ขออนุญาตแนะนำตัวคร่าวๆนะครับ ผมกร อายุ 33 แล้ว ปัจจุบันรับราชการอยู่จังหวัดทางภาคใต้ ตำแหน่งก็อำนวยการระดับต้น ต้องขออภัยถ้าผมจะบอกว่าตัวเองอยู่บนถนนสายสีม่วง หรือก็พวกรักร่วมเพศนี่หล่ะครับ ลักษณะทางกายภาพก็แมนๆนี่ละ อีกทั้งยังหน้าที่การงานและสังคมมันค้ำคอ จึงไม่สามารถแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองได้เท่าที่ควร ที่เขียนมานี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์และเล่าสิ่งที่เคยประสบพบเจอ ในวังวนของการรับเลี้ยงดู ดูแล คนหลายวัย หลายประเภท ที่เข้ามาในชีวิต ทั้งจริงใจและโดนหลอกเพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้ทั้งคนที่คิดจะรับเลี้ยงใครสักคน หรือคนที่คิดจะหาใครรับเลี้ยง ว่าในโลกใบนี้ยังมีคนอีกหลายประเภทให้ต้องศึกษา
คนแรกมันเริ่มจากความเหงาส่วนตัว ที่ต้องมาทำงานในกรุงเทพฯ ตั้งแต่สมัยรับราชการใหม่ ๆ ตอนนั้นอยากมีเพื่อนชายที่นิสัยลุยๆแมนๆเหมือนกันสักคนไว้คอยดูแลกัน แชร์ความรู้สึกกัน ก็พยามหาๆไปเรื่อย จนกระทั่งมาเจอในบอร์ดหนึ่ง คนนี้เขาประกาศหารูมเมท เพราะย้ายมาเรียน กทม.ตัวผมเองก็มีคอนโดแถวสุขุมวิท ก็เลยคุยกับเขาจนกระทั่งรู้สึกว่าน่าจะไปด้วยกันได้ จึงตัดสินใจให้เขาเข้ามาอยู่ด้วยกันที่คอนโด แรกๆก็อยู่ด้วยกันดีๆหรอกครับ เรื่องพันอย่างว่าก็มีบ้างหล่ะตามประสาเกย์นะครับ พอหลังๆเข้า ตัวเขาเริ่มมีการหยิบยืมเงินทอง อ้างว่าที่บ้านส่งมาไม่พอใช้จ่าย ผมเองก็ไม่ได้มีภาระอะไร ก็ให้ยืมไป จนนานเข้า ๆ ชักจะหลายๆหมื่นแล้ว ก็เลยถามถึงเงินที่ยืม เขาก็หัวฟัวหัวเหวี่ยงหาว่าไม่เชื่อใจกันหรือไง ในว่าจะให้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ไหนว่าจะช่วยเหลือกัน ( เอาเข้าไปซิก็ไหนบอกว่าจะมาแชร์ค่าใช้จ่ายส่วนกลางไงละวุ้ย นี่เล่นกุจ่ายคนเดียว แถมยังยืมตังค์กุอีก ) และสุดท้ายเขาก็เก็บเสื้อผ้าออกจากคอนโดไป พร้อมกับการหายสาปสูญของเงินที่ให้ยืม นี่คือโง่ครั้งแรก
คนต่อมาบอกตรงๆนะครับผมชอบคนที่อายุอ่อนกว่า แต่ไม่ถึงขนาดเด็กมากนะ เพราะไม่อยากตามเลี้ยงเด็กน้อย และด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผมเจอกับเด็ก ม.ปลายคนหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ผ่านทางโปรแกรม msn ที่เขาไปโพสต์หาพี่ชายใจดีเลี้ยงดู หลังจากคุยกันมากว่าสองเดือน เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็นัดเจอตัวกัน น้องเขาก็หล่อตามแบบฉบับหนุ่มขาสั้น รร.เอกชนนี่แหละ เขาบอกว่า เขาอยากมีพี่ชาย คอยดูแล ให้ค่าใช้จ่ายส่วนตัวบ้าง สำหรับผมในตอนนั้นมีเงินประจำตำแหน่งประมาณ 5-6 พันบาทเศษ ไม่นับรวมเงินเดือน และรายได้พิเศษเฉพาะวิชาชีพ ตกราวๆ 4 หมื่นบาทเศษ ต่อเดือน ก็คิดว่าน่าจะเลี้ยงดูเขาได้ ( แค่คิดก็ผิดแล้ว ) จึงตกลงรับเลี้ยงดูเขา ให้เขาใช้เดือนละ 3,500 บาท ( ไม่รู้ว่าจะน้อยไปไหมนะครับ ) ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆเช่น ค่าโทรศัพท์,ค่าเรียนพิเศษ,ค่าอุปกรณ์การเรียน,คอมพิวเตอร์,เสื้อผ้า,กินอยู่ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบให้ทั้งหมด แต่นั้นหล่ะครับ ก็เด็กนี่แหละ ได้เจอคนดีๆก็ดีไป เจอเด็กไม่พอ นี่ปวดหัวเลย อยู่กันแปดเก้าเดือน มีเรื่องต้องให้ใช้เงินเกือบทุกวันซิน่า แต่ก็เพราะรักก็เลยยอมๆ จนกระทั่งมาถึงจุดแตกหัก เพราะเขาคิดว่าตัวเขาต้องการเงินมาใช้จ่ายมากกว่านั้น คือยื่นมาเลย เดือนละ 8,000 บาท ( ม.4 เองนะ ) และให้ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆเช่นเดิม ผมจึงอธิบายเหตุผลว่า เงินแปดพันมันไม่ได้มากมายหรอกสำหรับคนมีงานการทำอย่างผม งานนอกงานในก็ได้เยอะพอสมควร แต่ที่ไม่ให้เพราะเขายังบริหารเงินไม่เป็นเลย สุดท้ายเขาก็จากไป ซึ่งในปัจจุบันผมก็ได้ข่าวคราวว่าไปเป็นเด็กนวด เรียนมหาลัยเปิดแห่งหนึ่งแถวหัวหมาก ก็ปล่อยเขาไปตามทาง
คนต่อมา คนนี้เริ่มเป็นวัยมหาลัย น้องคนนี้ผมถือว่าตัวเองโชคดีนะครับ เขาเรียนวิศวคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านวิภาวดี เขาไปประกาศขายตัวในเว็ปหนึ่ง ใส่ชุด นศ.หราเลย ผมแอดเมลล์ไปคุย จนได้เบอร์โทรศัพท์ จริงๆเขาไม่ได้อยากจะขายตัว แต่ด้วยความจำเป็นต้องหาเลี้ยงตัวเอง และแม่ที่ค้าขายผลไม้อยู่ตรงปากซอยข้างๆ รร.สุรศักดิ์ฯ เขาไม่เคยขายตัวเลยไม่รู้จะตั้งราคาตัวเองเท่าไหร่ดี ผมคุยกับเขานานพอสมควรจึงเสนอเขาไปว่า จะให้เขาใช้เดือนละ 5,000 บาท เราสองคนวางกติกาของกันและกัน เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียว ไม่กล้าที่จะเปิดเผยเรื่องนี้กับใคร ส่วนผมก็มีหน้าที่การงานที่ไม่สามารถบอกกล่าวใครได้ เราจึงอยู่ในฐานะพี่ชายน้องชาย และน้องคนนี้ก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง ทุกครั้งที่ผลการเรียนแต่ละเทอมออกมาจะเอามาให้ผมดูตลอด เขาเองก็พยามหางานพิเศษทำ เพื่อหารายได้เสริมมาดูแลแม่ และเรียน ไม่ค่อยขอเงินผมนัก จนบางครั้งผมต้องยัดใส่มือให้เอง เหล้าบุหรี่ไม่แตะ ในช่วงนั้นผมรู้สึกมีความสุขมาก ที่ได้เด็กดีๆแบบนี้มาดูแล จนกระทั่งน้องเขาเรียนจบ และเริ่มหางานทำ ปัจจุบันเขาเป็นพนักงานเทคนิคของบริษัทสื่อสารแห่งหนึ่ง มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองและแม่ได้ ที่ผมปลื้มใจคือเขามาพบที่ทำงานพร้อมกับมากราบขอบคุณที่ดูแลเขาเป็นเวลากว่าสามปี เขานำเงินเก็บส่วนหนึ่งที่ผมได้ให้เขาเป็นค่าใช้จ่ายมาคืน บอกว่าที่ผ่านมาเขาเกรงใจ แต่วันนี้เขาดูแลตัวเองได้ดูแลแม่ได้เลยอยากจะนำเงินส่วนนี้แม้ไม่ทั้งหมด มาคืน เหมือนอะไรมันจุกคอหอยนะครับ ผมจึงนำเงินส่วนนั้นคืนกลับเขาไปบอกเขาไปว่า เอาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ จากนี้ไปอนาคตเขาจะดีกว่านี้แน่นอน เพราะความกตัญญูรู้คุณคนของเขา นี่คือเด็กที่ผมรู้สึกประทับใจที่สุดจากประสบการณ์รับเลี้ยงเด็กมา
คนต่อมา เด็กอีกแล้ว คนนี้มาไวไปไว ผมเจอเขาผ่านแคมฟร๊อก ก็มุกเดิมๆครับ หาพี่ชายคอยดูแลกัน ก็แอดไปหา คุยกันไม่นานก็นัดเจอกัน น้องอายุประมาณ 17 เรียนแถวคลองเตย น่ารักครับ คุยกันดีนะ เขาอัธยาศัยดี เล่นเอาผมเพ้อไปเลย คุยกันได้ประมาณอาทิตย์ บอกโทรศัพท์หาย ช่วยซื้อให้หน่อย ก็จัดไปครับ ช่วงนั้น bb กำลังระบาดในหมู่วัยรุ่น จัดไปเก้าพันนิดๆ หลังจากกลับบ้านไป เขาหายไปเลย ไม่รับโทรศัพท์ไม่เท่าไหร่เปลี่ยนเบอร์หนีไปซะงั้น นี่คือผลของความจริงใจที่ได้รับกลับมา เหมือนจะโง่ ครั้งที่ 2
มาอีกคนเจอในบอร์ดนี้หล่ะถ้าไม่ผิดพลาดนะครับ ประกาศโพสต์หาคนดูแลยาวๆ จริงใจๆ ตัวเองแมนๆ ก็คุยกันแลกเบอร์กัน ในวันที่คุยเขาบอกจะดูแลเขาได้ไหม ถามถึงอาชีพผม รายได้ต่อเดือนของผม ก็บอกไปตามที่มันเป็นจริง เขาคำนวนเสร็จสรรพบอกขอเดือนละ 8000 บาท และตอนนี้เขาอยากได้ Macbook เครื่องหนึ่งช่วยแสดงความจริงใจด้วยการโอนเงินมาให้หน่อยจะได้มั่นใจว่าจะดูแลกันไปเรื่อยๆ ( เอ่อ เพิ่งคุยกันวันแรกจะเอาครึ่งแสนแล้วหรือว่ะเนียะ ) และก็บอกลาไปทันที
อีกคนครับ คนนี้เป็นเด็ก ตจว. เด็กขอนแก่น ช่วงนั้นผมไปราชการที่ขอนแก่น เกือบสองอาทิตย์ เวลาว่างๆจากงานผมก็หาบอร์ดเด็กขายบ้าง เด็กหาคนเลี้ยงบ้าง ก็ไปเจอในขอนแก่นลิ้งค์ เขาโพสต์ว่า " หนุ่ม ม.ปลาย ขก.หาพี่ช่วยเหลือด่วน ยอมทุกอย่าง ผมชายแท้ " เอาละซิเข้าทาง ชอบแมนๆซะด้วย เลยแอดไปคุยไปคุยมา ( คุยกันในวันนั้นนั่นละครับ ) เขาก็บอกว่าจะโดนล็อคห้องที่หอแล้ว ไม่มีตังค์จ่ายค่าหอ 6000 บาท ด้วยความที่ชอบแนวนี้เลยไปจ่ายให้แลกกับการมีอะไรกับเขา แต่ท้ายที่สุดก็ใจไม่ถึงไม่กล้า เพราะน้องเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ แถมยังเด็กไป ก็คุยๆกันมาเรื่อยๆ ด้วยความที่บางครั้งอยากมีอะไรกับเขา ซึ่งเขาเองก็ใช่ว่าจะไม่ยอมนะครับ แต่เพราะด้วยความที่บอกไม่ถูก ก็ไม่เคยมีสักที ( ทั้งๆที่อยากมี ) จากแค่ค่าห้อง ก็ดูแลเขามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเขาเรียน ปี 2 ศิลปากร ก็ยังติดต่อกันอยู่บ้าง แต่หลังๆนี้เขาไม่ค่อยขอตังค์ใช้แล้ว
ตอนนี้ผมกำลังเริ่มต้นใหม่กับใครคนหนึ่งที่เจอในบอร์ดนี้ครับ อายุเริ่มเยอะแล้ว หน้าที่การงานเริ่มสูงขึ้น อยากมีใครสักคนที่จริงใจ เข้าใจ และพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นฐานะไหนก็แล้วแต่ แต่อย่างว่าครับ มันหายากคนจริงใจๆสมัยนี้ ฝ่ายหาเด็กเลี้ยง ก็จะเอาให้ได้ จะเลี้ยงแบบไม่มีข้อผูกมัดเรื่อง sex เลยนั้นหายาก ( แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะครับเพียงแค่ผมยังไม่เคยได้ยินเท่านั้นเอง ) แน่นอนครับ sex ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ แต่ sex เป็นปัจจัยในการดำรงอยู่ของมนุษย์ นั่นแหละที่แยกกันไม่ออก ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ใครๆเสนอตัวมาช่วยเราเพราะอยากมี sex กับเรา ก็เราอยากเกิดมาตรงเสปคเขาทำไมละครับ ทางที่ดีเราควรทำความเข้าใจและศึกษาผู้มาเสนอตัวรับเลี้ยงเลยว่า เขาเป็นยังไง กติกา ข้อผูกมัดมีอะไรบ้าง อะไรที่ทำให้เราเปลืองตัว แล้วไม่คุ้มค่า ก็ปล่อย และรอคอยคนอื่นที่เขาดูจะปลอดภัยสำหรับมากกว่า
ส่วนพวกที่หาคนเลี้ยง ก็อยากให้ใช้ใจเข้าไปแลก มากกว่าร่างกาย ให้คิดให้มากๆว่าเราอยากได้อะไรจากเขาก็ต้องเอาสิ่งที่เรามีไปแลกมา ดังนั้นของฟรีไม่มีในโลกครับ พยามใช้ใจความจริงใจสำคัญ อย่าพยามไปหลอกลวงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งของหรือสิ่งที่ตนเองอยากได้ เพราะวันนึงถ้าความแตกความรัก ความผูกพันมันจะกลายเป็นไฟลุกท่วมตัวเราเอาง่ายๆ อยากให้เขาเลี้ยงดู ก็ต้องคุยกันให้ชัดเจน อะไรได้แค่ไหน ลิมิตตรงไหน ว่ากันไปให้ชัดๆเลย และอย่าพยามเรียกร้องอะไรให้เกินตัวครับ เพราะมันจะอันตรายแก่ตัวเองได้
หวังว่าคงเป็นแนวทางให้ได้บ้าง วันหลังจะมาเล่าพฤติการณ์ ของบรรดาเด็กป๋า เด็กเลี้ยงให้ฟังอีกนะครับ