เจ๊สระบุรีสารภาพสิ้น ปล่อยขายออนไลน์ หน้ากากรีไซเคิลแล้วกว่า 2 แสนชิ้น ตร.จัดหนักหลายข้อหา

guest profile image guest

จากที่ไวรัสโควิด-19เล่นงานผู้คนทั่วโลกจนกลายเป็นอีกหนึ่งโรคระบาดที่น่ากลัวสุดๆ เนื่องจากการระบาดของมันทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 90,000 ทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,000 คนและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งในขณะการณ์เช่นนี้สิ่งที่ประชาชนระวังมากที่สุดก็คือ ความสะอาดและการป้องกันที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบตัวเอง ซึ่งหลายๆ คนต่างเฟ้นหน้าทั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

ทั้งหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันละอองน้ำลายจากคนอื่น และของตัวเองที่จะแพร่ออกไป ทำให้หน้ากากอนามัยในขณะนี้มีราคาสูงขั้นทั้งยังขาดตลาดอีกด้วย ซึ่งโอกาสนี้นับเป็นนาทีทองของเหล่ามิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสคิดไม่ซื่อกับลูกค้า และก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้บุกทลายแหล่งใหญ่ผลิตหน้ากากมือสองที่นำมารีไซเคิลใหม่และนำขายให้กับลูกค้าผ่านทางเฟซบุ๊กตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

อ่านข่าว – นอภ.วิหารแดง สระบุรี บุกทลายแหล่งใหญ่ผลิตหน้ากากมือสอง



ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึง​ความคืบหน้า สืบเนื่องจากการปฏิบัติงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาธารณสุขอำเภอ และฝ่ายปกครอง ทลายแหล่งรีไซเคิลหน้ากากอนามัยมือสอง ส่งจำหน่าย เมื่อวันที่ 2 มี.ค.63 ในเขตพื้นที่ สภ.วิหารแดง จว.สระบุรี ว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สภ.วิหารแดง ว่า การกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ครอบครองสถานที่ในการก่อเหตุจำนวน 2 ราย และผู้นำของไปขาย จำนวน 1 ราย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 “ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ

ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ ตาม พรบ.ควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ.2474 มาตรา 4 “ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาติ” ประกอบกับ มาตรา 12 “ผู้ใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต” โทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ โดยในส่วนความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานการปฎิบัติกับพาณิชย์จังหวัดเพื่อไปตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขอฝากเตือนไปยังผู้ใดที่คิดจะกระทำการในลักษณะแบบนี้ ขอให้คำนึงถึงผลกระทบและตระหนักถึงความรับผิดชอบที่ควรมีต่อสังคม เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันในห้วงที่มีการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดและการป้องกันไวรัสโควิด 19 นั้น ทำให้ประชาชนมีความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มมากขึ้น และไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และหากผู้ประกอบการหรือผู้ใดคิดที่จะฉวยโอกาสกอบโกยเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด มิให้ผู้ใดฉวยโอกาสและซ้ำเติมพี่น้องประชาชน

อีกทั้ง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) มีมาตรการในการกำกับดูแลปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น จำนวน 3 มาตรการ ดังนี้ 1. มาตรการปราบปราม: ร่วมกับกรมการค้าภายใน จัดชุดปฏิบัติการเป็น 6 ชุด ออกตรวจสอบทุกพื้นที่และล่อซื้อจับกุมทุกวัน 2. มาตรการสืบสวน: การสืบสวน โดยทำการล่อซื้อผู้จำหน่ายทางอินเตอร์เนตและช่องทางอื่นที่เกี่ยวข้อง 3. มาตรการตรวจสอบและประชาสัมพันธ์: ได้ทำการตรวจสอบร้านค้า และแจกโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ จำนวน 326 แห่ง ผลการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบร้านที่มีการขายสินค้าเกินราคาและกักตุนสินค้า

นอกจากนี้พนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี ได้สอบปากคำ คนงาน 6 คน รวมไปถึง นางจินตนา นามวิชัย อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านที่พบ มีการรีไซเคิลหน้ากากอนามัย โดย นางจินตนา ยอมรับว่า ได้รับหน้ากากอนามัยใช้แล้วรับมาจากร้านรับซื้อของเก่า ในตำบลหนองหมู อ.วิหารแดง หลังจากรีไซเคิลทำความสะอาดแล้วได้นำไปประกาศขายผ่านทางเฟซบุ๊ก อีกทั้งยอมรับว่าได้จำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อไปแล้วบางส่วน ซึ่งระบุว่าขายไปแล้ว 2 แสนชิ้น ไม่กล้าใส่หน้ากากที่ขาย ตำรวจวิหารแดงฟัน 2 ข้อหา เตรียมส่งศาลจังหวัดสระบุรีพรุ่งนี้ พร้อมขยายผลจับกุมต้นตอหน้ากากอนามัยรีไซเคิล

โพสท์โดย: NIXA
อ้างอิงจาก: https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/
ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

2 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา