พระขุนแผนเคลือบกรุอโยธยา กรณ์ทองเปลว

พระเครื่องกรุอโยธยา

พระเครื่องอโยธยา
ศึกษา พระเครื่องกรุอโยธยา กับเครื่องสังคโลก สมัยอยุธยา(จะทยอยลงภาพให้ชมครับ)
ภาพพระที่โชว์ในบอร์ดนี้ส่วนใหญ่เป็นภาพของลูกค้าที่ได้มาถ่ายรูปไว้ครับ จึงขอสงวนไว้ โดยกรณ์ทองเปลว

      เป็นพระที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อประมาณ ตุลาคม 2550 ตอนที่เจ้าของบ้าน ต่อเติมบ้าน ซึ้งบ้านหลังนี้ได้ อยู่ในเขต ตำบล อโยธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จึงเป็นที่มาของ นามพระเครื่องกรุนี้ ว่า "พระเครื่องกรุอโยธยา"

มีหลากหลายพิมพ์ ลักษณะพระเป็นพระเนื้อดินขาว มีการเคลือบผิวด้วยน้ำเคลือบ เซลาดอนขาว เคลือบ เหลือง เขียว และ เคลือบน้ำทอง และยังมีพระพิมพ์ต่าง พระเนื้อดินเผาเชียงแสนหน้าตักประมาณ 1 นิ้ว
ลักษณะพิมพ์ทรงชนิดเคลือบ ได้รูปทรงมาจาก พระพุทธชินราช แต่ศิลปะการออกแบบพุทธศิลป์เป็นแบบอยุธยา การลงน้ำทองเป็นการลงในลักษณะแบบอยุธยา เป็นการลงแบบเรียบง่าย ไม่เน้นลายละเอียด เหมือนในช่วงรัตนโกสินทร์ พระชุดนี้มีไม่มาก อยู่ในราวร้อยกว่าองค์ ซึ้งบางท่านเก็บไว้ยังไม่ทราบเลยว่าเป็นการเคลือบน้ำทอง เพราะมีคราบกรุจับหนาในบางองค์ บางท่านที่บ้านน้ำท่วมบ้าน พอน้ำแห้ง ก็ไปทำความสะอาจหิ้งพระ ก็ต้องตกใจเมื่อเปิดพระที่อยู่ในกล่องไม้ขึ้นมาดูก็เห็นเป็นพระสีทอง จึงน้ำมาให้ผมดูและถ่ายรูป เก็บไว้ ผมจึงได้มีโอกาสได้เห็นองค์ที่เป็นทอง จริงๆเป็นครั้งแรก เพราะเคยได้ยินมานานนับปีๆ ว่ามีองค์ที่เป็นทองด้วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นทองคำทั้งองค์หรือ เป็นการลงรักปิดทอง แต่พอมาเห็นพระกรุอโยธยาองค์นั้นก็ดีใจทีตามหาจนพบจนได้ ที่แท้ก็เป็นการเคลือบน้ำทองแบบ เครื่องเบญจรงค์ **พุทธคุณ ประสบการณ์ แคล้วคลาด ค้าขาย เมตตา

***การบูชา พระรัตนตรัย และควรระลึกและอุทิศส่วนกุศลให้กับพระมหากษัตริย์ในสมัยอยุธยา- ผู้ที่สร้างพระชุดนี้ และพระมหากษัตริย์ทั้งที่สวรรณคตแล้ว และปัจจุบัน เพื่อปกปักรักษาแก่ตัวท่านและครอบครัว ด้วยพระบารมี ขององค์พระมหากษัตริย์จะคุ้มครองท่าน

***
การทำข้อมูลนี้ไม่ได้ทำเพื่อธุรกิจบูชา-เช่าพระ***
                                                                              ddddd kornayothaya1112510ฟฟฟฟฟฟฟฟ

ควรศึกษาตั้งแต่หน้าแรก กระทู้ที่#1 ครับ ท่านจะได้เข้าใจมากขึ้น แต่ท่านอาจจะต้องสมัครเป็นสมาชิกบอร์ดก่อนน่ะครับจึงจะกดดู จากข้อความ ในกรอบสีเทาได้
และขอความกรุณาอย่าโพสข้อความน่ะครับหากผมมีข้อมูลมาลงจะได้ลงต่อเนื่องกันไป ขอบคุณครับ หากสงสัย โทรถามดีกว่าครับ 
โทร 095-7947899  061-6496599 ขออภัย เปลี่ยนเบอร์ใหม่ ครับ
เบอร์เก่านำไปใช้ WI-FI ครับ ขอบคุณที่ เข้ามาชม

ข้อมูลภาพพระที่ลงในนาม ลูกค้า..อื่นเป็นการรับจ้างถ่าย เท่านั้น....ครับ

ทาง  Facebook   Ayothaya Amulet

 


พระขุนแผนเคลือบกรุอโยธยา  กรณ์ทองเปลว

ความคิดเห็น
ภาพการเปรียบเที่ยบการแตกลาย ของภาชนะเคลือบสังคโลก(สุโขทัย) ที่มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ กับ พระเครื่องกรุอโยธยา
ภาพโบราณวัตถุที่ลงให้ชมทั้งหมดนี้ได้ขออนุญาตถ่ายจากทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแล้วเมื่อ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔ โดยคุณปกรณ์ รุจินาค เพื่อการศึกษา และ ขอเชิญชวนให้ท่านเข้าไปชม โบราณวัตถุที่มีคุณค่าซึ้งคนไทยมีความรู้ด้านนี้น้อยมาก อยากเห็นคนไทยเข้าไปชมให้มากๆ และยังแหล่งรวมความรู้ทุกด้านในเชิงประวัติศาสตร์ก่อนจะมาเป็นชาติไทย ทุกวันนี้

 

การเปรียบเที่ยบการแตกลาย ของภาชนะเคลือบสังคโลก(สุโขทัย) ที่มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ กับ พระเครื่องกรุอโยธยา 

รวมภาพพิมพ์ต่างๆ พระขุนแผนอโยธยา ชมรายละเอียดที่

พระขุนแผนเคลือบอโยธยา ลงน้ำทอง แค่โชว์ครับ


ภาพการแตกลายของเครื่องสังคโลก สุโขทัย กับ พระเครื่องกรุอโยธยา


ภาพการแตกลายของน้ำเคลือบบนอิฐบริเวณรอบฐานของเจดีย์สามองค์ ในอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ฟิริ่งการแตกลายเหมือนกับพระกรุอโยธยา

ภาพและข้อมูลสงวนสิทธิ์โดย กรณ์ทองเปลว


ภาพการแตกลายของน้ำเคลือบบนอิฐบริเวณรอบฐานของเจดีย์สามองค์ ในอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ฟิริ่งการแตกลายเหมือนกับพระกรุอโยธยา

ภาพและข้อมูลสงวนสิทธิ์โดย กรณ์ทองเปลว




ภาพและข้อมูลสงวนสิทธิ์โดย กรณ์ทองเปลว


การเปรียบเที่ยบน้ำทองที่มีลักษณะสีและคราบที่เหมือนกัน แจกันชิ้นนี้ได้ขออนุญาตถ่ายมาจากพิพิธภัณฑ์ฯพระนคร เมื่อ30 เมษายน54 เป็นแจกันที่พบณวัดดอกเงิน เชียงใหม่ เป็นศิลปะแบบทางเหนือ แต่ก็อยู่ในช่วงของยุคสมัยอยุธยา
*ภาพและข้อมูลสงวนสิทธิ์โดย กรณ์ทองเปลว


**ภาพและข้อมูลสงวนสิทธิ์ โดยกรณ์ทองเปลว**
เครื่องถ้วยลายครามจีน และอันหนาน ภาพนี้แสดงให้เห็นว่า สีที่ใช้ในการลงผิวเคลือบก็มีการลงแบบสีครามทั้งใบ **เช่นเดี่ยวกับพระเครื่อง กรุอโยธยา ** ก็มีการลงแบบนี้เช่นกัน
**การนำเสนอข้อมูลนี้เพื่อแสดงไห้ท่านเห็นว่า เทคนิคการลงน้ำทองนั้นได้มีการใช้มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงของจีนแล้ว แต่ยังมีการพัฒนาเทคนิคยังไม่สมบูรณ์ และก็ยังได้มีการนำมาใช้เคลือบลงบนองค์พระที่มีน้ำเคลือบอีกที ซึ้งอาจจะถูกนำเข้ามาในกรุงศรีอยุธยาช่วงยุคกลางหรือยุคปลาย หรือ ถูกนำไปทำที่เมืองจีนยังหาข้อสรุปไม่ได้ ดังนั้นพระขุนแผนเคลือบลงน้ำทองนี้อาจจะเป็นประตูก้าวไปสู่พื้นเพความเป็นไปของงานช่างศิลปะในสมัยอยุธยาได้ ซึ้งที่ผ่านมาเราเข้าใจว่า งานลงน้ำทองนั้นมีจุดเริ่มต้นที่สมัยรัตนโกสินทร์ ช่วง รัชกาลที่๒ ข้อมูลนี้อาจจะเป็นการพริกประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ เลยก็ได้ครับ จากการอ่านบทความของนักวิชาการท่านอื่นแล้ว ท่านบอกว่าสยามสั่งทำจากเครื่องถ้วยชามเขียนสีจากจีนมีการส่งแบบลายไปด้วย ข้องสังเกตุ พระขุนแผนเคลือบอโยธยา ก็อาจจะมีการสร้างขึ้นในอยุธยามีการเผาเคลือบกันในอยุธยา และอาจจะส่งบางส่วนไปเคลือบน้ำทองที่เมืองจีนก็อาจเป็นได้ สังเกตุจากกการเผานั้นเป็นการเผาที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์สักเท่าไหร่ ในบางองค์อาจโดนความร้อนพอดี บางองค์ก็โดนความร้อนน้อย ดินและน้ำเคลือบ ก็สุกและแกร่งไม่เท่ากัน และบางคงค์ก็ยังมีคราบเขม่าของฟืนติดมาอีกด้วยแสดงว่าเป็นการเผาแบบเตาดินที่ใช้ไม้ฟืนเป็นเชื้อไฟ**
หรืออีกข้อสันนิฐานนึงก็คือ มีการนำช่างเข้ามาทำในกรุงศรีอยุธยาเลยก็เป็นได้


**ภาพและข้อมูลสงวนสิทธิ์ โดยกรณ์ทองเปลว****


ภาพนี้แสดงให้เห็นของการเคลือบทองในสมัยราชวงศ์หมิง ซึ้งก็ตรงกับสมัยอยุธยาตอนต้น พุทธศตวรรษที่ ๒๐
จึงเป็นมีข้อสันนิฐานได้ว่าการนำเข้าภาชนะที่มีการเคลือบทองนั้นได้มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นแล้ว ซึ้งจะแตกต่างจากสมัยรัชกาลที่๒ที่เริ่มมีการเขียนลายลงไปด้วย ซึ้งก็เป็นการวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ แต่เนื่องจากในสมัยอยุธยานั้นมีศึกสงครามบ่อยครั้งจึงอาจขาดช่วงไปบ้าง และอาจจะมีการนำเข้า หรือ มีการผลิตหรือสั่งทำจากเมื่องจีนในบางครั้งที่สงครามสงบ จึงเป็นข้อสงสัยว่า พระเครื่องกรุอโยธยาลงน้ำทอง อาจจะมีการสั่งทำเพื่อกาลทางพุทธศาสนาในช่วงนั้นด้วย ซึ้งก็มีหลากหลายแบบ หลายพิมพ์ หลายบล็อค และยังมีการจาลึกอักษรจีนไว้ด้านหลังขององค์พระอีกด้วย
ภาพเพื่อการศึกษาเท่านั้นไม่ได้ทำเชิงธุรกิจ


 


 ภาพนี้สังเกตุบริเวณขอบของภาชนะ ทั้งปากขอบชาม และขอบฝาชาม จะเป็นการลงน้ำทองเป็นเส้นอย่างเห็นได้ชัดจึงเป็นข้อยืนยันได้ว่าภาชนะที่ลงน้ำทองนี้ได้ถูกนำเข้ามาจากเมือ่งจีนตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้วเพียงแต่ เทคนิคและวิธีการนำมาใช้ไม่เหมือนกัน และก็ได้มีการวิวัฒนาการด้านการเขียนขึ้นบนเบญจรงค์ ในสมัยรัชกาลที่2 ซึ้งเป็ยยุคที่มีการนำเข้ามามากอย่างต่อเนื่องเลื่อยมา
++ภาพและข้อมูลสงวนโดย กรณ์ทองเปลว++
**ภาพเพื่อการศึกษาเท่านั้นไม่ได้ทำเชิงธุรกิจ**


เครื่องถ้วยเขียนสี และ ลายน้ำทอง
ลักษณะการนำมาใช้ในแต่ละช่วงของยุคสมัยอาจไม่เหมือนกัน เช่นยคแรกๆก็มีการนำมาลงเป็นแบบพื้นเลียบๆ ต่อมาก้ได้มีการนำมาลงในลายตามซอก(ช่อง)พื้นของลายในภาชนะนั้นๆ ต่อก็ได้มีการวิวัฒนาการเทคนิคในการนำมาเขียนเป็นลายต่าง การพัฒนาตรงนี้ต้องใช้ระยะเวลามาพอสมควร การเขียนลายน้ำทองไม่ใช้ว่าคิดได้ก็มาเขียนเป็นแบบนั้นแบบนี้เลย การพัฒนาขั้นตอนการลงน้ำทองนั้นมีมาเป็นขั้ขตอนแต่ละยุคสมัย
การลงน้ำทองของพระเครื่องกรุอโยธยา ก็คราดว่าน้าจะจัดอยู่ในช่วงของยุคแรก หรือยุคถัดมา ที่ยังไม่มีการเขียนลายละเอียดลงไป แต่จะเป็นการลงแบบเรียบง่าย เช่นเดียวกับภาชนะลายครามที่ได้นำมาให้ชมกันครับ
ภาพถ่ายมาจากพิพิธภัณฑ์ 210854
**ขอเชิญเข้าไปชมของจริงได้ เพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่ และเป็นการช่วยกันสืบสานศิลปะและวัฒนธรรมของไทย
**ลงภาพไว้เพื่อการศึกษา ไม่มีการทำเพื่อธุรกิจแต่อย่างใด**


ภาพภาชนะของจีนที่เคลือบน้ำทอง สมัยราชวงศ์หมิง(อยุธยาตอนต้น) เป็นข้อสันนิฐานว่าหน้าจะเป็นจุดเริ่มต้นของเทคนิคการเคลือบน้ำทองบนภาชนะเครื่องเคลือบของจีน ก่อนจะมีการวิวัฒนาการการผลิตมาในปัจจุบัน
**ผมต้องการให้ท่านศึกษาถึงต้นกำเนิดของและที่มาที่ไปของการเกิดน้ำทองในแต่ละยุคสมัย เพราะบางท่านอาจมองข้ามจุดสำคัญไป การศึกษาพระเครื่องต้องมีข้อมูลว่าองค์ประกอบต่างๆมันเกิดขึ้นได้อย่างไร เช่นการที่ลงภาพไหและเครื่องภาชนะให้ท่านชมนั้นก็จะให้ท่านเห็นถึงจุดแรกเริ่มของน้ำทอง รวมถึงการแตกลายของน้ำเคลือบ ในลักษณะต่างๆว่าความจริงเป็นอย่างไร จากการที่ได้ไปตรวจเช็ค ผิวของน้ำเคลือบการแตกลายที่ทำภาชนะปลอมกันในอยุธยามักจะทำให้แตกละเอียดยิบ จากการที่ถามคนทำว่าทำไม่ต้องทำให้แตกเล็กขนาดนี้ คำตอบคือ ทำง่ายกว่ามาก หากการแตกโดยธรรมชาติของอายุโบราณวัตถุนั้นมักจะแตกลายไม่เหมือนกันในภาชนะแต่ละชิ้น มันจะดูไม่สวย**(คือว่าของเก่าอาจมีบางจุดแตกละเอียดและบางจุดแตกหยาบในชิ้นเดียวกัน)** และอีกอย่างคือค่านิยมที่บอกต่อกันมาเครื่องเคลือบเก่ามักจะแตกละเอียดเล็ก แต่คนเราก็พูดแค่จุดที่แตกเล็กๆไม่พูดถึงองค์รวมทั้งชิ้น เลยเป็นว่าต้องมีผิวเคลือบแตกละเอียดทั้งใบ(คนทำบอกว่าผิวเคลือบแตกลายละเอียดทั้งใบทำง่ายกว่า)


ภาพประกอบการจาร
ระหว่างพระกริ่งคลองตะเคียนที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา กับ พระเครื่องกรุอโยธยา

พระเครื่องกรุอโยธยา
เคลือบน้ำทอง พิมพ์ใหญ่

พระเครื่องกรุอโยธยา
เคลือบน้ำทอง พิมพ์กลาง

ทีมาของภาพ SIAM AMULET VOL. 18 (2010)
***แจกัน ลายน้ำทอง (Famille rose)
หูทำคล้ายอาวุธจีน ตกแต่งด้วย
ลายปลาคู่ ดอกโบตั๋น มังกร หัวยู่อี่
เมฆ กังสดาล ปมเชือกไม่รู้จบ
ค้างคาว อันเป็นความหมายแห่ง
มงคลสำหรับชีวิต
สมัยราชวงค์ชิง รัชกาลจักรพรรดิ์เฉียนหลง
ค.ศ. 1736-1795 (พ.ศ. 2279-2338)
สูง 37.4 เซนติเมตร
สมบัติของ พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ
กรุงไทเป ใต้หวัน

พระมหากษัตริย์ไทย:
(อาณาจักรอยุธยา)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์
(2301-2310)
จักรพรรดิจีน: สมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลง
(2278 - 2339)
*ข้อมูลส่วนนี้ จาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
***แสดงให้เห็นถึงระยะเวลาที่เกิดการใช้เครื่อง
ใช้ที่เป็นน้ำทอง จึงเป็นไปได้ว่าพระขเครื่อง
กรุอโยธยา ก็ถูกสร้างขึ้นในช่วงระยะเวลานี้
และภาษาที่ใช้ก็เป็นแบบ ใต้หวัน
กรณ์ทองเปลว 290655


วิวัฒนาการ และช่วงระยะเวลา การเกิดน้ำทอง ในสมัย อโยธยา และได้สิ้นสุดไปช่วงนึงเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งสุดท้าย และก็ได้หายไปช่วงที่บ้านเมืองเกิดสงคราม จนในช่วง ยุครัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่2 เลื่อยมา ***จึงเป็นการรับอิธิพลด้านศิลปะแบบก้าวกระโดด มาเป็น งานเขียนสีเคลือบ และงานเบญจรงค์น้ำทอง
**กรณ์ทองเปลว**


พระขุนแผนเคลือบกรุอโยธยา เคลือบน้ำทอง พิมพ์ใหญ่  พระของลูกค้าครับ

สงวนสิทธิ์โดย **กรณ์ทองเปลว**


พระขุนแผนเคลือบกรุอโยธยา เคลือบน้ำทอง พิมพ์เล็ก  พระของลูกค้าครับ

สงวนสิทธิ์โดย **กรณ์ทองเปลว**


ลักษณะการแตกลายของภาชนะเครื่องเคลือบสังคโลก
***ภาพโบราณวัสถุนี้ได้ขออนุญาติถ่ายมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อ ๓๐ เมษายน ๕๔ แล้วอย่างถูกกต้อง ***

ข้อมูลและภาพขอสงวนศิทธิ์ โดย กรณ์ทองเปลว


ขายภาพการแตกลายของเครื่องสังคโลก สุโขทัย กับ พระเครื่องกรุอโยธยา ภาพขยายให้ดูใกล้ ๆ


สี และ น้ำเคลือบ ในสมัยอยุธยาและการแตกลาย

ข้อมูลและภาพขอสงวนศิทธิ์ โดย กรณ์ทองเปลว


ลักษณะ สี และ น้ำเคลือบ ในสมัยอยุธยาและการแตกลาย ถ่ายมาจากอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา

ข้อมูลและภาพขอสงวนศิทธิ์ โดย กรณ์ทองเปลว


ถ่ายมาจากอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา

ข้อมูลและภาพขอสงวนศิทธิ์ โดย กรณ์ทองเปลว


ถ่ายมาจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

เปรียบเทียบการแตกลาย

เปรียบเทียบการแตกลาย ขนาดที่ได้สัดส่วน

การเปรียบเที่ยบการแตกลาย ของภาชนะเคลือบสังคโลก(สุโขทัย) กับ พระเครื่องกรุอโยธยา พิมพ์ใบพุทรา
ภาพภาฃนะสังคโลกได้ทำการขออนุญาตถ่ายมาจากพิพิธภัณฑ์พระนคร เมื่อ30เมษายน54 ขอสงวนสิทธิ์โดย กรณ์ทองเปลว

 

การแตกลาย เครื่องสังคโลก ของจีน ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ ช่วงอยุธยา

การแตกลายของเครื่องสังคโลก กับ พระเครื่องกรุอโยธยา


ลักษณะของการแตกลายของเครื่องสังคโลก กับ พระเครื่องกรุอโยธยา


การแตกลายของเครื่องสังคโลก กับ พระเครื่องกรุอโยธยา พิมพ์แขนอ่อน


ขยาย การแตกลายของเครื่องสังคโลก กับ พระเครื่องกรุอโยธยา  ปางชนะมาร


พระเครื่องกรุอโยธยา  ปางชนะมาร
เหตุใดถึงเรียงพิมพ์นี้ว่าปางชนะมาร จากการที่ได้เรียนมาทางด้านจิตรกรรมฝาผนัง จาก ท่านอ.เฟื้อ หริพิทักษ์ ซึ้งเป็นศิลปินแห่งชาติ ด้านการอนุรักษ์ จิตรกรรมไทย ท่านได้บอกไว้ตอนที่ออกไปเรียนตามโบสถ์ต่างๆว่า **ปางนี้จะต้องเรียกว่า***ปางชนะมาร*** เพราะพระพุทธเจ้าได้ยื่นพระหัตลงมาแตะธรณี เพื่อให้ธรณีรับรู้ถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทำ และพระแม่ธรณีจึงบีบมวยผมให้น้ำล้างเล่ามารทั้งหลาย จนมารเล่านั้นได้ยอมแพ้ไป จึงต้องเรียกให้ถูกต้องว่า ปางชนะมาร บางวัดจะเขียนไว้สองปางซ้อนกันก็มี

ข้อมูลและภาพขอสงวนสิทธิ์โดยกรณ์ทองเปลว

พระเครื่องกรุอโยธยา **ปางมารผจญ**
เหตุใดถึงเรียงพิมพ์นี้ว่าปางมารผจญ คือ พระหัตของพระพุทธเจ้ายังอยู่ในท่าปกติ ยังไม่ได้ยื่นพระหัตลงแตะธรณี ซึ้งขณะนั้น พระพุทธเจ้ายังในห้วงวังวนของเหล่ามารที่มาขัดขวางมิให้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ มีทั้งการยิ่งอาวุธต่างๆนาๆเข้าใส แต่อาวุธเหล่านั้นก็กับกลายเป็นดอกไม้ ดอกบัว ตกลงมากองอยู่รอบกาย
ดังภาพจิตรกรรมฝาผังในโบสถ์ วิหารต่างๆ

ข้อมูลและภาพขอสงวนสิทธิ์โดยกรณ์ทองเปลว


ที่มาของชื่อพระขุนแผน
จากการที่ได้ยินมาจากพ่อตั้งแต่เด็ก สมัยนั้นมีการแตกกรุที่บ้านกร่าง ซึ้งไม่ดู้ว่าจะเรียกว่าพระอะไร จึงมีการเรียกพระพิมพ์ที่มีซุ้มเรือนแก้ว นี้ว่า พระพิมพ์เมืองสุพรรณ แต่ต่อมาชื่อนี้เรียกยากจึงเริ่มมีการเรียกว่า พระเมืองขุนแผน เพราะเห็นว่าขุนแผนเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในสุพรรณ และต่อมาอีกมีการพูดย่อๆแบบพอดีคำ จึงเหลือ แค่คำว่า *พระขุนแผน*
 เพราะสมัยนั้นเป็นการสร้างพระที่เรียนแบบมาจาก พระพุทธชินราช ซึ้งไม่เกี่ยวอะไรกับขุนแผนเลย เพียงแต่ว่ามีคนนำไปบูชาแล้วเกิดเมตตามหานิยม แคร้วคราด จึงเรียกกันต่อมาว่าพระ **พระขุนแผน** จำง่ายพอดีคำ ส่วนพระขุนแผนที่สร้าฃกันเป็นเนื้อชินต่างฟเห็นมีกุรมารอยู่ใต้ฐาน นั่นน่าจะเป็นความคิดของคนสร้างในช่วงพ.ศ.2515เป็นต้นมา พระขุนแผนไม่มีการสร้างในสมัยอยุธยาแน่นอนครับ

ข้อมูลและภาพขอสงวนสิทธิ์โดยกรณ์ทองเปลว


พระขุนแผนเคลือบน้ำทอง
สีเขียว และชมพูออกม่วง ที่เกิดบนน้ำทองนั้นเกิดจากขวบการเผาที่ไม่สมบูรณ์คือมีคาร์บอนเข้าไปมากจึงเกิดปฎิกริยาทางเคมี ทำให้เกิดเป็นสีต่างๆออกมา ซึ้งหากเป็นเตาเผาสมัยใหม่ก็จะไม่เกิดปัญหาแบบนี้เพราะมีขบวนการเผาที่มีความทันสมัยมากกว่า
  จึงน่าจะเป็นการทำขึ้นมาในยุคแรกของการทำน้ำทองในสมัยอยุธยา

ภาพและข้อมูล ขอสงวนโดยกรณ์ทองเปลว 16 10 55

พระขุนแผนเคลือบน้ำทอง
ด้านหลัง
เป็นภาษาเปอร์เซีย คำแปล "เดินทางที่ปลอดภัย"
ภาพของลูกค้า คุณ สรร
ภาพและข้อมูล ขอสงวนโดยกรณ์ทองเปลว 16 10 55

แสดงภาพเปรียบเทียบ ให้เห็นลักษณะการแตกลายของน้ำเคลือบที่ต่างกัน ที่มีบางท่านคิดว่าพระเครื่องกรุอโยธยานั้นสร้างมาในยุคเดียวกับพระขุนแผนหลวงพ่ออั้น ผมจึงได้ไปถ่ายภาพพระขุนแผนหลวงพ่ออั้นที่วัดพระญาติการาม อยุธยามาให้ชมกัน ซึ้งก็ทำให้เห็นว่ามีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังภาพที่นำมาเสนอให้ดูครับ

แสดงภาพเปรียบเทียบ ให้เห็นลักษณะการแตกลายของน้ำเคลือบที่ต่างกัน ที่มีบางท่านคิดว่าพระเครื่องกรุอโยธยานั้นสร้างมาในยุคเดียวกับพระขุนแผนหลวงพ่ออั้น ผมจึงได้ไปถ่ายภาพพระขุนแผนหลวงพ่ออั้นที่วัดพระญาติการาม อยุธยามาให้ชมกัน ซึ้งก็ทำให้เห็นว่ามีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังภาพที่นำมาเสนอให้ดูครับ ภาพและข้อมูล ขอสงวนโดยกรณ์ทองเปลว

อโยธยา เคลือบทอง พิมพ์กลาง


อโยธยา เคลือบทอง
ภาษาจีนโบราณ แบบใต้หวัน
ภาพของลูกค้า


ด้านหลังมีลงจานภาษาจีน มีข้อความว่า " ชัย เหยียน กว่าง จิน " ความหมายคือ **เงินทองไหลมามีโชคลาภ เข้ามามากขึ้นเลื้อยๆ**
ซึ้งพระเครื่องที่อยู่ในกรุวัดราษฎร์บูรณะในสมัยอยุธยา ก็ยังมีการเขียนข้อความภาษาจีนไว้ด้านหลังขององค์พระที่เป็นเนื้อชินเงิน เขียนเป็น เป็นสีแดง ความหมาย คือ ชื่อชาวจีนผู้สร้าง ที่มีความศรัทธาในพุทธศาสนาจึงสร้างพระบันจุไว้ ( ความจริงเป็นการใช้ขูดลงไปในเนื้อ แต่หน้าจะเป็นการทำให้มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเลยเอาสีแดงไปเขียนทับให้เห็นชัดๆ) แสดงอยู่ในพิพิธฑ์เจ้าสามพระยา มีพระบรมธาตุที่ขุดพบในเจดีย์ให้บูชาด้วยครับ เชิญไปกราบสักการะสักครั้งนึงครับ มีคนรู้น้อยมากแม้แต่คนอยุธยาเองยังไม่ทรายเลย ขอเชิญ เสียค่าเข้า คนละ 30บาทครับ ช่วยกรมศิลป์ครับ
ภาพและข้อมูลขอสงวนโดยกรณ์ทองเปลว


ภาพรูปพิมพ์ต่าง แต่ยังไม่ครบทุกพิมพ์

ภาพอิฐที่เคลือบด้วยน้ำเคลือบสมัยอยุธยา ที่พบบริเวณโดยรอบพระเจดีย์สามองค์ สรรเพชรปราสาท มีการแตกลายคล้ายกันกับพระเครื่องกรุอโยธยา


ภาพอิฐที่เคลือบด้วยน้ำเคลือบสมัยอยุธยา ที่พบบริเวณโดยรอบพระเจดีย์สามองค์ สรรเพชรปราสาท มีการแตกลายคล้ายกันกับพระเครื่องกรุอโยธยา


พระกรุอโยธยา เคลือบน้ำทอง
สีเขียว และชมพูออกม่วง ที่เกิดบนน้ำทองนั้นเกิดจากขบวนการเผาที่ไม่สมบูรณ์คือมีคาร์บอนเข้าไปมากจึงเกิดปฎิกริยาทางเคมี ทำให้เกิดเป็นสีต่างๆออกมา

ภาพและข้อมูล ขอสงวนโดยกรณ์ทองเปลว 20 10 55


สมาคมพระเครื่่องพระบูชาไทย ขอเชิญชมงานประกวดพระวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย. 2555   ที่โรงแรมทวินโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช  มีพระเข้าประกวดมากมาย เช่นพระชุดเบญจภาคี พระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่,  พระกำแพงซุ้มกอพิมพ์ใหญ่,พระรอดกรุวัดมหาวันพิมพ์เล็ก,พระผงสุพรรณพิมพ์กลาง,พระนางพญาพิมพ์เข่าตรง,พระสมเด็จจิตรลดา,พระสมเด็จอรหัง,  พระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์หกชั้นอกตลอด, พระท่ามะปรางกำแพงเพชร,พระหูยานพิมพ์ใหญ่ชินเงิน,พระปรุหนังเนื้อชินเงิน,พระมเหศวรพิมพ์ใหญ่,พระท่ากระดานจ.กาญจนบุริ,พระวัดพลับพิมพ์สมาธิ,พระปิลันทน์วัดระฆังพิมพ์ครอบแก้ว,พระวัดเงินคลองเตยพิมพ์ซุ้มกอ,พระวัดท้ายตลาด,พระวัดรังษี,พระหลวงปู่ภูพิมพ์แปดชั้น,พระวัดปากน้ำรุ่นสามพิมพ์ตี้น,หลวงพ่อโตกรุบางกระทิง, พระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่างพลายเดี่ยวพิมพ์ทรงพล,พระกรุวัดจุฬามณีพิมพ์ฤษีหลังนาง,พระคงกรุเก่า,พระเปิม,พระบาง,พระเลี่ยง จังหวัดลำพูน,พระกริ่งน้ำท่วมปี2485วัดสุทัศน์,พระกริ่งไพรีพินาศพิมพ์บัวแหลมปี2495,รูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์ขี้ตา,รูปหล่อหลวงพ่อเดิมวัดหนองหลวง,เขี้ยวเสือหลวงพ่อปานวัดบางเหีย พิมพ์อ้าปาก,ลูกอมหลวงพ่อพริ้งวัดบางปะกอก,  ยังมีคณาจารย์อีกมากมายเช่น หลวงพ่อเอียวัดบ้านด่าน,หลวงปู่ทิมวัดพระขาว,เหรียญเต่าหลวงพ่อหลิวรุ่นปลดหนี้,พลวงพ่อโอดวัดจันทร์เสน,หลวงพ่อพรหมวัดช่องแค,หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่, หลวงพ่อปานวัดบางนมโค, หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลีพิมพ์สิวลีสี่เหลี่ยม,หลวงพ่ออุ้นวัดตาลกง,หลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่,พระชุดจังหวัดนครศรีธรรมราช,จตุคามรามเทพ   ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เพื่อความเข้าใจควรดูตั้งแต่หน้าแรก ครับ โดยทำตามตัวอย่างภาพนี้ครับ  ควรสมัครสมาชิกก่อนครับ จึงจะกดข้อมความตามรูปได้

พระกรุหลังยันต์ เมือรคร สมัยอยุธยา

ผมเองเมื่อก่อนที่จะมาบูชาแบบขึ้นคอ ก็ได้เอาพระอื่น ทั้งเกจิดังสายใตสายเหนือ สายกลาง มาก็มาก แต่ไม่ถูกใจเท่ากับพระอโยธยา กรุนี้ ตั้งแต่ได้มา เมื่อประมาณปี51 ต้นๆปี ก็ยังเอาพระอื่นขึ้นคอด้วยแต่ก็ไม่ถูกใจ จนถึงวันนี้เอาพระกรุอโยธยาขึ้นคอตลอด 3องค์บ้าง องค์เดียวบ้าง เพราะชอบมาก ครับ และให้ประสบการณ์หลายอย่าง เมื่อตอนปีใหม่  31ธันวาคม54 ท่าสีบ้านใหม่หลังน้ำท่วมใหญ่ที่วังน้อย อยุธยา ผมตกจากหลังคาบ้านเป็นทาวเฮาส์ (ผมยืนบนนั่งร้านท่าสีอยู่ครับ) พอดีสร้อยที่แขวนพระองค์น้ำทอง ไปเกี่ยวกับมุมนั้งร้านพอดีชนิดที่ว่าหน้าไปกระแทกกับนั้งร้าน โชคช่วย หรือ ที่เรียกว่า "คุณพระช่วย" ตามคำอุธานน่ะครับ สร้อยที่เป็นผ้าร่มไม่ขาดครับ  ตั้งสติได้ก็รีบคว้านั้งร้านแล้วปีนลงมา ที่ขา มีลอยขูดกับหลังคากระเบื้องนิดหน่อยครับพอสักพักก็มาดูสร้อย ตระขอห่วงก็ไม่อ้าออก ตัวผมเองตอนนั้นน้ำหนักประมาณ84โลครับ น่าจะขาดได้ง่ายๆมากกว่า *****เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ อย่าเรียบแบบ*****


สำหรับผมเอง ผมยกให้ พระกรุอโยธยาเป็นที่หนึ่งในคอผมครับ (ถึงแม้จะไม่มีใครรับรอง แต่ผมได้นำเสนอข้อมูลทางวิชาการจากโบราณวัตถุของแท้มาให้ชมกัน)ทุกวันนี้ไม่ได้หยิบพระอื่นๆเลยครับ ไม่ว่าจะดังแค่ไหน เีพียงแค่คำพูดใครๆก็พูดได้ ผมจึงหาข้อมูลมาให้ท่านได้ศึกษากัน พูดตามข้อมูลที่เห็นมาครับตามหลักฐานทางโบราณวัตถุ 


ต้องขออภัยหากข้อมูลเหล่านี้ทำให้พระเคลือบชื่อดังต้องเกิดผลกระทบตามมา ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยไม่ได้มีเจตนาใดๆในด้านธุรกิจซื้อขายเช่าบูชาพระเครื่องครับ


นี่จึงเป็นการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์ ขอซูฮกให้ครับ ยอดจริงๆ
พระเครื่องอโยธยา หลังมีเขียนอักษรภาษาโบราณแต่ไม่ทราบว่าภาษาอะไร ยังอยู่ระหว่างศึกษา

พระเครื่องอโยธยา การแตกลายของน้ำเคลือบ เซลาดอน

การแตกลายของน้ำเคลือบ เซลาดอน ขอสงวนโดยกรณ์ทองเปลว

ขอขอบพระคุณที่เข้ามาศึกษา ข้อมูล หวังว่าท่านคงได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อย


เชื่อในศรัทธา ความดีไม่วันตาย

*****ขออภัยที่ทำให้หลายท่านมีความเข้าใจผิดไป การที่ผมประกาศเรื่องการ ยุติ ระงับ การลงข้อมูลในเน็ต นั้น มิได้เป็นการเลิกบูชานับถือพระกรุอโยธยา แต่ยังบูชาขึ้นคออยู่เช่นเดิมเพียงแต่มิได้นำข้อมูลที่ได้ค้นหามาลงเพิ่มเติมเท่านั้นครับ เนื่องจากมีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิดนำไปตัดต่อให้เนื้อหาผิดไปและไม่เคารพสิทธิ์ของบุคคลอื่น ข้อมูลที่ยังไม่ได้ลงยังมีอีกแต่ขอเก็บไว้เป็นการส่วนตัวเท่านั้น จนกว่าจะได้ฤก ในการทำหนังสือออกมา จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกันครับ ขอยืนยันว่ากรณ์ทองเปลว ยังนับถือและบูชาพระกรุอโยธยาอยู่แน่นอนและตลอดไปครับ

*****ผมขอทิ้งท้ายหน่อยครับ น้ำเคลือบของพระวัดใหญ่เป็นน้ำเคลือบที่เป็นแบบสุโขทัย (ซึ่งคุณภาพไม่ดีเท่าของจีน ขอให้ดูภาพที่เป็นชิ้นส่วนไหที่มีรูปหัวสิงห์ครับเป็นเช่นนั้น)   ซึ่งต่างจากน้ำเคลือบของพระกรุอโยธยาที่เป็นน้ำเคลือบแบบจีนที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นนึง เช่นเดียวกับ เจกันเซลาดอน ตุ๊กตาเคลือบเซลาดอน ของจีนที่ลงไว้เป็นตัวอย่างครับ ขอบคุณที่เข้ามาชมครับ


พระศรีอโยธยา  นำขึ้นถวาย เมื่อ 27 01 2556 ด้วยความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ข้าพเจ้าจึงขอถวายสิ่งที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่ข้าพเจ้ามีอยู่

พระศรีอโยธยา
(พระเครื่องกรุอโยธยา)ประเภทเคลือบน้ำทอง

พระปางชนะมาร เป็นพระปางที่สร้างขึ้นจากพระพุทธประวัติ

ตอนที่พระพุทธเจ้าผจญมาร ***พระพุทธเจ้าได้ยื่นพระหัตถ์ ลงมาแตะกับพื้นธรณีเพื่อให้พระแม่ธรณีรับรู้เป็นพยาน ***

***พระนางวสุนธราเจ้าแม่ธรณีไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ต่อไปได้จึงแทรกปฐพีขึ้นมาปรากฏกายทำอัญชลีอภิวาทพระม.หาบุรุษ แล้วประกาศให้พญามารทราบว่า **พระมหาบุรุษเมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ ได้บำเพ็ญบุญมามากมาย

ตลอดกาลเหลือที่จะประมาณได้ แม้แต่น้ำกรวดที่หลั่งลงบนมวยผมข้าพเจ้าก็เหลือที่จะ.คณานับกล่าวจบก็ปล่อ.ยมวยผมบีบน้ำที่พระมหาบุรุษกรวดสะสมไว้ในอดีตเป็นอเนกชาติให้หลั่งไหลออกมามากมายกลายเป็นทะเล

กระแสน้ำพัดพาเอาพญามารและหมู่เสนามารลอยไป.สุดขอบฟ้าจักรวาล  พญามารตกตะลึงด้วยความอัศจรรย์ใจด้วยความกลัวภัยพนมมือนมัสการเปล่งคำสรรเสริญในบุญบารมียอมรับความปราชัย  แล้วรีบอันตรธานหนี

หายไปจากที่นั้นโดยเร็ว   ก่อนที่จะตรัสรู้ ภาวนาทำจิตให้แน่วแน่ ปราศจากกิเลสโดยลำดับ.และตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในที่สุด จึงเป็นที่มาของพระพิมพ์ปางชนะมาร

นับว่าเป็นปางที่เป็นมงคลที่สุด เป็นปางแห่งชัยชนะที่ผู้บูชานับถือจะประสบชัยชนะเช่นพระพุทธเจ้าหากอยู่ในศิลธรรมอันดี  (ขอสงวนสิทธิ์)


***เป็นพระพิมพ์ใหญ่เนื้อดินขาวเผา แต่ไม่ได้เคลือบน้ำเคลือบ***
เป็นพระที่ชำรุดเลยอาจไม่ได้นำมาเคลือบ
------พระองค์นี้แสดงให้เห็นเนื้อของดินที่นำมา
ทำองค์พระอย่างชัดเจน ว่าเป็นดินเก่า ชนิดดินใกล้เคียงกับเนื้อดินที่นำมาทำไหจีนและภาชนะในสมัยอยุธยา
ที่จัดโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์พระนคร พระองค์นี้จึงนับว่าเป็น***องค์ที่ให้ความรู้ในเรื่องของดินว่าเป็นลักษณะใดเนื้อหาเป็นเช่นไร แต่คุณลักษณะของดินแต่ละองอาจจะต่างกันเนื่องจากการเผาที่อาจจะโดนความร้อนไม่เท่ากันซึ้งก็มีให้เห็นอยู่หลายองค์ในขณะนี้ บางองค์ดินออกดิบๆไม่แกร่ง บางองค์ดินแกร่งแข็ง ( หน้า)
ภาพและบทความขอสงวนสิทธิ์ โดยกรณ์ทองเปลว

***เป็นพระพิมพ์ใหญ่เนื้อดินขาวเผา แต่ไม่ได้เคลือบน้ำเคลือบ***
เป็นพระที่ชำรุดเลยอาจไม่ได้นำมาเคลือบ
------พระองค์นี้แสดงให้เห็นเนื้อของดินที่นำมา
ทำองค์พระอย่างชัดเจน ว่าเป็นดินเก่า ชนิดดินใกล้เคียงกับเนื้อดินที่นำมาทำไหจีนและภาชนะในสมัยอยุธยา
ที่จัดโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์พระนคร พระองค์นี้จึงนับว่าเป็น***องค์ที่ให้ความรู้ในเรื่องของดินว่าเป็นลักษณะใดเนื้อหาเป็นเช่นไร แต่คุณลักษณะของดินแต่ละองอาจจะต่างกันเนื่องจากการเผาที่อาจจะโดนความร้อนไม่เท่ากันซึ้งก็มีให้เห็นอยู่หลายองค์ในขณะนี้ บางองค์ดินออกดิบๆไม่แกร่ง บางองค์ดินแกร่งแข็ง (หลัง )
ภาพและบทความขอสงวนสิทธิ์ โดยกรณ์ทองเปลว

พระกรุศรีอโยธยา พิมพ์ใหญ่ A2
เป็นองค์ที่สองที่ได้เห็นงามสง่า เช่นเดียวกับ องค์เคลือบเขียว ของคุณฉัตรบูรพา
ขอสงวนสิทธิ์โดย กรณ์ทองเปลว


ขอขอบคุณ คุณ ชินะโอภาสสะพานทอง นนทบุรี
ที่เอื้อเฟื้อภาพ


เนื้อดินขาว ไม่ได้เคลือบ


ลักษณะดินที่มีความใกล้เคียงกันมาก


ลักษณะดินที่มีความใกล้เคียงกันมาก


http://www.bkk1.in.th/Topic.aspx?TopicID=316232
วัดสังกระต่าย ชมภาพตาม นี้เลยครับ

ป้ายโฆษณา ทุกชนิด
ขอบคุณครับ
ชอบครับ

สวยงามครับ รักษาสภาพเดิมได้ดีมากครับ
พระเครื่องกรุอโยธยา พุทธศิลปแบบพระพุทธชินราช

เคลือบน้ำทอง

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

5 ปีที่ผ่านมา
10 ปีที่ผ่านมา
sadayu Icon พระกรุอโยธยา 7 อ่าน 3,182 12 ปีที่ผ่านมา
12 ปีที่ผ่านมา