วันที่ 5 บ่าย พาเที่ยว Tempozan พิพิธภัณฑ์ Kaiyukan แถมท้ายด้วยตะลุยห้าง Hanshin/Hankyu

สำหรับการเดินทางมายัง Kaiyukan/Tempozan นั้น ให้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Chuo Line มาลงที่สถานี Osaka-ko (โอซาก้า โกะ) นะครับ แต่ช่วงที่ใกล้จะถึงสถานี Osaka-ko นั้น รถไฟฟ้าจะวิ่งโผล่ขึ้นมาบนดินแทนครับ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเกาะที่ถมทะเลขึ้นมาใหม่ คาดว่าทำให้การขุดเจาะทางรถไฟใต้ดินทำได้ยาก ก็เลยวิ่งโผล่ขึ้นมาบนดินซะเลย

ถ้ามองเห็นวิวทะเลแบบนี้ก็แสดงว่าใกล้จะถึงละ

ถึงสถานี Osaka-ko แล้ว ออกจากช่องเก็บตั๋วมาก็จะเห็นป้ายคำว่า Aquarium กับ Kaiyukan บอกไว้ชัดเจน

ลงมาจากสถานีแล้วก็เดินต่อไปอีกนิดเดียว ประมาณ 200 เมตรได้ ระหว่างทางก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายทาโกะยากิ ของหวานต่างๆอยู่ข้างทางหลายร้านเลย

เดินมาเรื่อยๆผ่านแยกเล็กอีกแยกนึง จะมีร้านขายเครป แล้วก็ทาโกะยากิ (ร้านเล็กๆตรงกลาง) ส่วนขวามือจะเป็นร้านสุกี้หม้อไฟ (มีซอฟครีมขายด้วย)

เดินข้ามถนนมาอีกนิดก็จะเห็นเจ้าชิงข้าสวรรค์อันใหญ่ยักษ์อยู่ข้างหน้าแล้ว ใครอยากขึ้นไปชมวิวแนะนำให้มาสักช่วงเย็นๆค่ำๆวิวจะสวยมากครับ

เจ้า Giant Ferris Wheel หรือชิงช้าสวรรค์นี้เหมาะสำหรับคู่รักที่ไปเดทกันมากๆ ใช้เวลารอบละ 15 นาที

อัพเดทล่าสุด: ได้ข่าวว่าจะมีการปิดปรับปรุงเฉพาะในส่วนของชิงช้าสวรรค์ช่วงมกราคม ถึงเมษายน ปี 2014 นี้นะครับ

ในส่วนของ Tempozan นี้หลักๆที่นิยมมาเที่ยวกันก็จะมีเจ้าชิงช้าสวรรค์อันนี้ กับพิพิธภัณท์ Kaiyukan แล้วก็นั่งเรือสำเภา Santa Maria ครับ ซึงครั้งนี้ผมไม่ได้ลองนั่งเรือสำเภาเนื่องจากเวลาไม่พอ

มองไปทางด้านซ้ายก็จะเห็นตึกเหลี่ยมๆสีแดงๆ นั่นก็คือ Kaiyukan ครับ จริงๆที่เรามองเห็นนั้นเป็นแค่ส่วนด้านบนของพิพิธภัณท์เท่านั้น แต่เข้าไปแล้วยังเดินลงไปได้อีก 2-3 ชั้น เพราะเค้าออกแบบให้เป็นทรงสูงครับ จะเริ่มต้นเดินเข้าไปจากด้านบนแล้วก็เดินลงมาเรื่อยๆ

ค่าเข้าชม Aquarium อยู่ที่คนละ 2,300 เยน หรือประมาณ 750 บาท ซึ่งก็ถือว่าแพงเหมือนกัน หากมากันหลายๆคน ใครที่ไม่อยากเข้าชมก็สามารถนั่งรอตรงบริเวณศูนย์อาหาร หรือเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆรอก็ได้

ระหว่างเดินขึ้นไปยังทางเข้า Aquarium ก็มองเห็นเรือสำเภา Santa Maria ผ่านมาพอดี แต่ขอบอกว่าแถวนี้ลมแรงมากๆยิ่งช่วงหน้าหนาวล่ะก็ รับรองหนาวหน้าชาแน่ๆ

เข้ามาใน Kaiyukan ช่วงแรกๆจะเป็นตู้ปลาโชว์สัตว์น้ำแต่ละประเภทๆ แรกๆจะเป็นโซนของสัตว์น้ำจืด

ที่ญี่ปุ่น วัยรุ่นและคนหนุ่มสาวเค้านิยมมาเที่ยวแล้วก็มาเดทกันในพิพิธภัณท์เยอะครับ 

ตู้โชว์นกเพนกวิน นกตัวใหญ่มากๆครับ แต่ตู้เล็กไปนิดนึง

ถัดมาจะเป็นการโชว์ปลาโลมา แล้วก็จะมีการแสดงให้อาหารโชว์เป็นรอบๆครับ (มีแค่เท่าที่เห็นในรูปเลยครับ ไม่มีการแสดงเล่นลูกบอลเหมือนพวก disney sea นะ)  

เดินมาเรื่อยๆจะเจอตู้ใหญ่ขึ้นๆ อลังการมากขึ้น ตู้นี้จะมีปลาไหลมอร์เรย์ด้วย

ถึงตู้ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่แล้วครับ ขนาดใหญ่มากๆ สูงประมาณ 3-4 ชั้นได้ ตัวที่เป็นไฮไลท์ก็จะมีกระเบนยักษ์กับเจ้าวาฬครับ

มีเจ้าฝูงปลาที่ว่ายวนเป็นเกลียวคลื่นอยู่กลุ่มใหญ่ สวยงามมากๆ สะท้อนแสงระยิบระยับ

หลังจากเดินลงมาเรื่อยๆก็จะเป็นโซนสัตว์น้ำลึกแล้วครับ ตู้นี้เป็นปูยักษ์ ตัวใหญ่เท่าคนเลย

ที่ Kaiyukan นี่ในแต่ละโซนเค้าจะมีจุดให้นักเรียนมาประทับตราลงสมุด เพื่อเป็นการยืนยันว่าได้มาดูที่นี่แล้ว น่าจะเอาไว้ป้องกันการดูไม่ครบทุกจุดนะครับ

กว่าจะดูเสร็จก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ออกมาก็เริ่มจะมืดแล้ว จริงๆแค่เพิ่ง 4 โมงครึ่งเอง

บริเวณอาคารต่างๆกับชิงช้าสวรรค์ก็จะเริ่มเปิดไฟแล้ว ดูสวยงามและโรแมนติคมากๆ

ตรงแสงไฟของชิงช้าสวรรค์จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆครับ

ระหว่างทางเดินกลับไปยังสถานีรถไฟฟ้า Osakako เราก็แวะกินชาเขียวร้อนกันที่ร้านเครปที่ผ่านมาตอนแรกก่อนครับ เจ้าของร้านเป็นลุงกะป้ามาขายเองเลย อัธยาศัยดีมากๆแล้วก็พูดภาษาอังกฤษพอได้ครับ

พักดื่มชาเขียวร้อนๆแก้หนาวก่อนครับ

เจ้าของร้านใจดีครับ ใครผ่านไปก็ลองแวะไปชิมดูได้ครับ

หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไฟฟ้ากลับไปยังสถานี Umeda หรือสถานี Osaka ครับ 

ถ้านั่งใต้ดินเค้าจะเรียกสถานี Umeda แต่ถ้านั่งบนดินหรือ JR Loop Line ก็ลงสถานี Osaka ครับ

ถึงสถานี Osaka แล้วครับ (ผมนั่ง JR มา) ตรงนี้จะเป็นสถานีที่ใหญ่มากๆ น่าจะใหญ่สุดใน Osaka แล้ว เดินไปเดินมาระวังหลงเอานะ

เดี่ยวผมจะพาไปชมในส่วนของ supermarket หรือชั้นใต้ดินของ department store กันครับ 

ที่ Umeda นี้จะเป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงาน โรงแรมและห้างมากมาย อย่าง Umeda Sky Building ก็อยู่บริเวณนี้ด้วยเหมือนกัน  ส่วนห้างสรรพสินค้าที่ดังๆย่านนี้ก็คือ ห้าง Hanshin และห้าง Hankyu ซึ่งอยู่ในตัวสถานีรถไฟเลยครับ

ที่ชั้นใต้ดินนี้จะเป็นแหล่งรวมอาหารสำหรับซื้อกลับบ้านเป็นส่วนใหญ่ คล้ายๆ supermarket รวมกับศูนย์อาหารทำนองนั้น 

อาหารต่างๆจะมีราคาติดไว้เรียบร้อย ส่วนใหญ่จะทำไว้สำหรับซื้อกลับบ้านอยู่แล้วครับ ใครสนใจก็เอานิ้วไปจิ้มๆที่หน้าตู้ซื้อได้เลย

อาหารในนี้ราคาค่อนข้างถูกถ้าเทียบกับกินตามร้านอาหาร เรียกว่าถูกว่าเกือบครึ่งๆเลย

ใน department store ที่นี่หาชุดข้าวกล่องปลาดิบยากสักหน่อย มีแค่ไม่กี่ตู้เท่านั้น ต้องเดินดูให้ทั่วๆครับ ผมลองซื้อกลับมากล่องนึง คุณภาพและความอร่อยยังสู้กินในร้านไม่ได้ แต่ก็ยังถือว่าพอใช่ได้ครับ

ข้าวหน้าปลาดิบราคาประมาณกล่องละ 800-1,000 เยนครับ เจอแล้วก็รีบซื้อได้เลย เพราะมีขายซูชิแค่ไม่กี่ร้านเท่านั้น ส่วนใหญ่จะขายของทอดๆย่างๆ

พวกขนม ของหวาน ของฝากต่างๆ ซื้อที่นี่ก็ได้ครับ มีขายเยอะแยะเลย 

หรือจะเป็นพวกสลัดต่างๆ ของทานเล่นเบาๆก็มีเพียบ ที่สำคัญคือเค้าจัดแสดงได้สวยงามน่าทานมากๆ

ลืมบอกไปครับ เมื่อตอนแรกที่เราไปมาคือห้าง Hankyu เดี๋ยวเราจะเดินไปดูที่ห้าง Hanshin กันบ้าง อยู่ติดๆกันเลยครับ

ในส่วนของฝั่ง Hanshin นั้นจะดูหรูหรากว่าเล็กน้อย สินค้าจะเป็นเกรดพรีเมี่ยมกว่าและราคาสูงกว่า และเนื่องจากเค้าห้ามถ่ายรูป เลยต้องแอบๆถ่ายมาครับ

ผลไม้ที่นี่ถือเป็นอาหารเกรดพรีเมียม ราคาแพงม๊ากกกกกครับ ยิ่งถ้าเป็นที่ปลูกในญี่ปุ่นเองจะยิ่งแพงเข้าไปอีก แต่ส่วนใหญ่ก็จะนำเข้ามาจากแถวๆบ้านเรานี่ละ

ถ้าเกิดอยากจะแค่แวะมาหาซื้ออะไรกินล่ะก็ แนะนำให้เดินแค่ฝั่ง Hankyu ก็พอครับ ของเยอะกว่า ราคาถูกกว่า ส่วนฝั่ง Hanshin นั้นจะเป็นแนวไฮโซเดินมากกว่าครับ จริงๆมีห้าง Daimaru อีก แต่เนื่องจากเดินไม่ไหวแล้วก็เลยไม่ได้เข้าไปดูครับ

ปล.ห้างที่นี่ส่วนใหญ่ปิด 2 ทุ่มนะครับ ถ้าจะไปก็รีบๆไปนิดนึงเด้วจะซื้อของไม่ทัน

วันนี้พอแค่นี้ครับ กลับไปนอนเอาแรงต่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวเกียวโตกัน คอยติดตามชมนะครับ

รบกวนสอบถามหน่อยครับ
พอดีจะไป Osaka มีเวลาเที่ยวเอง 2 วัน ช่วง 10-11 เมษา
ว่าจะพาลูกๆ ไปนั่งชิงช้าสวรรค์

เห็นบอกว่ามีการปิดปรับปรุงชิงช้าสวรรค์ ไม่แน่ใจว่าปิดเป็นบางเวลา หรือว่าปิดตลอดวันครับ

พยายามหาใน website เจอตามเอกสารแนบครับ
แปลจาก Google ประมาณว่าปิดถึง 20 เมษา (ประมาณการณ์)

น่าจะปิดตลอดเวลาเลยครับ เห็นว่าปิดปรับปรุงน่ะครับ พาไปนั่งเรือสำเภาแทนก็ได้ครับ

พิธภัณท์ Kaiyukan น่าไปจัง / ชาเขียวที่ญี่ปุ่นกับที่ไทย ไม่เหมือนกันเลย 

เคยไปแต่เที่ยวในโตเกียวยังไม่เคยลองโอซาก้าเลยน่าลองมาก