
"แบตเตอร์รี่มือถือของฉันหมด และต้องการชาร์จไฟ ไม่ทราบว่าในละแวกนี้มีใครพอจะมีไฟฟ้าให้ชาร์จบ้างไหม"
เบน-ชาฮาร์ ศิลปินวัย 46 ปี ไม่มีไฟฟ้าใช้มาตั้งแต่คืนวันจันทร์ (29 ต.ค.) เธอใช้ทั้งไอโฟนและไอแพดโพสต์อัปเดตสถานะบนเฟซบุ๊ค และติดตามข่าวจากทวิตเตอร์
"ฉันรู้สึกเหมือนถูกตัดขาด และพยายามอ่านทวีตที่เชื่อถือได้เท่านั้น" เบน-ชาฮาร์ โพสต์บนเฟซบุ๊คของเธอ
ผู้คนหลายล้านคนในนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ถูกสถานการณ์บังคับให้ทิ้งทีวีแล้วหันไปติดตามข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งอัปเดตเรื่องราวเกี่ยวกับซูเปอร์สตอร์มแซนดีอย่างมากมายและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์
การส่งข้อความถึงเพื่อนและครอบครัวผ่านโซเชียลมีเดีย มีตั้งแต่ "ไฟดับ" "ต้นไม้" "ความเสียหาย" ไปจนถึง "หวังว่าทุกคนปลอดภัย"
ขณะที่การอัพโหลดรูปเข้าสู่โปรแกรมอินสตาแกรมของเฟซบุ๊ค ก่อให้เกิดนักข่าวประชาชน โดยภาพที่ผู้คนอัพโหลดขึ้นอินสตาแกรมให้ความรู้สึกปนกันระหว่างน่ากลัว ปลอบโยน และเป็นประโยชน์
แต่ภาพส่วนใหญ่ค่อนข้างเกินจริง เช่น บ้านหลายสิบหลังถูกไฟไหม้ หรือสถานีรถไฟใต้ดินที่ดูเหมือนแม่น้ำ
เควิน ซิสสตรอม ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) อินสตาแกรม กล่าวว่า มีการโพสต์ภาพที่ติดแฮชแท็ก #sandy วินาทีละ 10 รูป ส่วนใหญ่เป็นการเตรียมตัวรับมือ และภาพกลางแจ้งต่างๆ
ฮูทสวีท บริษัทที่ติดตามความเห็นบนโซเชียลมีเดีย ระบุว่า เมื่อวันจันทร์ (29 ต.ค.) บรรดาเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย ใช้หรืออ้างถึงคำว่า "แซนดี" มากถึง 4.8 ล้านครั้ง พุ่งพรวดจาก 1.9 ล้านครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (28 ต.ค.)
http://www.thainotepc.co.th/