เกลือ กับ ความเสี่ยงความดันโลหิตสูง

guest profile image guest


ปัจจุบันพบว่าคนไทยมีการบริโภคเกลือเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอายุระหว่าง 40-49 ปี คนกลุ่มนี้บริโภคเกลือมากขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า และเป็นกลุ่มอายุที่มักพบว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยพบว่าในภาคเหนือมีจำนวนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากที่สุด รองลงมาได้แก่ภาคกลาง กรุงเทพฯ ภาคอีสาน และภาคใต้ตามลำดับ
สาเหตุมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทย ที่นิยมรับประทานอาหารรสจัดซึ่งรวมถึงรสเค็ม สังเกตได้จากเครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว กะปิ ปลาร้า นอกจากนี้เกลือยังแฝงอยู่ใน
รูปของเกลือโซเดียมอื่นๆ ซึ่งมีอยู่ในอาหารและขนมเกือบทุกชนิด เช่นเนื้อสัตว์ อาหารจานด่วน ขนมกรุบกรอบต่างๆ ซึ่งหากร่างกายได้รับเกลือในปริมาณมาก โอกาสที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงก็ย่อมมากตามไปด้วยเช่นกัน

คนไทยเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้น
            จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าแนวโน้มตัวเลขผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในประเทศไทยสูงขึ้น 71 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจะมีผู้มีภาวะความดันโลหิตสูงประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งมีเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่รู้ตัวว่ากำลังมีภาวะความดันโลหิตสูง และในจำนวนนี้มีผู้เข้ารับการรักษาเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงมีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ทราบสาเหตุของการเกิดโรค ซึ่งโดยส่วนใหญ่แพทย์สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ส่วนที่เหลืออีก 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรค ทำให้จำเป็นต้องรักษาที่ปลายเหตุ โอกาสที่จะรักษาโรคให้หายขาดได้จึงมีค่อนข้างน้อย ซึ่งปัจจุบันแพทย์สามารถควบคุมการรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ถึงเป้าหมายมี ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์

            รศ.นพ.พีระ บูรณะกิจเจริญ แพทย์ที่ปรึกษาภาควิชาโรคความดันโลหิตสูง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ในฐานะอุปนายกสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เกลือ” เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจโต โรคไต โรคทางตา โรคหลอดเลือดแดงตีบ รวมถึงโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และเป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ของโลก

            ความน่ากลัวของโรคความดันโลหิตสูง คือการที่ผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคนี้ และเข้ารับการรักษาเมื่อมีอาการมากและมีผลแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง จึงทำให้การรักษายากขึ้น และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้การรักษาไม่ได้ผลคือการที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ละเลยที่จะรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ หรือรับประทานยาเฉพาะเวลาที่มีอาการเท่านั้น และในขณะเดียวกันโรคความดันโลหิตสูง ที่เกิดขึ้นในผู้ใหญ่นั้นประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ไม่ทราบสาเหตุ แพทย์จึงรักษาที่ปลายเหตุ

ค่าความดันโลหิตของคุณควรเป็นเท่าไร
            ตามปกติระดับความดันโลหิตควรอยู่ระหว่าง 120/80 มม.ปรอท ถ้าหากพบว่ามีค่าความดันสูงกว่านี้ แต่ไม่เกิน 140/90 มม.ปรอท ถือว่าเข้าข่ายความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง และหากว่ามีค่าความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 มม.ปรอทขึ้นไป ถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ดังนั้น ต้องควบคุมความดันโลหิตให้ต่ำกว่าค่าดังกล่าว แต่หากว่ามีความดันโลหิตสูงร่วมกับเป็นเบาหวานหรือโรคไต จะต้องลดความดันให้ต่ำกว่า 130/80 มม.ปรอท
หากค่าความดันโลหิตสูงกว่าที่ควรเป็น จะส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น โดยความดันโลหิตตัวบนที่สูงกว่าความดันโลหิตเป้าหมายของแต่ละคนทุกๆ 20 มม.ปรอท และความดันโลหิตตัวล่างทุกๆ 10 มม.ปรอท จะทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า
ดังนั้น สิ่งที่สามารถลดค่าความดันโลหิตได้ คือการรับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์ โดยต้องแน่ใจว่าได้รับยาตามที่แพทย์สั่ง เพราะแพทย์ได้คำนึงถึงประโยชน์อื่นๆ ที่นอกเหนือจากการลดความดันโลหิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจต้องใช้ยาลดความดันโลหิตมากกว่า 1 ชนิด เพื่อลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งสามารถทำได้โดยเพิ่มยาอีก 1 เม็ด ที่ออกฤทธิ์แตกต่างกันหรือจ่ายยา 2 ชนิด ที่ออกฤทธิ์แตกต่างกัน แต่รวมอยู่ในเม็ดเดียวกัน

อาหารประเภทใดมีเกลือโซเดียม?
1.อาหารที่มีเกลือโซเดียมสูง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
1.1 อาหารที่ใช้เกลือปรุงรส เช่น :
- ซอสรสเค็ม อาทิ น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม เต้าเจี้ยว
- ซอสหลายรส เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซีอิ๊วหวาน
- เครื่องปรุงรสที่มีเกลือมาก เช่น ซุปก้อน ผงชูรส ผงฟู
1.2 อาหารที่ใช้เกลือถนอมอาหาร เช่น :
- อาหารตากแห้ง อาทิ ปลาเค็ม กุ้งแห้ง กะปิ เต้าหู้ยี้ แหนม ไส้กรอก หมูยอ กุนเชียง ผลไม้ดอง ผักดอง รวมถึงอาหารสำเร็จรูปชนิดผง เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม
- เนื้อสัตว์ปรุงรส เช่น หมูหยอง หมูแผ่น กุนเชียง
- อาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กซอง ซุปซอง
- อาหารสำเร็จรูปบรรจุถุง เช่น ข้าวเกรียบ ข้าวตังปรุงรส มันฝรั่ง
2.อาหารที่มีเกลือโซเดียมปานกลาง เช่น อาหารที่ใช้สารปรุงแต่งรส อาทิ ผงชูรส สารกันบูด ผงฟู
3.อาหารที่มีเกลือโซเดียมอยู่ตามธรรมชาติ เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะอาหารทะเล อาทิ กุ้ง ปู หอย ปลา
 
อ้างอิงจากเว็บ http://board.palungjit.com/
ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

manman Icon ตามรอย สำรับแขกคลองบางหลวง อ่าน 4,507 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ก๋วยเตี๋ยวแขก(ก๋วยเตี๋ยวแกง) อ่าน 7,638 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
manman Icon บาเยีย อ่าน 3,717 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ข้าวต้มกุ้งปลาหมึก อ่าน 2,059 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ข้าวหมาก อ่าน 1,660 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon คาเนลบูลลาร์ อ่าน 1,500 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ชิฟฟ่อนชาเย็น อ่าน 1,785 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ขนมโตเกียวญี่ปุ่น อ่าน 2,269 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ขนมปังซุกกินี อ่าน 1,173 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ขนนปังใส้ไก่ อ่าน 1,550 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
guest Icon ขนนปังใส้ไก่หยองรสเด็ด อ่าน 2,932 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
manman Icon dumpling (แบบต้ม) อ่าน 1,076 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา
manman Icon ชีสเค็ก บลูเบอรรี่ - เชอรรี่ อ่าน 1,562 13 ปีที่ผ่านมา
13 ปีที่ผ่านมา