"ณวัฒน์" ของขึ้นกลางวงสื่อ!! ด่าแหลกช่อง7 หลังดูถูก มิสแกรนด์ ไม่มีออร่าเป็นนางเอก

กลายเป็นประเด็นใหญ่โต สำหรับ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ที่ซื้อเวลาช่อง7 ถ่ายทอดสดการประกวด “มิสแกรนด์ไทยแลนด์” มา 7 ปีเต็ม แต่มาปีนี้กลับประกาศแตกหักกับช่อง7 เป็นที่เรียบร้อย งานนี้เจ้าตัวฉะแหลกกลางงานแถลงข่าวเปิดเวที “มิสแกรนด์ 2020” ผู้บริหารช่อง7ไม่ทำตามข้อตกลง

“เรื่องโลโก้ช่อง 7 ถ้าใครสังเกต โลโก้ช่อง 7 ไม่ได้มีมานานแล้วนะ ไม่ได้มีมาในการแถลงข่าวทุกๆ ครั้ง แต่ถามว่ามีอะไรอยากจะบอก ก็อยากจะบอกตรงๆ ว่าอันนี้ขึ้นปีที่ 8 จะไม่ได้ถ่ายทอดผ่านช่อง 7 แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของโลโก้นะ โลโก้คือทางช่องไม่ได้ให้ใช้มาประมาณสัก 2 ปีแล้ว ถ้าใครสังเกตเห็น ไปย้อนภาพได้นะครับ”

“ก่อนอื่นเลยนะ ช่องไม่ได้เทเรา แต่เราเทช่องครับ เพราะว่าสัญญามีอยู่ที่เรา สัญญาส่งมาเรียบร้อย สาเหตุที่เทเพราะว่าตัดสินตอนจนวินาทีสุดท้ายครับ อย่างเช่นวันนี้ ไม่มีผู้ใหญ่ของช่องมา แล้วเราได้ส่งจดหมายเชิญไปยังผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งในตำแหน่งใหญ่สุด ต้องบอกอย่างนี้ครับ ก่อนอื่นนะครับ อันนี้เป็นครั้งแรกที่หลุดออกมาจากปาก ไม่เคยบอกใครก่อน แล้วขอบคุณช่อง 7 ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขอบคุณจริงๆ ครับ ไม่ได้สร้างภาพนะ ขอบคุณจากใจช่อง 7 ขอบคุณ คุณกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานช่อง 7 เป็นบุคคลที่ผมรักและศรัทธา และถือว่าเป็นไอดอลคนหนึ่ง เป็นนักธุรกิจที่ผมรู้สึกภูมิใจ ผมเคยเจอท่าน ผมรู้สึกว่าท่านเป็นโรลโมเดลที่น่าสนใจ แล้วก็ขอบคุณพี่หน่องครับ แล้วก็ขอบคุณคุณศรัณย์ ประธานบอร์ดในสมัยที่เราก้าวเข้ามา เมื่อ 7 ปีที่แล้วนะครับ ที่พาผมเดินมาที่นี่ แล้วก็ขอบคุณหลายๆ ท่าน ที่ให้ความเมตตามาตลอด”

“จนผู้บริหารคนใหม่ล่าสุด ซึ่งนโยบายอาจจะไม่สอดคล้อง แล้วก็วิธีการทำงานอาจจะมีหลายอย่างที่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่วงการบันเทิงในยุคปัจจุบัน แล้วเราคิดว่าการที่เราพยายามแก้ไขปัญหา มันแก้ไม่ได้ การที่เราจะแก้ปัญหาแล้วมันแก้ไม่ตก มันจะทำให้สินค้าหรือโปรดักส์ของเราต้องตกลงไปด้วย เราก็ของอนุญาตที่จะเฟดตัวออกมา”

“ถ้านั่งไล่จุดที่บอบบาง เอาง่ายๆ อย่างปัญหาเล็กๆ แต่ก็คงไม่ใช่ปัญหาที่เรามาตัดสินใจ ณ วันนี้นะ เช่น เราส่งจดหมายถึงท่านโดยตรงทุกครั้ง ท่านไม่เคยมาร่วมงานสักครั้ง แม้กระทั่งวันนี้ ท่านไม่มา แต่ท่านก็ไม่ได้ส่งตัวแทน ท่านไม่ฟีดแบ็กเลย ท่านไม่ได้ให้ใครโทรกลับมาหากองงานเลย หาทีมงานเลย อันนี้ยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ แล้วมันจะมีอีกหลายกรณี ซึ่งเราคิดว่าเราขอรักษาสิทธิ์ของเรา”

“ท่านพูดกับผมในที่ประชุมครั้งสุดท้าย มีคนอื่นอยู่ด้วย ว่าเราเป็นเพียงผู้เช่าเวลา เพราะฉะนั้นตัวท่านจะไม่ไปงาน แล้วก็ถ้าเป็นผู้เช่าก็จะไม่ไป ถ้าเป็นไทยซูเปอร์โมเดล ท่านจะช่วยโปรโมตเต็มที่ ตั้งแต่วันแรกยันวันสุดท้าย ผมก็บอกท่านไปตรงนั้นเลยนะครับ ว่าอย่าเรียกว่าผู้เช่าดีกว่าครับ ผมอยากจะเล่าเรื่องเริ่มต้นให้ฟัง เผื่อว่าท่านมาแล้วท่านไม่รู้ว่าเริ่มต้นจากอะไร ผมก็เล่าแล้ว แต่ท่านก็ฟังเฉยๆ ครับ ท่านก็ไม่ได้มีอะไร นี่ก็คือเรื่องหนึ่ง”

“เราไม่ได้โกรธหรอกครับ แต่มันทำงานไม่ได้ไง คนในวงการบันเทิงเขาไม่ทำกันแบบนี้ เราไม่ได้บอกว่าเราจะเป็นนางเอก เป็นอะไรก็ได้ เป็นคนใช้ก็ได้ แต่มันดูไม่เหมาะสมไปซะทุกอย่าง เพราะฉะนั้นผมก็มีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราเดินเครื่องมาตลอด 7 ปี มันเหมือนเครื่องสะดุดตลอดเวลา ณ ขณะนี้นะ แต่ก็มันราบรื่นหมด เราไม่เคยเรียกร้องอะไรนอกจากนั้น เราขอรักษาสิทธิ์ของเราที่มีเท่านั้นเอง มันไม่ได้เอาอะไรมากมายไปกว่านั้นเลย”

“ผมอยากจะบอกว่าแล้วที่เล่นกันอยู่ในช่องละครับ มันคือใคร เจสสิก้า สมปอง มันไม่ใช่เหรอครับไรซิ่ง สตาร์ เขากำลังมาแรง แล้วมาดังมาก เขาเป็นพิธีกรไทยซูเปอร์โมเดล เขาเป็นพิธีกรภาคภาษาอังกฤษ และภาคภาษาไทย สุภาพร มะลิซ้อน ไม่ใช่เหรอครับ แล้วญาดา เทพนม ละครพรายสังคีต เล่นนำเลย ไม่ใช่เหรอครับ แล้วดาราสมทบอีกมากมาย ถ้าเกิดคนเราคิดว่าการผลิตละคร ต้องถือแต่นางเอกคนเดียว แล้วที่เหลือไม่ต้องเล่นเหรอครับ แต่ผมพูดไม่ได้ เมื่อท่านพูดอย่างนี้ ผมก็พยายามจะอ้อนท่านว่าบทอื่นก็ได้ อะไรก็ได้ ท่านก็บอกว่าแต่ไม่มีนางงามเป็นนักแสดงนะคะ ผมก็บอกว่าเดี๋ยวก่อนครับ ผมก็นิดหนึ่งครับวันนั้น คนก็อยู่เยอะพอสมควร ผมก็นิดหนึ่งว่า โทษนะครับ นก สินจัย เปล่พานิช ก็ใช่นางงาม เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ก็นางงาม อั้ม (พัชราภา ไชยเชื้อ) ก็มิสแฮ็คส์ แล้วผมจะพูดอีกไม่รู้กี่คน แต่ผมก็ต้องหยุด ท่านก็บอกว่าอันนั้นมันรุ่นเก่า”

“แต่ผู้บริหารท่านใหม่ ท่านมีมุมมองที่…ที่เราไม่สามารถจะไปต่อได้ เพราะเนื่องจากท่านมีมุมมองเหมือนไม่ใช่เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ต้องคิดอย่างหนึ่งนะครับ คนที่เอาเงินไปให้ คืออะไรครับ คือลูกค้า แต่ท่านไม่ได้ทรีตผมเหมือนลูกค้า ผมเอาทั้งเรตติ้งทั้งเงินไปให้ แต่ท่านทรีตผมเหมือนเป็นลูกน้องระดับล่าง ท่านชอบตำหนิ ชอบใช้ความคิดของตนเอง ท่านไม่แชร์ความคิด ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่ใช่ความผิดของท่านนะ เพียงแต่ว่าเรื่องของการทำงาน มันจะต้องแชร์ โดยเฉพาะเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ แล้วต้องดูด้วย ว่าจุดพลาดจุดไม่พลาดคืออะไร ต้องยอมรับว่าบางทีก็พลาด”

“ยังมีมากกว่านี้อีก แต่ยังไม่อยากจะพูด มีอีกเรื่องหนึ่งนะครับ ที่เป็นนโยบายของช่องที่ผมรับไม่ได้ มีอีกหลายเรื่องครับ อย่าบอกว่าของช่องเลย ของท่านแล้วกันครับ ธรรมดาเรามีข้อตกลงมาแบบชัดเจนนะ ตั้งแต่เริ่มต้น ว่าศิลปินของเราเป็นศิลปินที่อยู่ภายในสังกัดมิสแกรนด์ เป็นอาร์ติส เซ็นสัญญากับเรา แล้วถึงจะให้เซ็นสัญญากับช่อง และผลประโยชน์จากการถ่ายละคร และงานทุกประเภทจ่ายผ่านเรา คำว่าเราไม่ได้หมายถึงคุณณวัฒน์ คำว่าเราคือบริษัทมิสแกรนด์ เพราะฉะนั้นเราทำงานในรูปแบบองค์กร แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ท่านเปลี่ยนระบบ ท่านจะจ่ายเงินโดยตรงกับศิลปิน ผมก็เข้าไปคุยเรื่องนี้ว่าบริษัทผมกำลังจะเป็นบริษัท ในอนาคตอาจจะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แล้วเราทำงานในรูปแบบขององค์กร เราเสียค่าพีอาร์ เสียค่าเออาร์ ค่าผู้ช่วย เสียทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตามศิลปิน แล้วความชัดเจนคือก็ทำเหมือนเดิม เราจะได้ควบคุมศิลปินได้ ไม่งั้นศิลปินรับเงินตรงกับช่อง เราจะไปควบคุมศิลปินได้ยังไง ในขณะที่เราเป็นเอเจนซี่ศิลปิน เราก็ต้องดูแลในจุดนี้”

“เพราะฉะนั้น สิ่งนี้ผมขอไปก็ไม่ได้ เมื่อเดือนที่แล้วก็บังคับให้ผมต้องเซ็นยินยอม ไม่งั้นค่าตัวไม่ออกให้น้อง ผมก็เซ็นยอมไป แต่ว่าโอเค ใครจะทำงานแบบนี้ได้ล่ะครับ นี่เราเป็นการประกวดเพื่อเฟ้นหา ซัปพอร์ตช่อง แต่ในที่สุด เรามีหน้าที่จ่ายกลับหาย ใครจะอยู่ได้ครับ มีอีกหลายเรื่องครับ เดี๋ยววันหลังค่อยคุย ถามว่าสบายใจขึ้นไหมได้พูดแล้ว ก็ยัง นี่แค่เรื่องเล็กๆ ครับ ผมแล้วแต่เขา ช่องไม่ชี้แจงหรอกครับ ช่องน่ารัก เจ้าของช่องก็น่ารัก มันอยู่ที่บุคคลที่มาดำรงตำแหน่งเท่านั้นแหละ ที่มีวิสัยทัศน์ไม่เหมือนนักโทรทัศน์”