า มีแผนจะทำทางรอบเขตที่ดินและ ยอมให้เราผ่านที่ดินของตนได้ตลอด (ทั้งๆที่ ทำประตูปิดล็อคที่ทางเข้าที่ดินด้านหน้า) เมื่อปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ของที่ดินก็ไม่ได้รับคำแนะนำเพิ่ม มีคำพูดแค่พียงว่า “เป็นที่ตาบอด จะแบ่งยังไงก็ตาบอด” และไม่ได้ช่วยไกล์เกลี่ยใดๆ ตอนนี้เพิ่งทำการรังวัดเสร็จสิ้น แต่ยังไม่ได้มีการแบ่งแยก ดิฉันเลยขอคำปรึกษาว่า
1. จะทำยังไงถึงจะได้รับความเป็นธรรม ควรระงับการแบ่งแยกหรือไม่ หรือแบ่งแยกแล้วจึงฟ้องขอให้น้าเปิดทางให้
2. หากเราระงับหรือยกเลิกการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ โดยน้าเป็นผู้ถือครองโฉนดเช่นเดิม จะเกิดผลอะไรหรือไม่ในอนาคต เพราะน้าอ้างว่าได้ทำกินในที่ดินผืนนี้ แต่แม่ไม่ได้ทำกิน เพียงแต่มีการปลูกมะม่วงทิ้งไว้ในที่บางส่วนเท่านั้น
3. ถ้าฟ้องในส่วนพินัยกรรมสินสมรสจะเป็นได้หรือไม่ หรือควรจะฟ้องประเด็นไหน จึงจะมีโอกาสที่จะชนะคดี
ตอนนี้นึกอะไรไม่ออกเลยค่ะ ว่าจะทำยังไงต่อไปดี จึงรบกวนขอคำแนะนำ และขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ