รปภ เปิดใจ หลังเจอลุงต่อว่ายันบุพการี ด้วยเกียรติของหน้าที่ อดทนไม่สวนกลับ

guest profile image guest

 

จากเหตุการณ์ที่ได้มีลุงคนหนึ่งกำลังจะเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่่ง วึ่งการเข้าหมู่บ้านแห่งนี้คนภายนอกที่จะเข้ามายังหมู่บ้านจะต้องแลกบัตรประชาชนพร้อมกับแจ้งทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยว่า จะเข้ามาทำธุระอะไรในหมูบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน แต่ลุงคนดังกล่าวกลับมีท่าทีไม่พอใจ แถมต่อว่า รปภ อย่างเสียหาย ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ คุณลุงคนนี้ได้ ต่อว่ารามไปถึงบุพการีของ รปภ อีกด้วย

ล่าสุด ทางรายการโหนกระแสได้เชิญ นายเอก รปภ ที่อยู่ในคลิป นายเก่ง รปภ ที่อัดคลิป นายแบงค์ หัวหน้าเขต นายโอ ผู้จัดการฝ่ายบริหารพนักงานรักษาความปลอดภัย และทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงความยุติธรรมในสังคม เพื่อมาพูดคุยและเล่าเรื่องราวในเหตุการณ์วันนั้นและเปิดคลิปเสียงเจรจาขอให้ลบคลิป รวมไปถึงกฎหมาย มาตราการจัดการเกี่ยวกับคลิปวิดีโอ

อีกทั้งทางผู้จัดการฝ่ายบริหารพนักงานรักษาความปลอดภัยยืนยันว่า จะไม่มีการย้ายพนักงานที่อยู่ในคลิปออกจากหมู่บ้านไปที่อื่น เพราะเป็นหน้าที่ของรปภ.อยู่แล้ว ไม่มีความผิด ทั้งนี้นายเอก ซึ่งเป็นอดีตทหารพรานอยู่นราธิวาสได้เล่าว่า ปกติตนเข้าตรวจหน่วยงานนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งวันเกิดเหตุลูกน้องกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แล้วผมก็ได้ยินโวยวายอยู่ข้างล่าง ซึ่งมีการต่อว่าด้วยคำหยาบ ผมจึงลงไปให้การช่วยเหลือลูกน้อง ด้วยการรับหน้าแทน เพื่อไม่ให้เสียขวัญกำลังใจและไม่เป็นการเสียกำลังพลโดยใช่เหตุ

ผมก็เข้ามาพูดคุย อธิบายแล้วอธิบายอีก ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงต้องถามว่า เข้าไปติดต่อเรื่องอะไรครับ เพราะช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ลูกบ้านเพิ่งเลิกงานมาและต้องการพักผ่อน ถ้าเกิดว่ามีการเข้าไปทำงานแล้วส่งเสียงดัง ลูกบ้านก็จะไปถามนิติฯ และทางนิติจะมาไล่บี้กับเราว่า ทำไมบ้านนี้เสียงดังจัง ซึ่งถ้าปล่อยให้ผ่ายเลยไปความผิดจะตกเป็นของรปภ ทันที

 

โดยเราก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรมากมาย ซึ่งถ้าบอกแค่ว่ามาทำธุระแค่นั้นก็จะจบ แต่ถ้าหากบอกว่ามาซ่อมแซมตกแต่งเพิ่มเติมก็จะเป็นอีกเรื่องนึง ซึ่งผู้ชายคนนี้ขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วตั้งแต่รปภคนแรกเข้าไปถาม จากนั้นผมก็พยายามเข้าไปอธิบายให้เขาเข้าใจแต่เขาก็ไม่มีท่าทีที่จะเบาลงเลยผมก็เลยส่งสัญญาณมือให้กับหัวหน้าชุด ก็คือน้องเก่งให้อัดวีดีโอ ส่วนสาเหตุที่เขาเดือดอันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไรแต่หลังจากที่เข้าไปขอโทษลูกบ้านแล้วลูกบ้านเขาก็ได้บอกว่าอาจจะมีเรื่องจากข้างนอกมาก่อนและได้มาลงกับรปภ ผมก็ได้แต่คิดว่าจริงๆแล้วมันไม่เกี่ยวกันไม่ว่าคุณจะโมโหจากที่ไหนก็ไม่ควรมาลง กับรปภ แบบนี้

ขณะเดียวกันนายแบงค์กล่าวว่า จริงๆ แล้วการปฏิบัติแบบนี้ถือเป็นหน้าที่ของรปภ ที่ต้องสอบถาม ในลักษณะนี้ซึ่งเป็นกันทุกหมู่บ้าน ซึ่งรปภ ป้อมหน้า มีหน้าที่ในการสกัด สอบถาม แลกบัตร ตรวจท้ายบันทึกข้อมูลแนะนำเส้นทางแล้วก็ประสาน รปภ จุดตรวจด้านใน ติดตามรถครับ

นายเอกได้เล่าเสริมว่า ณ เวลาตรงนั้นด้วยความที่ผมเองเป็นหัวหน้าและต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้องอีกหลายๆคน เราจึงไม่สามารถทําอะไรได้มากเกินไปกว่า หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และผมก็คิดไว้เสมอว่าคุณลุงคนนี้อายุเขาก็สูงแล้ว แล้วถ้าเกิดผมลงไม้ลงมือไปโดนจุดสำคัญหรือไปโดนอะไรแม้แต่นิดเดียว ชีวิตผมอาจเปลี่ยนได้ ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรขึ้นมาผมอาจไม่ได้ทำงานดูแลลูกเมียที่อยู่ที่บ้าน ผมอยากทำงานมากกว่าครับผมไม่ได้อยากจะมีเรื่อง

 

ไปตัดผมมาฟิวขาดตั้งแต่ตอนที่เขาต่อว่าพ่อผมซึ่งผมพยายามคุมตัวเองแล้วด้วยหน้าที่ด้วยเครื่องแบบด้วยเกียรติของบริษัทผม เกียรติของลูกน้องผมเกียรติตัวผมเองด้วย จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปทะเลาะกับคนแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นคิดว่าถ้าเกิดเขาเดินลงมาผมเอาแน่ แต่พอเขาเริ่มเปลี่ยนโทนเสียงผมก็เลยคิดขึ้นได้อีกครั้งว่านี่คืองาน รักครอบครัวแล้วผมก็เลยหันไปบอกน้องว่าเก่งแจ้งตำรวจแล้วก็เดินถอยออกมาก้าวนึง

นอกจากนี้นายเอกยังบอกอีกว่า ฝ่ายของลุงคนนั้นยังมีการข่มขู่ รปภ อีกด้วย ด้านทนายรณรงค์กล่าวว่า ที่รปภ ต้องถาม เพราะนิติจะมีเงื่อนไขในการก่อสร้าง ถ้าคุณไปก่อสร้างอะไรคุณต้องขออนุญาตเขาก่อน เพราะถ้าคุณไม่ขอเขาจะไม่ให้สร้างและและถ้ามันมีปัญหาขึ้นมาเขาก็จะมาลงที่ รปภ ดังนั้นเขาจึงต้องถามว่าเข้ามาทำอะไร

จากนั้นถ้าทรัพย์สินของลูกบ้านในหมู่บ้านถ้ามันสูญหาย เช่นรถยนต์ ซึ่งมันเคยมีคดีความขึ้นศาลฎีกาในทำนองนี้มาก่อนและคนที่รับผิดชอบไม่ใช่นิติแต่เป็นบริษัทของรปภ นั่นหมายถึงว่าเรา รปภ ต้องเฉลี่ยเงินกันเพื่อจ่ายค่าเสียหายในส่วนตรงนี้ เพราะถือเป็นความประมาทเลินเล่อของ รปภ ให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาในหมู่บ้าน แล้วมานำทรัพย์สินออกไป มันเป็นที่มาที่ไปว่าเขาต้องถามและทุกที่เป็นเหมือนกันหมด

ทีนี้พอมีการพูดคุยกันแบบนี้ ต้องบอกว่ามันมีกฎหมายในเรื่องของการคุ้มครองซึ่งกันและกันอยู่ คุณจะอารมณ์ร้อนมาจากไหนก็ตาม แล้วมาเจอแบบนี้มาพูดกับเขาแบบนี้มันคือความผิดของเรื่องของการดูหมิ่นซึ่งหน้าซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ แน่นอนก็ไม่ได้เยอะอะไรมาก แต่ถ้าวันนั้นไม่จบแค่การต่อว่า มีการชกต่อยกันเกิดขึ้นมา มันก็เป็นคดีทั้งสองฝ่าย จะเป็นเรื่องของสมัครใจทะเลาะวิวาทกัน

โพสท์โดย: NIXA
อ้างอิงจาก: https://www.siamvariety.com/
ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา