ยืมชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน

วิธีนี้ ไม่เห็นต้องจ้างโบกเกอร์เลย
ก็หาคนมาซื้อต่อจากคุณ จบ

1.แค่รีไฟแนนซ์ไม่เห็นต้องจ้างใครมาทำให้เสียเงินเลย เดินเข้าธนาคารไหนไปเค้าก็ยินดีช่วยทุกอย่างอยู่แล้ว

2.บ้านยังไม่ได้เป็นชื่อคุณค่ะเพราะติดจำนองกับธนาคาร เพราะฉะนั้นถ้าคุณเปลี่ยนคนกู้เป็นคนอื่น คุณจะหมดสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ทันที

3.ถ้าเอาชื่อใครมากู้แทนต้องยอมรับความเสี่ยงทั้งคู่ คุณก็เสี่ยงที่ต้องจ่ายเงินทุกเดือนให้กับบ้านที่ไม่ใช่ชื่อคุณ ผ่อนหมดถ้าเค้าไม่โอนคืนให้ก็จบ อีกฝั่งก็เสี่ยง เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ต้องเอากระดูกมาแขวนคอเป็นสิบปี ถ้าคุณมีปัญหา หาเงินมาจ่ายไม่ทัน เครดิตเค้ามีปัญหาทันที

4.ทำเครดิตให้ดีแล้วค่อยตัดชื่อออก โบรเกอร์พูดเหมือนง่าย ถ้าการแก้ไขเครดิตคุณมันง่ายขนาดนั้น คุณก็ไม่ต้องไปยืมชื่อใคร รอจนกว่าจะเปลี่ยนสถานะเครดิตได้ค่อยไปทำเรื่อง

5. ในการโอนเปลี่ยนเป็นชื่อคนอื่นแบบนี้ ถ้าเข้าใจไม่ผิดต้องมีเรื่องภาษีเงินได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เวลาโอนกลับก็เหมือนกัน

สรุป ไม่ต้องไปรีไฟแนนซ์ค่ะ เว้นแต่จะเป็นคนในครอบครัวที่อยู่ด้วยกัน ไว้ใจกันได้ ไม่งั้นก็ลองคุยกับธนาคารเดิมขอปรับอัตราดอกเบี้ย

คิดในแง่ดี ใช้ชื่อคนอื่นกู้ คุณผ่อนหมดแล้วโอนคืนกลับมาเป็นชื่อคุณ ทุกอย่างเคลียร์ คิดในแง่ร้าย คุณผ่อนหมดเขาไม่โอนหรือเสียชีวิตขณะยังไม่โอน จะทำยังไง คนได้สิทธิ์บ้านก็ต้องเป็นทายาท ในทางกลับกันคุณผ่อนไม่ได้เป็นหนี้เสีย ไม่ได้บ้านแถมคนที่ให้ยืมชื่อเสียหายไปด้วย ยังไม่รวมปัญหาจิปาถะอีก ผ่อนบ้านระยะเวลามันยาวหลายสิบปี อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงได้

1. คนเดินเรื่องแทบไม่มีผลในการอนุมัติเลยนะครับ และมองว่าเค้ามองแต่ผลประโยชน์
2. ให้คนอื่นซื้อแทนได้ครับ แต่เราและเค้าต้องมั่นใจกันจริงๆ เพราะบ้านจะโอนเป็นชื่อเค้า หากผ่อนหมดเค้าไม่โอนคืนก็ไม่ผิดตามกฎหมายอะไร หรือ ถ้าเกิดเค้าเสียชีวิตขึ้นมาบ้านจะตกไปเป็นของทายาทเค้าทันที
3. ภาระนี้จะเป็นของเค้าทันที หากเราไม่ผ่อน หรือผ่อนไม่ดี ประวัติเค้าจะเสียหายไปด้วย
4. การโอนไปมาหลายครั้ง มีค่าใช้จ่ายทุกครั้งพอสมควร
5. คัดชื่อออก ก็คือการซื้อกลับนั่นแหละครับ
6. ลองไตร่ตรองให้รอบด้านนะครับ