นาย น. ได้ขายสิทธิการครอบครองที่ดิน นส.3 ก. ให้แก่นาย ค. แต่ไม่ได้มีหลักฐานเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด(เพราะเป็นชาวบ้านไม่รู้กฎหมาย) เมื่อนาย ค. ได้เข้ามาทำนาในที่ดินผืนได้นี้ได้ประมาณ 5 เดือน (ปี พ.ศ.2536) นาย น. ได้นำที่ดินผืนนี้ไปจดทะเบียนจำนองไว้กับ นาย พ. และเนื่องจากเป็นคนรู้จักกัน นาย ค. ก็ยินยอม เพราะนาย น. รับปากกับนาย ค. ไว้ว่ายืมไปจำนองแล้วจะไถ่คืนมาให้ จากนั้นก็จะโอนให้เป็นชื่อของ นาย ค. ให้เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง เวลาผ่านไปนาย น. ไม่มีเงินไปไถ่จำนอง จนกระทั่งในปี 2542 ได้มีประกาศจากรัฐบาลให้ยกเลิกเป็นพื้นที่ป่าสงวน นาย น. และนาย ค. ได้ร่วมกันนำเจ้าหน้าที่เดินสำรวจเพื่อออกเป็นโฉนดที่ดิน แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินกลับบอกว่าไม่สามารถออกโฉนดได้ เนื่องจากเป็นที่ดิน นส3ก. ที่ติดจำนอง เวลาผ่านไปนาย น. ก็ยังไม่มีเงินไปไถ่จำนองจนกระทั่งเดือนมิถุนายน พ.ศ.2553 นาย น. ได้เสียชีวิต และในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน นาย ค. ได้นำเงินไปไถ่จำนองกับนาย พ. แทนนาย น. เพราะต้องการได้กรรมสิทธิ์ นาย พ. ได้รับเงินไว้และบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และ นาย พ. พร้อมจะโอนสิทธินี้ให้แก่ นาย ค. เสมอ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ตอนนี้นาย น. ได้เสียชีวิตไปแล้ว ทายาทผู้รับมรดก คือ ภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายได้เข้ามาจัดการเรื่องนี้แทน ตอนนี้นาย ค. ก็อายุมากแล้ว จึงอยากจัดการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จ นาย ค. เป็นตาของดิฉันเองค่ะ
คำถาม
1. นาย ค. ต้องทำอย่างไรเพื่อจะได้รับสิทธิครอบครองที่ดิน นส3 ก. นี้ เนื่องจากทุกวันนี้ ภรรยาของนาย น. ได้ขับไล่ให้นาย ค. ออกไปจากที่ดินผืนนี้ แต่ถ้าอยากทำนาต่อ ต้องเข้ามาทำสัญญาเช่าทำนาเป็นปีๆ ไป
2. ถ้ามีการฟ้องร้องกัน ใครมีสิทธิดีกว่า ระหว่าง นาย ค. และภรรยาของนาย น.
3. ที่ดิน นส3 ก. ผืนนี้ยังจะสามารถออกเป็นโฉนดได้หรือไม่ เพราะเวลาได้ผ่านมานานแล้ว
4. นายค. ต้องทำอย่างไร เพื่อให้ได้โฉนดที่ดินผืนนี้มา โดยถูกต้องตามกฎหมาย