1. The Miracle of Diamond
วันนี้อาจารย์ไปเจอบทความเกี่ยวกับ “The Miracle of Diamond” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า “ความมหัศจรรย์ของเพชร” มา ก็เลยนึกถึงน้องๆ ชาว AC’CESS หรือเพื่อนๆ เผื่อจะเป็นสี่งที่กระตุ้นให้เรามีกำลังใจเมื่อเราเจอเรื่องยากๆ ที่อาจทำให้เราท้อใจในแต่ละวันได้
ปกติความรู้สึกของเรา ปกติ silver หรือเงินนี่เป็นน้องเล็ก gold หรือทองนี่เป็นพี่คนกลาง ส่วน diamond หรือเพชรนี่เป็นพี่ใหญ่ใช่ไหมครับ อย่างเช่น
silver jubilee นี่ก็ครบรอบ 25 ปี golden jubilee นี่ก็ครบ 50 ปี ส่วน diamond jubilee นี่ก็ครบ 60 ปี อย่างตอนที่ในหลวงของเราท่านครองราชย์ครบ 50 ปี นี่โรงเรียนหลายแห่งเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนกาญจนาภิเษก ซึ่งกาญจนาเนี่ยมีความหมายคือ ทอง นั่นเองครับ
เวลาเราพูดถึงเพชร เราจึงนึกถึงอะไรที่มันดีมากๆ เจ๋งมากๆ อย่างเวลาหมั้น หรือแต่งงาน สาวๆ คงอยากได้แหวนเพชรน้ำงามๆ จากคนรักถูกไหมครับ หรือใครอยากได้พวกแหวนทองเหลือง แหวนขนมที่เป็นอมยิ้มน่ารักๆ มีไหมครับ
DIAMOND มาจากรากศัพท์ภาษากรีกว่า DIAMAS มีความหมายว่า “ไม่มีอะไรสามารถเอาชนะได้” หรือ “ไม่มีใครสามารถทำลายได้” เหมือนคุณสมบัติของเพชร ซึ่งเป็นสสารที่แข็งที่สุดในโลก ไม่มีสิ่งใดขูดขีด ทำให้เพชรเป็นรอยได้ ยกเว้นเพชรด้วยกันเอง เหมือนที่น้องๆ อาจเคยเห็นสำนวนว่า diamond cut diamod แปลเป็นแนวไทยๆ ก็ทำนอง “เพชรตัดเพชร” ก็คือต้องเป็นคู่ต้อสู้ที่เจ๋งพอๆ กันจึงพอสู้กันได้
เพชรนี่ประเทศแรกที่ค้นพบเมื่อหลายพันปีก่อนคือ อินเดียนะครับ ส่วนปัจจุบันทวีปที่เป็นแหล่งผลิตเพชรมากที่สุดในโลกคือทวีปแอฟริกา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของ “เดอเบียร์ส” องค์กรที่ผลิตเพชรรายใหญ่ที่สุดในโลก
เวลาพวกเราเจอปัญหาจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน หนักหรือเบา เช่นสอบไม่ได้ดังหวัง มีปัญหาเรื่องที่บ้าน หรืออะไรก็ตาม ลองนึกถึงเพชรนะครับ เพชรนี่กว่าจะเป็นเพชรเกิดจากคาร์บอน นึกไม่ออกก็ลองนึกถึงคาร์บอนโลโซทั่วๆ ไปเช่น เจ้าถ่านดำๆ ที่ใช้จุดไฟปิ้งหมูนั่นแหละครับ คาร์บอนที่จะกลายเป็นเพชรต้องโดนความกดดันหลายล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว ที่อุณหภูมิราวๆ 5,000 องศาเซลเซียส ในเปลือกโลกชั้นในกว่าจะรวมตัวเป็นผลึกนี่ก็ใช้เวลานานกว่าล้านปี จนกลายเป็นผลึกคาร์บอนบริสุทธิ์ที่มีความแข็งสูงสุด แข็งกว่า ทับทิม บุษราคัม และไพลินกว่า 140 เท่า ประกายระยิบระยับจับตาเหนือพลอยทุกชนิด
พอคิดแล้วก็เหมือนกับพวกเราน่ะครับถ้าไม่เจอปัญหาในบางครั้งเข้ามาในชีวิตมากดดันทำให้เราเข้มแข็งขึ้นเราจะกลายเป็นเพชรได้อย่างไร คงเป็นแค่ถ่านดำๆ กระจอกๆ พอเจออะไรก็แตกเป็นผง ดังนั้นเวลาพวกเราเจออะไรที่ทำให้เศร้าไม่สบายใจบ้าง อย่าลืมนึกถึงเพชร นะครับ ทุกคนคงต้องเจอปัญหาหนักบ้าง เบาบ้าง แต่พอผ่านไปถ้าเราตัดเรื่องอารมณ์ออกไป จะพบว่าเราเก่งขึ้น ฉลาดขึ้น แกร่งขึ้นทุกครั้ง ซึ่งเท่าที่อาจารย์สอนมากว่า 20 ปีนี่ อาจารย์ภูมิใจที่ลูกศิษย์หลายคนเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สง่างามเหมือนสำนวนที่ว่า “diamond of the first water” ไม่ต้องแปลทุกคนก็รู้ใช่ไหมครับ คือ “เพชรน้ำหนึ่ง” หรือพูดง่ายๆว่า เป็นทรัพยากรบุคคลของประเทศระดับสุดยอด หาค่าไม่ได้ ดังนั้นเวลามีปัญหากลุ้มใจลองนึกถึงเพชรนะครับ
ข้อเตือนใจที่เราได้จากเพชรที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเพชรนี่แข็งที่สุดต่อรอยขีดข่วนนะครับ แต่ไม่ทนต่อแรงกระแทก เหมือนที่เราอาจเคยได้เรียนในวิชาเคมีว่า เพชรมีคุณสมบัติแข็งแต่เปราะ พูดง่ายๆ คือ เวลาตก หรือกระแทกจะแตกหรือบิ่นได้ง่าย คนที่เป็นเจ้าของต้องดูแลรักษาอย่างดี คุณสมบัติของเพชรข้อนี้เตือนให้เราระวังว่าเมื่อเราเก่งขึ้นจนใกล้เคียงกับเพชร ก็ต้องระวังไม่ไปใกล้สิ่งที่อาจทำให้เราเสื่อมลง เช่นคบเพื่อนที่พาไปทางเสื่อม ไปยุ่งกับสิ่งที่ทำให้เราลงต่ำเช่นยาเสพติด อยู่ในสังคมที่แย่ๆ เพราะกว่าเราจะเป็นเพชรนี่ยากนะครับ เราต้องอดทนใช้ความพยายาม ทุ่มเทมานาน ดังนั้นเราต้องทะนุถนอมตัวเรา เหมือนเพชรให้สมกับคุณค่าที่ธรรมชาติมอบให้เรามา
ไว้คราวหน้าถ้าน้องๆ AC’CESS หรือเพื่อนๆ สนใจก็คอยอ่านบทความของอาจารย์ไปเรื่อยๆ นะครับ จะพยายามเขียนตามที่เวลาและสติปัญญาของอาจารย์จะอำนวยครับ