"อนุทิน" ยืนยันสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทยยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3

guest profile image guest

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันสถานการณ์โรคโควิด-19ในไทยยังไม่เข้าสู่ระยะที่3พร้อมเตรียมเสนอมาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ต่อที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 16 มีนาคมนี้ เพื่อออกมาตรการดูแลคนไทยต่อไป

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขและผู้ทรงวุฒิต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อเตรียมมาตรการเข้มข้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันจันทร์ที่ 16 มีนาคมนี้(63) เพื่อพิจารณาเห็นชอบตามมาตรการที่เสนอผ่านความเห็นของผู้ทรงวุฒิต่างๆ อาทิ มาตรการประกาศเขตโรคติดต่อร้ายแรง / มาตรการทำให้การแพร่ระบาดลดน้อยที่สุด เช่น อาจจะประกาศให้ลดหรือห้ามการชุมนุม / ลดการเดินทาง และการเที่ยวที่สถานบันเทิงต่างๆ ที่อาจจะขอความร่วมมือให้ปิดสถานประกอบการในระยะนี้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หลังจากพบผู้ติดเชื้อกลุ่มคนล่าสุดมีจำนวนมาก จากการเที่ยวสถานบันเทิงและไม่ป้องกันตนเอง ใช้สิ่งของร่วมกันจึงทำให้ติดโรค ขณะเดียวกันให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กิจกรรมสันทนาการ กีฬาหรือดนตรีต่างๆ ที่อาจเป็นแหล่งร่วมตัวของประชาชนจำนวนมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้ โดยรองนายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า การออกมาตรการเข้มข้นนี้ เพื่อไม่ให้เข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในระยะที่3 ช้าลงที่สุด และเป็นการป้องกันประชาชนไม่ให้เดือดร้อน เจ็บป่วย และให้มั่นใจได้ว่าประชาชนคนไทยทุกคนจะได้รับความปลอดภัยพร้อมขอให้ประชาชนทุกคนปฎิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติการณ์นี้ได้ด้วยดี ขณะที่การดำเนินการทั้งหมดนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ทั้งนี้ หากที่ประชุมคณะกรรมการมีมติหรือมีมาตรการออกมาอย่างไรจะต้องดำเนินการทันที และทำตามอย่างเคร่งครัด

ส่วนเรื่องการงดเข้าประเทศ ที่ผ่านมามีการใช้มาตรการอย่างเข้มงวด หากเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอันตราย จะกักกันตัวทันที 14 วันก่อนเข้าประเทศโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีใบรับรองแพทย์จากประเทศต้นทาง ก็ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแจ้งเตือนเบื้องต้นแล้ว หากเดินทางมายังประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเข้มงวด ส่วนชาวต่างชาติที่เดินทางมาต่อเครื่องจะถูกกักกันตัวไม่ให้ออกมาเดินในพื้นที่สนามบิน และส่งตัวเพื่อขึ้นเครื่องเดินทางต่อทันที นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการจัดหาหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะหากขาดแคลนอีก ทางองค์การเภสัชกรรมจะพิจารณาลงทุนเป็นผู้ผลิตเองทั้งหมดเพื่อให้เพียงต่อการใช้ทางการแพทย์ เช่นเดียวกับการจัดหายาเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ได้ติดต่อประสานกับบริษัทผู้ผลิตยา เพียงพอต่อการรักษาแล้ว ส่วนการเตรียมการรักษา กระทรวงสาธารณสุขยังคงเตรียมความพร้อมทางการแพทย์ตลอดเวลา และเชื่อว่ายังดูแลได้อย่างครอบคลุมอยู่

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/radiothainews/posts/648433982397849
ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

3 ปีที่ผ่านมา
3 ปีที่ผ่านมา