หนุ่มขโมยปืนจะมายิงทนาย สุดท้ายรู้ความจริง รีบขอโทษแทบไม่ทัน

guest profile image guest

วันที่ 4 มีนาคม จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ บึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งให้ช่วยสกัดจับรถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อ เชฟโรเลต สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 6 กข 1120 กรุงเทพมหานคร กำลังขับออกจากบ้านวังสะตือ หมู่ 1 ตำบลวังโบสถ์ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ มุ่งหน้ามาทาง อำเภอบึงสามพัน โดยคนขับ เป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสันทัด ขับรถมาคนเดียว ได้ขโมยอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด พร้อมเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 7 นัด ของพี่ภรรยาจากบ้านแม่ยาย โดยทางญาติหวั่นเกรงว่า อาจจะนำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าว ไปก่อเหตุในพื้นที่ อำเภอบึงสามพัน

หลังรับแจ้งเหตุ พตท ชลอ ช้างเผือก รอง ผกก ป สภ บึงสามพัน และ พตต สมยศ พรหมบุตร สวป สภ บึงสามพัน พร้อมสายตรวจรถยนต์และสายตรวจจักรยานยนต์ ได้ตั้งด่านที่บริเวณสี่แยกไฟแดงซับสมอทอด อำเภอบึงสามพัน พบรถยนต์คันดังกล่าว จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น พบอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด จำนวน 1 กระบอก วางพิงอยู่ภายในรถ พร้อมเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 7 นัด อยู่ที่บริเวณเบาะนั่งด้านซ้ายของคนขับ จึงได้ตรวจยึด และควบคุมตัวชายคนขับทราบชื่อภายหลังคือ นายบุญมี จันทลา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1ทับ770 หมู่ 12 ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ บึงสามพัน

เบื้องต้น นายบุญมี จันทลา ได้เล่าถึงสาเหตุ ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนและภรรยามีอาชีพขายของตามตลาดนัดอยู่ที่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งในระยะหลังประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีเงินผ่อนส่งบ้านและผ่อนส่งรถยนต์ ขาดส่งหลายงวดเกรงว่าบ้านและรถยนต์จะถูกยึดจนทำให้ตนเครียดมาก ทั้งยังมีเรื่องคับแค้นใจที่โดนทนายโกงทำให้ต้องเสียที่ดิน จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาบ้านแม่ยาย เพื่อเอาอาวุธปืนยาว ซึ่งเป็นของพี่เขยตน เดินทางมาที่ อำเภอบึงสามพัน เพื่อชำระแค้นกับทนายความคนดังกล่าว และหลังจากนั้น ตนก็จะฆ่าตัวตาย โดยได้ส่งไลน์ไปหาภรรยาเพื่อเป็นการสั่งเสีย แต่ถูกตำรวจสกัดจับไว้ได้ก่อน

ความคืบหน้า ช่วงเย็นวานนี้ นางสลินทิพย์ ถิ่นนารา อายุ 47 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ และนายทวี ถิ่นนารา อายุ 50 ปี พี่ชายของนางสลินทิพย์ ซึ่งเป็นเจ้าของอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด พร้อมนายวิสุทธิ์ แจ้งใจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านวังสะตือ ตำบลวังโบสถ์ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ บึงสามพัน เพื่อขอประกันตัวนายบุญมี จันทลา โดยนายวิสุทธิ์ แจ้งใจ ได้ใช้ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านขอประกันตัวผู้ต้องหาออกไป

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญ นายเทวินทร์ กิมกูล ทนายความที่ถูกนายบุญมี กล่าวหา มาพบกับนายบุญมีเพื่อพูดคุยเจรจาทำความเข้าใจกัน โดยนายเทวินทร์ กล่าวว่า ตนเป็นทนายว่าความสู้คดีให้แก่นางศรี ถิ่นนารา อายุ 78 ปี แม่ยายของนายบุญมีที่ถูกโจทก์ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 หมื่นบาท และค่าเสียโอกาสอีกเดือนละ 1000 บาท ซึ่งผลการสู้คดีปรากฏว่า ศาลตัดสินให้นางศรี ถิ่นนารา จ่ายค่าเสียหายเพียง 4200 บาท ส่วนเงินค่าเสียโอกาสที่โจทก์เรียกร้องเดือนละ 1000 บาท ศาลตัดสินให้จ่ายเพียงเดือนละ 100 บาทเท่านั้น ซึ่งตนคิดว่าที่ตนว่าความไปนั้นเป็นเรื่องที่น่าพอใจ ส่วนที่ดินซึ่งเป็นนาข้าวก็ไม่ได้สูญเสียอะไร จะเสียไปก็เพียงพื้นที่ที่อยู่บนหัวคันนาที่ไม่ได้ใช้ทำกิน ที่ต้องย้ายหลักเขตแดนไปเพียงเล็กน้อย โดยศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยตามข้อตกลงที่ทั้ง 2 ฝ่าย เคยไปตกลงกันที่ศูนย์ดำรงธรรมก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามารับทำคดี ส่วนในศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ก็เป็นทนายความคนอื่น ไม่ใช่ตน

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: siamnews.com
ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

2 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา