เก็งข้อสอบ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จังหวัดจันทบุรี

nasza profile image nasza
แนวข้อสอบกรมวิชาการเกษตร ทุกตำแหน่ง ใหม่ล่าสุด
เอกสารเตรียมอ่านสอบกรมวิชาการเกษตร
1. ข้อมูลเกี่ยวกับชุดดินของเมืองไทย  ดินเปรี้ยว  ดินเค็ม  แก้ไขอย่างไร  องค์ประกอบของดินมีอะไรบ้าง
ดินเปรี้ยว หมายถึง ดินที่เป็นกรด ปัจจัยที่ทำให้ดินเป็นกรดมากขึ้น เช่น การย่อยสลายของอินทรียสารในดิน การใส่ปุ๋ยเคมี เป็นต้น
1.แก้ไขโดยการเติมปูนขาว (แคลเซียมไฮดรอกไซด์) หรือดินมาร์ล (คือดินที่เกิดจากการผุพังและสลายตัวของหินปูนพบมากที่จ.สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์)
2.ลดความเป็นกรดโดยการระบายน้ำเข้ามาขังในพื้นที่  1-2 สัปดาห์แล้วระบายน้ำทิ้งวิธีนี้จะต้องใช้น้ำในปริมาณที่มากพอ
ดินเค็มหมายถึง ดินที่มีเกลืออยู่เป็นปริมาณมาก เมื่อเกลือละลายน้ำทำให้ความเข้มข้นของเกลือในดินสูง
- แก้ไขโดยการเติมแคลเซียมซัลเฟต หรือผงกำมะถัน เพื่อปรับสภาพของเกลือในดินให้กลายเป็นเกลือโซเดียมซัลเฟต(เป็นเกลือที่ละลายน้ำได้ดี) จากนั้นใช้น้ำชะล้างระบายน้ำทิ้ง
ดิน ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน คือ
1. อนินทรียวัตถุ
อนินทรียวัตถุ หรือ แร่ธาตุ เป็นส่วนประกอบที่มีปริมาณมากที่สุดในดินทั่วไป ได้มาจากการผุพังสลายตัวของหินและแร่
อนินทรียวัตถุ อยู่ในดินในลักษณะของชิ้นส่วนที่เรียกว่า อนุภาคดิน ซึ่งมีหลายรูปทรงและมีขนาดแตกต่างกันไป แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มอนุภาคขนาดทราย (เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.00-0.05 ม.ม.)
2. กลุ่มอนุภาคขนาดทรายแป้ง (เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.05-0.002 ม.ม.)
3.กลุ่มอนุภาคขนาดดินเหนียว (เส้นผ่าศูนย์กลาง < 0.002 ม.ม)
อนินทรียวัตถุ หรือ แร่ธาตุในดินนี้ เป็นส่วนที่สำคัญในการควบคุมลักษณะของเนื้อดิน เป็นแหล่งกำเนิดของธาตุอาหารพืช และเป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ดิน นอกจากนี้อนุภาคที่อยู่ในกลุ่มขนาดดินเหนียวยังเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการเกิดกระบวนการทางเคมีต่างๆ ในดินด้วย
 
2. อินทรียวัตถุ
                อินทรียวัตถุในดิน ในที่นี้มีความหมายครอบคลุมตั้งแต่ส่วนของซากพืชซากสัตว์ที่กำลังสลายตัว เซลล์จุลินทรีย์ ทั้งที่มีชีวิตอยู่และในส่วนที่ตายแล้ว ตลอดจนสารอินทรีย์ที่ได้จากการย่อยสลาย หรือส่วนที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ แต่ไม่รวมถึงรากพืช หรือเซษซากพืช หรือสัตว์ที่ยังไม่มีการย่อยสลาย
อินทรียวัตถุในดินนี้ เป็นแหล่งสำคัญของธาตุอาหารพืช และป็นแหล่งอาหารและพลังงานของจุลินทรีย์ดินโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และกำมะถัน อีกทั้งยังเป็นส่วนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อสมบัติต่างๆ ของดินทั้งทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ เช่น โครงสร้างดิน ความร่วนซุย การระบายน้ำ การถ่ายเทอากาศ การดูดซับน้ำและธาตุอาหารของดิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และความสามารถในการให้ผลผลิตของดินอีกด้วย
3. น้ำในดิน
น้ำในดิน หมายถึง ส่วนของน้ำที่พบอยู่ในช่องว่างระหว่างอนุภาคดินหรือเม็ดดิน มีความสำคัญมากต่อการปลูก และการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจากเป็นตัวช่วยในการละลายธาตุอาหารต่างๆ ในดิน และเป็นส่วนสำคัญในการเคลื่อนย้ายอาหารพืชจากรากไปสู่ส่วนต่างๆของพืช
4. อากาศในดิน
                หมายถึง ส่วนของก๊าซต่างๆ ที่แทรกอยู่ในช่องว่างระหว่างเม็ดดินในส่วนที่ไม่มีน้ำอยู่ ก๊าซที่พบโดยทั่วไปในดิน คือ ก๊าซไนโตรเจน (N2) ออกซิเจน (O2) และคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งรากพืชและจุลินทรีย์ดินใช้ในการหายใจ และสร้างพลังงานในการดำรงชีวิต
ดิน..ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก
พืชส่วนใหญ่มักจะเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีความร่วนซุย มีปริมาณน้ำ อากาศ และธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืชอย่างเพียงพอ
ดังนั้นดินที่เหมาะสำหรับการปลูกพืชโดยทั่วไปจึงควรมีสัดส่วนขององค์ประกอบที่เป็นของแข็ง หรืออนินทรีย์วัตถุซึ่งได้มาจากการสลายตัวของหินและแร่ อันเป็นแหล่งที่มาของธาตุอาหารพืช และอินทรียวัตถุที่ได้มาจากการสลายตัวของเศษซากสิ่งมีชีวิต อยู่รวมกันประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาตรทั้งหมด
 
สำหรับส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งนั้นควรจะเป็นที่อยู่ของน้ำและอากาศ ซึ่งจะแทรกอยู่ตามช่องว่างเล็กๆ ในดิน โดยช่องว่างเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากการเรียงตัวเกาะยึดกันของอนุภาคขนาดต่างๆ ในดิน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำและอากาศในดินจะมีอยู่ได้มากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของช่องว่างที่มีอยู่ในดินนั้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในสภาพของดินที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชนั้น จำเป็นต้องมีน้ำและอากาศในดินในปริมาณที่สมดุลกัน เพราะถ้าช่องว่างในดินมีอากาศอยู่มากก็จะมีที่ให้น้ำเข้ามาแทรกอยู่ได้น้อย พืชที่ปลูกก็จะเหี่ยวเฉาเพราะขาดน้ำ แต่ถ้าในช่องว่างมีน้ำมากเกินไป รากพืชก็จะขาดอากาศหายใจ ทำให้การเจริญเติบโตหยุดชะงักได้
กล่าวโดยสรุปได้ว่า …ดินที่มีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกนั้น  ในดินทั้งหมด 100 ส่วน ควรจะมีส่วนที่เป็นของแข็ง 50 ส่วน แบ่งเป็น อนินทรียวัตถุประมาณ 45 ส่วน อินทรียวัตถุ 5 ส่วน และส่วนของช่องว่าง 50 ส่วน ซึ่งประกอบด้วยน้ำ 25 ส่วน และอากาศอีก 25 ส่วน หรือ มีสัดส่วนของ อนินทรียวัตถุ : อินทรียวัตถุ : น้ำ : อากาศ เท่ากับ 45 : 5 : 25 : 25
 
2. จงอธิบายข้อมูลทั่วไปของกรมวิชาการเกษตร วิสัยทัศน์ เป้าประสงค์ ภารกิจ อำนาจหน้าที่ 
วิสัยทัศน์
กรมวิชาการเกษตรเป็นองค์กรนำด้านการวิจัยและพัฒนาพืช เครื่องจักรกลการเกษตร และเป็นศูนย์บริการตรวจสอบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร ในระดับสากล โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ค่านิยม
ซื่อสัตย์  โปร่งใส  งานวิจัยมีคุณภาพ
วัฒนธรรม 
รักองค์กร ทำงานอย่างมีเป้าหมาย และมุ่งผลสัมฤทธิ์
เป้าประสงค์
๑. ได้พันธุ์พืช เครื่องจักรกลการเกษตร เทคโนโลยี และปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมต่อการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตและมูลค่า
๒. ได้แหล่งผลิต ผลผลิต และผลิตภัณฑ์พืชมีคุณภาพปลอดภัยต่อผู้บริโภคตามมาตรฐานสากล
๓. ให้เกษตรกรมีความรู้ด้านการผลิตพืช ทักษะด้านพืช และมีความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปรับปรุงและพัฒนากฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เกิดประโยชน์ต่อการ พัฒนาการเกษตรของประเทศ
ภารกิจ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา  ๘ ฉ  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  พ.ศ.๒๕๓๕  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๔)  พ.ศ.๒๕๔๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกกฎกระทรวง พ.ศ.๒๕๕๔ ให้กรมวิชาการเกษตรมีภารกิจเกี่ยวกับพืช โดยการศึกษา วิจัย และพัฒนาพืช  ให้ได้พืชพันธุ์ดี เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชสู่กลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐ  เอกชน และเกษตรกร ตลอดจนบริการวิเคราะห์ ทดสอบ ตรวจสอบ รับรอง และให้คำแนะนำเกี่ยวกับดิน น้ำ ปุ๋ย พืช วัสดุการเกษตร ผลผลิตและผลิตภัณฑ์พืช เพื่อให้บริการการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ
อำนาจหน้าที่
๑. ดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการกักพืช  กฎหมายว่าด้วยปุ๋ย  กฎหมายว่าด้วยพันธุ์พืช กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย กฎหมายว่าด้วยการควบคุมยาง กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์พืช และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
๒. ศึกษา ค้นคว้า วิจัย ทดลองและพัฒนาวิชาการเกษตรด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับพืช
๓. ให้บริการด้านการวิเคราะห์ ทดสอบ ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช และให้คําแนะนําเกี่ยวกับเรื่องดินน้ำปุ๋ย พืช วัสดุการเกษตร ผลผลิต และผลิตภัณฑ์พืช การบริการส่งออกสินค้าเกษตรและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
๔. ให้บริการวิชาการ ข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีการเกษตรแก่เจ้าหน้าที่ ส่วนราชการ เกษตรกร และเอกชนที่เกี่ยวข้อง
๕. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของกรมหรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
การแบ่งส่วนราชการกรมวิชาการเกษตร   มีดังนี้
(๑)   สํานักงานเลขานุการกรม
(๒)   กองการเจ้าหน้าที่
(๓)   กองคลัง
(๔)   กองแผนงานและวิชาการ
(๕)   ศูนย์สารสนเทศ
(๖)   สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม
(๗)   สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน
(๘)   สถาบันวิจัยพืชสวน
(๙)   สถาบันวิจัยยาง
(๑๐)   สํานักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร
(๑๑)   สํานักคุ้มครองพันธุ์พืช
(๑๒)   สํานักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
(๑๓)   สํานักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ
(๑๔)   สํานักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
(๑๕) – (๒๒)  สํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ ๑ – ๘
(๒๓)   สํานักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร


จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบกรมวิชาการเกษตร ทุกตำแหน่ง ใหม่ล่าสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ
- ความรู้เกียวกับกรมวิชาการเกษตร
เลือกตามตำแหน่งที่สอบ
นักวิชาการเกษตร
พนักงานประจำห้องทดลอง
เจ้าพนักงานการเกษตร
เจ้าหน้าที่การเกษตร
อื่นๆ

ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่  โทร 087-0708815
สามารถนำไปปริ้นเพื่ออ่านได้เลย  ในราคาเพียงชุดละ   399 บาท 
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ 399-
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ 
เลขที่บัญชี 402-654466-2 ธ.ไทยพาณิชย์ 
สาขาเซ็นทรัลขอนแก่น ชื่อบัญชี ณัฐพล จูมศิลป์   ออมทรัพย์ 
โอนเงินแล้วแจ้งที่ nas_za.za@hotmail.com

เก็งข้อสอบ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จังหวัดจันทบุรี

ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

9 ปีที่ผ่านมา
Nasza Icon แนวข้อสอบ อบจ. จังหวัดพัทลุง อ่าน 1,263 9 ปีที่ผ่านมา
9 ปีที่ผ่านมา
9 ปีที่ผ่านมา
9 ปีที่ผ่านมา
Nasza Icon แนวข้อสอบ กรมอู่ทหารเรือ อ่าน 975 9 ปีที่ผ่านมา
9 ปีที่ผ่านมา