วันที่ 2 - พาเที่ยวตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) กินซูชิที่อร่อยที่สุดในโลกนี้!

ออกเดินทางจาก Shinjuku ไปยังตลาดปลาซึกิจิ วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดคือรถไฟใต้ดินสาย Toei Oedo Line ครับ (เรียกง่ายๆว่าใต้ดินสีม่วงก็ได้)

ถ้าเดินออกมาจากโรงแรม Shinjuku Sunroute Plaza เอาใกล้สุดเลยก็เลี้ยวซ้ายไปนิดเดียวไม่ถึง 100 เมตรจะเจอทางลงสถานีเลย แต่ผมอยากเดินชมวิวถ่ายรูปอีกสักหน่อย เลยขอเดินต่อไปขึ้นที่สถานี Yoyogi แทน (รหัสสถานี E-26) สถานี Yoyogi จะเป็นสถานีเชื่อมของ Oedo Line (ใต้ดิน) กับ JR บนดิน 2 สองสายคือ JR Yamanote และ JR Chuo Line ด้วยครับ เดินจากโรงแรมไปอีกแค่ 400 เมตรเอง อากาศกำลังเย็นสบายๆเลยครับ

สรุปชื่อเรียกรถไฟฟ้าแต่ละสายในโตเกียวให้คร่าวๆนะครับ

พวกรถไฟใต้ดิน จะเรียก Tokyo Metro หรือ Subway จะไม่มีคำนำหน้าว่า JR เนื่องจากเป็นของเอกชน ใช้บัตร JR Pass ไม่ได้

ใต้ดินสายสำคัญๆคือ Asakusa Line สายสีส้ม (รหัสสถานีจะขึ้นต้นด้วยตัว A) เอาไว้นั่งไป Tokyo Sky Tree (A-20) และวัด Asakusa (A-18)
Ginza Line ใต้ดินสายสีส้ม (รหัสสถานีจะขึ้นต้นด้วยตัว G) เอาไว้นั่งไปวัด Asakusa (G-19) และ Ginza (G-09) และ Harajuku (Omote-sando G-02)
Oedo Line ใต้ดินสายสีม่วง (รหัสสถานีจะขึ้นต้นด้วยตัว E) เอาไว้นั่งไปชินจูกุ (E-01 และ E-27) สวน Yoyogi ศาลเจ้าเมจิ (E-26) และตลาดปลาซึกิจิ (E-18)

ส่วนรถไฟฟ้าบนดิน มักจะขึ้นต้นด้วย JR ในโตเกียวมี 2 สายสำคัญๆคือ JR Yamanote สายสีเขียว เป็นสายที่นิยมมากที่สุดและผ่านสถานที่สำคัญมากที่ คนส่วนใหญ่เลยมักจะเรียกย่อๆกันง่ายๆว่า JR แต่ถ้าไปถามทางคนญี่ปุ่นเอง ถ้าพูดว่า JR เฉยๆเค้าจะงงนะครับ ต้องบอกให้ครบๆว่า JR สายอะไรด้วย อย่าง JR Chuo Line สายสีเหลืองเองคนญี่ปุ่นก็ใช้เยอะเหมือนกัน ใช้บัตร JR Pass ได้ทุกสายที่ขึ้นต้นด้วย JR


ดูแผนที่รถไฟใต้ดินของโตเกียวได้ที่นี่
http://www.tokyometro.jp/en/subwaymap/pdf/routemap_en.pdf

ระหว่างทางเดินไปรถไฟใต้ดินครับ

ลงมาใต้ดินแล้ว จะเห็นป้ายคำว่า Toei Oedo Line แสดงมาถูกแล้วครับ

ซื้อตั๋วไปลงสถานี Tsukiji shijo (E-18) ได้เลยครับ พอออกจากสถานีมาจะเห็นป้ายบอกเลยว่าไป Tsukiji Fish Market ออก Exit A1 จะใกล้ที่สุดครับ

ถ้าใช้ทางออก A1 ขึ้นมา เจอแยกเลี้ยวซ้ายมาเลยครับ ตลาดจะอยู่ด้านหลังเรา ไม่ต้องข้ามถนนเลย

ผม capture แผนที่ตลาดมาให้ดูกัน จุด A คือทางออกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จุด B  คือโซนร้านอาหาร สามารถเดินตัดเข้าไปในตลาดได้เลยครับ

เดินเข้าไปตรงที่มีรถขนปลาวิ่งเยอะๆนั่นแล่ะ

ตลาดปลาซึกิจิไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็นของคาวปลาเท่าไร สะอาดกว่าตลาดสดบ้านเราเยอะครับ

เดินเข้ามาจะผ่านโซนร้านอาหารก่อนซึ่งอยู่บริเวณรอบนอกของตลาด ส่วนที่ขายส่งปลาและประมูลปลาจะต้องเดินเข้าไปข้างในอีก หากจะมาดูในส่วนของที่ขายส่งปลาต้องมาเช้าๆหน่อยสัก 7-9 โมงเช้า ปลาจะเพิ่งลงใหม่ๆเลยครับ

ในโซนร้านอาหารจะเป็นร้านซูชิประมาณ 90% ครับ จุดขายของร้านในนี้คือความสดใหม่ของปลาดิบ ร้านที่คนต่อคิวหน้าร้านไม่เยอะ จะอร่อยสู้ร้านที่มีคิวเยอะๆไม่ได้ แบบกินแล้วรู้สึกได้ครับ (ผมเคยลองกินมาแล้ว 2-3 ร้านในทริปก่อนหน้านี้) แต่ถึงยังไงก็ตามร้านแบบโนเนมก็ยังอร่อยกว่าร้านซูชิในบ้านเราอยู่เยอะครับ เพราะความสำคัญของซูชิอยู่ที่ความสดของวัตถุดิบ 70% ครับ อีก 30% เป็นฝีมือของพ่อครับ

ถ้าหิวมากๆไม่อยากรอคิวนาน ก็เข้าไปร้านใหนไปก็ได้ครับ หรืออาจจะเลือกร้านที่คิวน้อยที่สุดก็ได้

ตอนแรกผมตั้งใจจะมารอคิวร้าน Sushi Dai ร้านที่ดังที่สุดในตลาด แต่เห็นคิวแล้ว รอประมาณ 2 ชั่วโมงน่าจะได้ เลยถอดใจไปกินร้านอื่นแทนครับ

นี่คือร้านที่ผมเลือกทานในวันนี้ครับ ไม่ใช่ร้านดังระดับตำนาน แต่เห็นเมนูกับคิวที่รอแล้วก็เดาว่าน่าจะอร่อยใช้ได้อยู่

ที่ญี่ปุ่นเวลาเข้าคิวต่อแถวยาวๆจนบังร้านอื่น เค้าจะยืนเว้นที่หน้าร้านอื่นให้นะครับ เรื่องความเป็นระเบียบวินัยนี่ผมว่าอันดับ 1 ในโลกแล้ว

ระหว่างรอคิวพวกเราก็ผลัดกันไปเดินเล่นรอครับ มีร้านขายวาซาบิด้วย มาแบบสดๆเลย ใครจะซื้อไปขูดเองบ้างก็ได้นะ

ร้านขายหนังสือทำอาหารญี่ปุ่นก็มี

ผักผลไม้ต่างๆ ขายอยู่บริเวณแถวโซนร้านอาหารด้วยเหมือนกัน

เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆระหว่างรอคิว

เจ้ารถขนปลาในตลาดแบบนี้เมืองไทยน่าจะเอามาใช้บ้างนะ

ใกล้จะถึงคิวเราแล้ว ร้านนี้สั่งอาหารง่ายมากครับ มีรูปภาพให้ชี้ๆจากรูปเลย มีเลขกำกับ เราก็บอกไปว่าเอาเบอร์ 4 เบอร์ 5 ทำนองนี้

แอบดูภายในร้านแคบมากๆ

มาแล้วครับ เมนูแรก ชี้ๆจากรูปเอาครับ ร้านนี้จะเน้นเป็นพวกข้าวหน้าปลาดิบ พวกซูชิเป็นคำๆไม่มีครับ

เมนูที่สองครับ มีปลาโอโทโร่ กุ้งหวาน ไข่ปลาแซลมอน อร่อยลืมโลกไปเลยครับ เมนูละประมาณ 3 พันเยนได้ครับ

อิ่มแล้วก็ออกลุยต่อ มาดูคนต่อแถวร้านซูชิไดกัน ยังคนเยอะอยู่เลย

กว่าจะกินเสร็จก็ราวๆ 11 โมงกว่าได้ ตลาดเริ่มวายแล้วครับ

พอมีเหลืออยู่แค่ไม่กี่ร้านเท่านั้น ลองเข้าไปดูนิดนึง

ตรงกลางเป็นปลาอาจิ (ปลาทูญี่ปุ่น) ขวามือสีแดงๆเป็นปลาคินเมะได คนญี่ปุ่นนิยมกินกัน หากินในเมืองไทยยากมาก

พวกหอยต่างๆ ยังไม่ตายนะ ยังมีชีวิตอยู่ทุกตัว

ปลาคินเมะได แบบชัดๆ

หนวดปลาหมึกยักษ์

ใครอยากดูเค้าแล่ปลาทูน่าให้รีบมาเช้าๆหน่อย สักก่อน 7-8 โมงเช้าครับ หลายๆร้านจะมีพ่อค้ามาแล่ปลาทูน่ากันสดๆหน้าร้านเลย

เสร็จจากตลาดปลาซึกิจิแล้ว เดี๋ยวช่วงบ่ายเราจะพาไปเที่ยวหอคอย Tokyo Sky Tree ครับ นั่งรถไฟใต้ดินไปอีกไม่ไกล ติดตามชมในกระทู้ต่อไปได้เลยครับ

เห็นภาพอาหารแล้วอยากบอกว่าน่ากินม๊ากกกกก  ถ่ายออกมาต้องบอกว่าเป็นแล้วหิวเลย 

ปล.เพิ่งเคยเห็นต้นวาซาบิครั้งแรก น่าตาแปลกดี  ไม่น่าเผ็ดเลย

แต่ที่ทั้งน่ากินน่าเที่ยว น้ำลายไหลย้อยละจ้า

น่าไปมากอ่ะ

ประทับใจอ่า