ในหลวงพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้คนในชาติมีความรักใคร่กลมเกลียว
สมัครสมาน สามัคคีมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองคงความ
เป็นชาติไทยไว้ได้
แนวทางพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ตลอดหกทศวรรษที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จ(ขออภัยค่ะ! คำนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ)ทรงยึดหลักการทรงงานในลักษณะ “ทางสายกลาง” โดยทรงเน้นการพัฒนา “คน” เป็นตัวตั้ง ยึดหลัก “ภูมิสังคม” ที่คำนึงถึง
ความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคและท้องถิ่น และยึดหลัก “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เพื่อให้
สอดคล้องกับวิถีชีวิตสังคมไทยและปฏิบัติได้จริง ทรงย้ำว่าการพัฒนาต้องเริ่มจาก “การพึ่งพา
ตนเอง” ให้ได้ก่อน โดยต้องรู้จักประมาณตน มีความรอบคอบ ระมัดระวัง และ “ทำตามลำดับ
ขั้นตอน” โดยต้องสร้างพื้นฐานความเป็นอยู่ให้พอมี พอกิน พอใช้ก่อน ด้วยวิธีการประหยัดและ
ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อพัฒนาตนเองให้เข้มแข็งแล้วจึงค่อยพัฒนาเครือข่ายสู่สังคมภายนอก
เพื่อความเจริญก้าวหน้าในลำดับต่อไปสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เล็งเห็นถึงความสำคัญของพระราชดำริดังกล่าว จึงได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาเศรษฐกิจและสาขาอื่นๆ ร่วมกัน
พิจารณากลั่นกรองพระราชดำรัสเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงที่พระราชทานในโอกาสต่างๆ สรุป
ออกมาเป็นนิยาม “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และได้อัญเชิญมาเป็นแนวทางพัฒนา
ประเทศในแผนฯ ๙ และต่อเนื่องมาถึงแผนฯ ๑๐ เนื่องจากเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เป็นแนวทางที่
เหมาะสมกับการพัฒนาในทุกระดับ ตลอดจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกอีกด้วย
องค์ประกอบปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
คนทุกระดับและทุกกลุ่มอาชีพสามารถนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลัก
ปฏิบัติในการดำเนินชีวิตได้ โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง ซึ่งความพอเพียงประกอบด้วย
คุณลักษณะและเงื่อนไข ดังนี้
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีต่อความจำเป็นและเหมาะสมกับฐานะของ
ตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้งวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น และไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจดำเนินการเรื่องต่างๆ อย่างมีเหตุผลตามหลัก
วิชาการ หลักกฎหมาย หลักศีลธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงาม โดยคำนึงถึงปัจจัยที่
เกี่ยวข้องอย่างถ้วนถี่ และผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
ภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการ
เปลี่ยนแปลงในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เพื่อให้สามารถปรับตัวและรับมือ
ได้อย่างทันท่วงที
เงื่อนไขคุณธรรม เสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ ให้มีความซื่อสัตย์สุจริต รู้
รัก สามัคคี ไม่โลภ ไม่ตระหนี่ และรู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่น
เงื่อนไขหลักวิชา อาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำ
วิชาการต่าง ๆ มาใช้วางแผนและดำเนินการทุกขั้นตอน
เงื่อนไขชีวิต ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน มีความเพียร มีสติ และปัญญา บริหาร
จัดการการใช้ชีวิตโดยใช้หลักวิชาและคุณธรรมเป็นแนวทางพื้นฐาน
ทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎร นอกจากแผนที่อันเป็นอุปกรณ์คู่พระราชหฤทัยแล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ กล้องถ่ายภาพคู่พระหัตถ์ที่อยู่เคียงกันไปในทุกแห่ง ไม่ว่าจะเสด็จไปทรงเยี่ยมราษฎร เสด็จไปทรงงานตามพื้นที่ต่างๆหือแม้แต่เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราชเพื่อรักษาพระอาการประชวรพระราชอัธยาศัยโปรดการถ่ายภาพนี้ทรงได้ต้นแบบมาจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาตั้งแต่เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ โดยทรงเริ่มจากกล้องถ่ายภาพชนิดที่ไม่มีเครื่องวัดแสงในตัว ทำให้ต้องใช้พระราชวิจารณญาณอย่างละเอียดรอบคอบ และพระปรีชาสามารถส่วนพระองค์ในการถ่ายภาพแต่ละครั้งนอกจากนี้ยังทรงใช้พื้นที่บริเวณชั้นล่างอาคารสถานีวิทยุ อ.ส. เป็นห้องมืดสำหรับล้างฟิล์ม และอัดขยายภาพ ตามพระราชประสงค์ที่จะทรง “สร้างภาพ” ให้เป็นศิลปะถูกต้อง และรวดเร็วด้วยพระองค์เองภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
แต่เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ จึงเปลี่ยนรูปแบบจากงานถ่ายภาพสวยงามเพื่อศิลปะมาเป็นภาพถ่ายที่ทรงใช้เพื่อประกอบการทรงงานของพระองค์
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้ทรงถ่ายภาพเพื่อศิลปะแต่เพียงอย่างเดียว แต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาประเทศชาติ นำความผาสุกร่มเย็นมาสู่ประชาชนชาวไทยได้อย่างดี
| http://www.bkk.in.th/Topic.aspx?TopicID=5940 |
ในยามที่สถานการณ์ของบ้านเมืองเรา และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคส่วนนี้ของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ท่านทั้งหลายต้องควบคุมสติให้มั่น ไม่หวั่นไหวไปกับวิกฤต ทำความคิดจิตใจให้หนักแน่น และเที่ยงตรงเสมอเหมือนกัน แล้วมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ความสามารถ ด้วยความเฉลียวฉลาดรอบคอบและความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็จะร่วมกันปฏิบัติบริหารงานทุกด้านได้อย่างเข้มแข็งเหนียวแน่น และประสบความสำเร็จอันงดงามตามเป้าหมาย...
คัดตัดตอนจากพระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคมในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
พุทธศักราช 2540 วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2540
จทบ.ส.ก.
พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างในการนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ให้กับชาวไทย และทรงนำพา แนวทางพัฒนาประเทศชาติ เพื่อให้ปวงชนชาวไทยทุกคน"
2. การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ทุรกันดารหลากหลายจังหวัดอย่างไม่เคยว่างเว้น ด้วยทรงตระหนักดีถึงปัญหาความแห้งแล้ง จากภาวะฝนทิ้งช่วงที่เกิดจากความคลาดเคลื่อนของฤดูกาล
ในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 ขณะที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเทือกเขาภูพานนั้น ทรงสังเกตเห็นว่าบนท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมอยู่มาก แต่ไม่สามารถรวมตัวกันเกิดฝนได้ ด้วยพระปรีชาญาณอันลึกซึ้ง จึงทรงมีพระราชดำริที่จะค้นหาวิธีการทำฝนตกด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่เรียกว่า “ฝนเทียม” และได้มีการจัดตั้ง “สำนักงานปฏิบัติการฝนหลวง” ขึ้น ใน พ.ศ. 2512 โดยทรงร่วมศึกษาทดลอง และติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดด้วยพระองค์เอง ไม่เว้นแม้แต่การทดลองปฏิบัติการจริงบนท้องฟ้าครั้งแรก ในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ยังความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่คณะผู้ปฏิบัติการ และอาณาประชาราษฎร์อย่างหาที่สุดมิได้
โปรดร่วมกันปกป้องพระเกียรติยศ และเผยแพร่พระราชกรณียกิจเพื่อ “ในหลวง” ของพวกเรา
กว่า 30 ปีแล้ว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงริเริ่มแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่สูง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารที่สำคัญของประเทศ และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขา
ด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล จึงก่อให้เกิด “มูลนิธิโครงการหลวง” ตามแนวพระราชประสงค์ เพื่อลดปัญหาการปลูกฝิ่น และการตัดไม้ทำลายป่า อนุรักษ์พื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร และช่วยชาวเขาที่มีฐานะยากจนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ให้ยั่งยืน
การดำเนินงานของโครงการหลวง จากอดีตถึงปัจจุบัน ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ ที่เคยถูกบุกรุกทำลายจากการปลูกฝิ่น ให้กลายเป็นผืนดินที่ได้รับการปกป้อง เป็นป่าอนุรักษ์ และแหล่งผลิตพืชเศรษฐกิจอันอุดมสมบูรณ์ ที่ให้ผลผลิตงดงาม ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีที่ดินทำกินอย่างถาวร โดยไม่ต้องอพยพ เร่รอนอีกต่อไป
ผลงานของมูลนิธิโครงการหลวงเป็นที่แพร่หลายและยอมรับ ถึคงความสำเร็จในการกำจัดสารเสพติดโดยสันติวิธี ได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขา การส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ ประจำปี 2531
ปัจจุบันโครงการหลวงมีการค้นคว้าวิจัยทางการเกษตรในที่สูง ซึ่งเป็นเกษตรสาขาใหม่ที่ช่วยพัฒนาให้สามารถปลุกพืชเมืองหนาวที่มีราคาแพงในเมืองไทยได้ นับเป็นการพัฒนาการเกษตรและช่วยเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
มูลนิธิโครงการหลวง จึงมิได้ช่วยเหลือเฉพาะคนบนดอยสูงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคนทั้งประเทศและทั้งโลก
โปรดร่วมกันปกป้องพระเกียรติยศ และเผยแพร่พระราชกรณียะกิจเพื่อ “ในหลวง” ของพวกเรา
ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนต่างประเทศอีกเพียงครั้งเดียว คือเมื่อพุทธศักราช 2538 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เนื่องจากมีพระราชดำริว่า มีพระราชประสงค์ที่จะประทับใกล้ชิดกับพสกนิกรของพระองค์ เพื่อช่วยเหลือพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้มากที่สุด
แม้จะทรงให้ความสำคัญต่อพระราชภารกิจภายในประเทศอย่างยิ่ง หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มิเคยละเลยพระราชภารกิจ เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศต่างๆ ด้วยการทรงต้อนรับพระประมุข และ ประมุข ของประเทศต่างๆ ที่เสด็จพระราชดำเนิน และ เดินทางมาเยือนประเทศไทย ในฐานะพระราชอาคันตุกะ
อีกทั้งยังโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้บรรดาทูตานุทูตของประเทศต่างๆ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระราชสาสน์ และ สาส์นตราตั้งในการเข้ามารับตำแหน่งใน ประเทศไทย และกราบบังคมทูลลาเมื่อครบวาระ
นี่คือพระมหากรุณาธิคุณ และพระปรีชาสามารถของล้นเกล้า ล้นกระหม่อม ที่ช่วยให้ประเทศไทย ยังคงกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ได้อย่างแน่นแฟ้น ไม่เว้นแม้ขณะกำลังทรงงานหนักเพื่อปากท้องของพสกนิกรของพระองค์
โปรดร่วมกันปกป้องพระเกียรติยศ และเผยแพร่พระราชกรณียะกิจเพื่อ “ในหลวง” ของพวกเรา
โปรดร่วมกันปกป้องพระเกียรติยศ และเผยแพร่พระราชกรณียะกิจเพื่อ “ในหลวง” ของพวกเรา
ท่ามกลางความต้องการในการใช้น้ำมันดีเซลที่เพิ่มมากขึ้น และราคาของน้ำมันดีเซลที่ขยับตัวสูงขึ้น ล้วนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมองเห็นคุณค่าของปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นวัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีศักยภาพสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนได้ และถึงแม้ว่า น้ำมันเชื้อเพลิงจากฟอสซิล อาจหมดลงในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า แต่ประเทศไทยก็ยังมีแหล่งน้ำมันที่เราสามารถปลูกและผลิตขึ้นได้เอง
พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัย และให้ทดลองนำปาล์มน้ำมันมาสกัดเป็นน้ำมันไบรโอดีเซล ซึ่งสามารถนำมาใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลได้ อีกทั้งยังไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
น้ำมัน ไบรโอดีเซล เป็นอีกหนึ่งใน โครงการตามแนวพระราชดำริ ที่จะช่วยให้ราษฎรสามารถยืนหยัดและพึ่งพาตนเองได้ ด้วยวิถีกสิกรรมผสมผสานกับเทคโนโลยี สมัยใหม่ ลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกลง
น้ำมันไบรโอดีเซล พลังงานทดแทน ซึ่งเป็นประจักษ์พยานถึงพระอัจฉริยภาพ ที่พระราชทานแนวทางใหม่ในการพัฒนาเชื้อเพลิงทดแทนภายในประเทศให้เป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อสิ่งแวดล้อม และเพื่ออนาคตที่ดีของเราทุกคน
เกิดมาบนพื้นแผ่นดินไทย ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ของพระองค์ นับว่าเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงของปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณที่กำเนิด ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่ ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า มีดินปลูกข้าวเราอยู่ได้ ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าข้าราชการฝ่ายการข่าวกรมรบพิเศษที่ ๑